ผู้หญิงคนหนึ่งในออสเตรเลียถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบนำเข้าอาหารจากประเทศไทยกว่า 62,000 กิโลกรัม เข้ามายังออสเตรเลีย เพื่อจำหน่ายในตลาดมืดที่ซิดนีย์
หญิงรายนี้เป็นผู้ประสานการนำเข้าผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายหลายรายการ รวมถึงหมูดิบ ผักผลไม้สดที่มีแมลงปะปน เนื้อกบ และกุ้งดิบ
โดยใช้วิธีสำแดงข้อมูลเท็จ ด้วยการเปลี่ยนฉลากสินค้า รวมถึงยื่นเอกสารปลอมเพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการควบคุมทางชีวภาพ (biosecurity controls)
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้พิพากษาได้ตัดสินลงโทษรวมผิด 9 ข้อหา ภายใต้พระราชบัญญัติความมั่นคงทางชีวภาพ (Biosecurity Act 2015) โดยมีโทษจำคุกเป็นเวลา 24 เดือน โดยให้รับโทษภายใต้คำสั่งควบคุมแบบเข้มข้น (Intensive Corrections Order) และให้ทำบริการสาธารณะจำนวน 150 ชั่วโมง
โดยมีแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนเป็นผู้แจ้งเบาะแสให้กับหน่วยงานเกี่ยวกับการปรากฏของอาหารผิดกฎหมายจากประเทศไทย ซึ่งมีวางจำหน่ายในตลาดมืดของซิดนีย์

ทางด้านจัสทีน ซอนเดอร์ส (Justine Saunders) รองปลัดกระทรวงด้านความมั่นคงทางชีวภาพ การปฏิบัติการ และการบังคับใช้กฎหมาย (Biosecurity, Compliance and Operations) เน้นย้ำว่า
กฎและมาตรการด้านความมั่นคงทางชีวภาพของออสเตรเลียนั้นเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายด้านความมั่นคงทางชีวภาพของออสเตรเลีย อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และเสียค่าปรับสูงสุด 1.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียซอนเดอร์สกล่าว

จากเว็บไซต์ของกระทรวงการเกษตรของออสเตรเลีย เตือนผู้เดินทางว่าห้ามนำผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูเข้ามายังออสเตรเลีย Source: Pixabay / Pixabay ludiarin
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักงานตรวงคนเข้าเมืองออสเตรเลีย สำหรับคนทั่วไปที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลีย
หากนำผลิตภัณฑ์ต้องห้ามเข้ามาแล้วไม่สำแดงหรือจงใจให้ข้อมูลผิดในบัตรโดยสารขาเข้า หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity officer) หรือไม่สามารถตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งของต้องสำแดงที่คุณนำมาได้
คุณอาจต้องโทษที่รุนแรง เช่น ถูกปรับ ถูกจับในข้อหาทางแพ่งหรือคดีอาญา ถูกเพิกถอนวีซ่าหรือถูกส่งกลับมาตุภูมิ

ป้ายห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเนื้อหมูเข้ามาในออสเตรเลีย Credit: Helen Chen
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดสิ่งของต้องสำแดงและข้อบังคับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มเติมได้ที่ www.abf.gov.au/entering-and-leaving-australia/can-you-bring-it-in