นโยบายลดคนเข้าเมืองของฝ่ายค้านกลายเป็นดาบสองคมหรือไม่?

นักวิเคราะห์ผลสำรวจระบุว่า นโยบายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน (Coalition) ที่ประกาศจะลดจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่น สร้างผลสะท้อนในแง่ลบต่อชุมชนผู้ย้ายถิ่นในออสเตรเลียและชี้ว่าท่าทีนี้อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงจากชุมชนผู้อพยพ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งระดับชาติ

A composite image that includes Peter Dutton, people walking through an airport, a plane in the sky, apartment buildings, a family and two older people walking past a house.

พรรคร่วมฝ่ายค้าน (The Coalition) เสนอว่าจะลดจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นสุทธิจากต่างประเทศลง 100,000 คน หากพวกเขาได้รับเลือกตั้ง Source: AAP, SBS

คำมั่นที่จะลดจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นอาจกลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน (Coalition) หลังพ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์

หนึ่งในนโยบายหลักของพรรคในการหาเสียง คือการเสนอให้ลดจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นสุทธิลง 100,000 คน (ซึ่งหมายถึงส่วนต่างระหว่างจำนวนผู้เดินทางเข้าและออกจากออสเตรเลีย)

แม้พรรคร่วมจะระบุว่าการลดจำนวนนี้จะเน้นไปที่กลุ่มแรงงานทักษะสูงเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนว่าจะลดจากประเภทวีซ่าใดบ้าง ส่งผลให้ถูกวิจารณ์อย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง

ไซมอน เวลช์ ผู้อำนวยการกลุ่มเรดบริดจ์ (Redbridge) ให้สัมภาษณ์กับ เอสบีเอส นิวส์ (SBS News) ว่า จุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้านนโยบายคนเข้าเมืองนั้น “ย้อนศรกลับมาเล่นงานตัวเอง”
“ในขณะที่ประชาชนต้องการความหวังและนโยบายที่สร้างสรรค์ ฝ่ายตรงข้ามกลับเสนอแต่มุมมองด้านลบ” ไซมอน เวลช์ กล่าว

“พวกเขาเลือกสื่อสารในแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง การทำงานจากที่บ้าน หรือข้าราชการ”

นโยบายของพรรคร่วมฝ่ายค้านกระทบต่อความรู้สึกของชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรม

ปีเตอร์ ดัตตัน ผู้นำพรรคเสรีนิยมที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว เคยวิเคราะห์การเชื่อมโยงจำนวนผู้อพยพระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2022–23

ซึ่งแตะ 536,000 คน เข้ากับปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยและการเพิ่มขึ้นของราคาบ้าน โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจำนวนนี้จะลดลงเหลือประมาณ 260,000 คนในปีหน้า

แม้ดัตตันจะยืนยันว่าจะไม่ลดจำนวนวีซ่าคู่สมรสและวีซ่าทำงานระยะสั้นแบบ Working Holiday

แต่เขาให้คำมั่นว่าจะลดจำนวนนักเรียนต่างชาติ ด้วยการขึ้นค่าวีซ่า และลดจำนวนที่นั่งในมหาวิทยาลัยของรัฐลง 25%

เวลช์ให้ความเห็นว่า สำหรับชุมชนผู้ย้ายถิ่น ท่าทีเหล่านี้กลับผลักผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกห่างจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน

เขาอธิบายว่าในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้ย้ายถิ่น มีอยู่สองกลุ่มคือ กลุ่มที่ตั้งรกรากมานานแล้ว และกลุ่มใหม่ที่อยู่ใน “ระยะกำลังเติบโต”

ซึ่งมีอัตราการอพยพเข้าออสเตรเลียสูงขึ้น เช่น กลุ่มชุมชนเชื้อสายจีนและอินเดีย

สำหรับกลุ่มหลังนี้ เวลช์กล่าวว่า “นโยบายคนเข้าเมืองของพรรคร่วมฝ่ายค้านถือเป็นด้านลบที่ชัดเจน”

ในขณะที่ประชาชนต้องการความหวังและนโยบายที่เป็นบวก พวกเขากลับเสนอแต่มุมมองด้านลบ” เวลช์กล่าว

