ประเด็นสำคัญ
- งานวิจัยใหม่ชี้ว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นกำลังทำให้ผู้คนตัดสินใจเลือกบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
- การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคต่างๆ ในออสเตรเลีย
- ขณะเดียวกัน อาหารที่สามารถรับประทานได้หลายล้านตันถูกทิ้งเป็นขยะในแต่ละปี
มีชาวออสเตรเลียไม่ถึงหนึ่งในยี่สิบคนที่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่สอดคล้องกับแนวทางการบริโภคอาหารของออสเตรเลีย
จากรายงานล่าสุด Food System Horizons ของ CSIRO ระบุว่า คนออสเตรเลียกำลังเผชิญกับโรคต่าง ๆ จากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดี แม้ประเทศจะมีอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงอย่างเพียงพอ
ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) แสดงให้เห็นว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจของผลไม้ที่ผลิตภายในประเทศ (ไม่รวมองุ่นสำหรับผลิตไวน์) อยู่ที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022-23 โดยมีปริมาณจำหน่าย 2.7 ล้านตันในปีเดียวกัน
ในทำนองเดียวกัน มูลค่าของผักที่ผลิตในประเทศอยู่ที่ 5.8 พันล้านดอลลาร์ โดยมีปริมาณจำหน่าย 3.6 ล้านตัน
ด้วยปริมาณอาหารสดจำนวนมากที่ไม่ถูกนำมาใช้ ก่อให้เกิดขยะอินทรีย์จำนวน 33 ล้านตันต่อปี
รายงานของ CSIRO ประเมินว่า การผลิต การกระจาย และการบริโภคอาหารของออสเตรเลียมีมูลค่ารวม 800 พันล้านดอลลาร์ และเป็นแหล่งจ้างงานของประชากรราว 3.5 ล้านคน
แต่ทีมนักวิจัยชี้ว่า ระบบอาหารนี้ยังไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน และการขาดแคลนอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและราคาย่อมเยา เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคต่าง ๆ ในประเทศ
การขาดทางเลือกเป็นปัจจัยหนึ่งของการกินที่ไม่ดี
Larelle McMillan ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยโครงการเกษตรกรรมและความยั่งยืนของอาหารแห่ง CSIRO กล่าวว่า ราคาของอาหารและปัญหาด้านสุขภาพกำลัง "ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวออสเตรเลีย"
เธอกล่าวว่า การขาดทางเลือกก็มีส่วนทำให้เกิดสถานการณ์นี้
“การระบาดของโรคและปัญหาด้านสุขภาพมักถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอมรับได้จากการเลือกของแต่ละคน” เธอกล่าวกับ SBS News
“แต่ในความเป็นจริง การเลือกเหล่านั้นก็มีองค์ประกอบที่นำเราให้ห่างไกลจากอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน”

Source: SBS
ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ชนบทหรือห่างไกล มักจะเจอกับราคาสินค้าที่แพงกว่า และมีตัวเลือกน้อยกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกอาหารของพวกเขา
ตามรายงานนี้ พบว่า 6% ของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภูมิภาคเข้าถึงร้านขายอาหารได้เพียงแห่งเดียว และตัวเลขนี้พุ่งขึ้นกว่า 5 เท่าเป็น 34% สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้ชาวออสเตรเลียจำนวนมากไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ตามรายงานระบุ
มีชาวออสเตรเลียไม่ถึงร้อยละ 5 ที่บริโภคผักและผลไม้เพียงพอตามที่แนวทางการบริโภคอาหารของรัฐบาลกลางแนะนำ
ในทางตรงกันข้าม มีการบริโภค “อาหารทางเลือก” หรืออาหารที่ไม่จำเป็น เช่น ขนมปังกรอบและเนื้อแปรรูป มากเป็นสองเท่าของอาหารหลัก
การขาดสารอาหารในอาหารประจำวันอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย (AIHW) ชี้ว่า ความเสี่ยงจากอาหาร เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดภาระโรคในประเทศ

Source: SBS
ความสะดวกมาก่อนโภชนาการ
ลิลลี ลิม คามาโช (Lilly Lim-Camacho) นักวิจัยอาวุโสแห่ง CSIRO อธิบายว่า ความสะดวกเป็นตัวผลักดันพฤติกรรมการซื้ออาหารของผู้บริโภค
“เมื่อพูดถึงการซื้ออาหาร การซื้อของสดเพื่อนำมาทำเองที่บ้านไม่ได้สะดวกเท่ากับทางเลือกอื่น ๆ” เธอกล่าวกับ SBS News
“นอกจากนี้ มันยังถูกมองว่าแพง ไม่ใช่แค่เพราะราคาสูงขึ้นเท่านั้น แต่รวมถึงเวลาที่ต้องใช้ในการเตรียมอาหารด้วย”
เธอเสริมอีกว่า สภาพแวดล้อมที่ผู้คนพบเจอในระหว่างการซื้ออาหารก็มีส่วน เพราะผู้คนสามารถถูกชักจูงจากการตลาดได้
รายงานของ CSIRO ยังเน้นว่า ร้านอาหารจานด่วนมักจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ที่มีความยากจนทางเศรษฐกิจและใกล้กับโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีในกลุ่มเหล่านี้
“ตัวอย่างเช่น การที่เด็ก ๆ ได้เห็นโฆษณาอาหารฟาสต์ฟู้ด อาจมีผลต่อสิ่งที่พวกเขาอยากกินในภายหลัง” เธอกล่าว
รายงานยังกล่าวเสริมว่า ผู้ที่มีความเสียเปรียบทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภูมิภาคและห่างไกล มักจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดจากปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร
อาหารสดและดีต่อสุขภาพถูกทิ้งทุกปี
องค์กรการกุศลด้านอาหารในออสเตรเลียที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและราคาเอื้อมถึง กล่าวว่า ค่าครองชีพยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ในการกินอาหารอย่างมีสุขภาพ
ขณะเดียวกัน มีอาหารจำนวนหลายล้านตันที่ถูกทิ้งลงถังขยะในแต่ละปี ตามรายงานของ Foodbank Australia
“ออสเตรเลียทิ้งอาหารที่สามารถรับประทานได้มากกว่า 7.6 ล้านตันต่อปี” Sarah Pennell ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการขององค์กรกล่าวกับ SBS News
“เราต้องการเห็นอาหารส่วนเกินที่ดีเหล่านี้ถูกส่งต่อให้กับองค์กรการกุศลอย่าง Foodbank แทนที่จะลงสู่หลุมฝังกลบ ถ้ามีนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม เราสามารถลดขยะอาหารได้อย่างมากและเพิ่มความช่วยเหลือด้านอาหารได้อีกมาก”
อะไรคือสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้?
Daniel Moorfield ซีอีโอขององค์กร Food charity Second Bite บอกกับ SBS News ว่าพวกเขาช่วยเหลืออาหารได้ประมาณ 25 ล้านกิโลกรัมต่อปี เทียบเท่ากับมื้ออาหาร 50 ล้านมื้อ
แต่เขาย้ำว่ายังสามารถทำได้มากกว่านี้ หากได้รับการสนับสนุน
“เราสนับสนุนอย่างเต็มที่กับข้อเสนอ National Food Donation Tax Incentive ที่กระตุ้นให้ธุรกิจต่าง ๆ บริจาคอาหารส่วนเกิน แทนที่จะทิ้งเป็นขยะ เพื่อช่วยเลี้ยงดูชาวออสเตรเลียที่ต้องการความช่วยเหลือ” เขากล่าว
“นโยบายง่าย ๆ แบบนี้สามารถช่วยมอบมื้ออาหารที่มีคุณภาพให้ชาวออสเตรเลียจำนวนมาก เพิ่มความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ พร้อมทั้งส่งเสริมเป้าหมายลดขยะอาหารของประเทศ”
READ MORE

โภชนาการดีไม่มีตกสมัย
รายงานของ CSIRO ระบุว่า หนึ่งในแนวทางที่อาจช่วยกระตุ้นให้ผู้คนเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ คือการเก็บภาษีอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้แนะนำมาตรการภาษีเครื่องดื่มน้ำตาลไว้ในปี 2022
Pennell กล่าวว่า การเก็บภาษีแบบนี้ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อยด้วย
“เราจะสนับสนุนนโยบายที่มีการวางแผนมาอย่างดีซึ่งส่งเสริมสุขภาพด้านอาหาร และสนับสนุนความช่วยเหลือด้านอาหาร ตราบใดที่มันไม่ทำให้ชีวิตของผู้ที่กำลังลำบากอยู่แล้วแย่ลง”