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง การทำงานจากที่บ้าน หรือเรื่องข้าราชการ”

เวลช์ให้ความเห็นว่า สำหรับชุมชนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ คำกล่าวและท่าทีเหล่านี้กลับทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหันหลังให้พรรคร่วม

ในกลุ่มหลังนี้ ซึ่งรวมถึงชุมชนเชื้อสายจีนและอินเดีย เวลช์กล่าวว่า
นโยบายคนเข้าเมืองของพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นจุดที่สร้างผลกระทบในทางลบอย่างแท้จริง
ไซมอน เวลช์
“สำหรับครอบครัวที่กำลังคิดอยากพาญาติมาอยู่ด้วย เพราะชุมชนเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเติบโต นโยบายของพรรคเสรีนิยมจึงกลายเป็นอุปสรรคชัดเจนสำหรับพวกเขา” เวลช์กล่าว

สิ่งนี้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนจากผลการเลือกตั้งในซิดนีย์และเมลเบิร์น

พรรคแรงงานยังคงสามารถรักษาที่นั่งในเขต Hawke, Gorton และ Chisholm ในรัฐวิกตอเรีย รวมถึง Parramatta และ Reid ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ไว้ได้

แม้ผลสำรวจช่วงต้นจะชี้ว่าเขตเหล่านี้มีการแข่งขันสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ
ศูนย์ช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัย (Asylum Seeker Resource Centre) ระบุว่า ผลการเลือกตั้งสะท้อนให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งปฏิเสธการเมืองแบบสร้างความกลัวและความแตกแยก

“ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแสดงออกด้วยความเห็นอกเห็นใจ และถึงเวลาที่ผู้แทนราษฎรและผู้นำทางการเมืองควรสะท้อนสิ่งนี้ในรัฐสภาชุดใหม่”

เจน ฟาเวโร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของศูนย์ช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัย (Asylum Seeker Resource Centre) กล่าวในแถลงการณ์

ตัวเลขผู้ย้ายถิ่นถูกใช้เป็น ‘อาวุธ’ ทางการเมือง

ในเอกสารวิชาการเมื่อเดือนมีนาคม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ปีเตอร์ แมกโดนัลด์ และศาสตราจารย์อลัน แกรมเลน จากศูนย์วิจัยเฉพาะทางด้านการย้ายถิ่นฐานและการเคลื่อนย้ายประชากรของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU Migration Hub)

ระบุว่า ตัวเลขผู้อพยพย้ายถิ่นถูกนำไปใช้เป็น “เครื่องมือทางการเมือง” เพื่อ “กระตุ้นความตื่นตระหนกและชักจูงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง”

พวกเขาอธิบายว่า ตัวเลขผู้อพยพระดับสูงในปี 2022–23 มีสาเหตุหลายประการ เช่น

การหลั่งไหลเข้ามาของนักเรียนต่างชาติ นักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์ และแรงงานชั่วคราวที่ไม่สามารถเดินทางได้ในช่วงการระบาดของโควิด-19

การต่ออายุวีซ่าหลายประเภทภายใต้รัฐบาลมอร์ริสันและรัฐบาลอัลบาเนซี ทั้งนี้ แมกโดนัลด์และแกรมเลนคาดว่าจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นจะลดลงอย่างมากในปีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนนักเรียนต่างชาติที่ลดลง และการขยายเวลาวีซ่าหลายประเภทที่ใกล้จะหมดอายุ

ศาสตราจารย์ทั้งสองคาดการณ์ว่า ระดับการอพยพย้ายถิ่นจะลดลงอย่างมากในอีก 3 ถึง 4 ปีข้างหน้า

“ตั้งแต่ประมาณปี 2027 เป็นต้นไป เมื่อจำนวนผู้เดินทางออกจากประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การอพยพย้ายถิ่นสุทธิน่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว” ทั้งสองระบุ


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Ewa Staszewska
Presented by Chayada Powell
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
นโยบายลดคนเข้าเมืองของฝ่ายค้านกลายเป็นดาบสองคมหรือไม่? | SBS Thai