Feature

“ไม่ต่างไปจากเดิม”: เหตุใดการสร้างอพาร์ตเมนต์มากขึ้นอาจไม่ทำให้ราคาบ้านลดลง

การเปิดทางให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือโครงการที่มีความหนาแน่นสูง ไม่ได้หมายความว่าที่อยู่อาศัยจะเข้าถึงได้ในราคาที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้ แล้วเหตุผลคืออะไร เรามีรายละเอียดเรื่องนี้

A composite image showing high rise apartments set against a bright orange background with illustrations of buildings and cranes

รัฐบาลพยายามเพิ่มปริมาณที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยให้ราคาบ้านเอื้อมถึงมากขึ้น แต่การสร้างอาคารที่พักอาศัยสูง (คอนโดหรืออพาร์ตเมนต์) อาจไม่ได้ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยลดลงอย่างที่คาดไว้ Source: SBS, Getty

ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยทั่วออสเตรเลียยังคงพุ่งสูงขึ้น ผู้ที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองจำนวนมากต่างฝากความหวังไว้กับแนวคิดที่ดูแพร่หลายในยุคนี้นั่นคือการ “เพิ่มปริมาณที่อยู่อาศัย” เพื่อให้ที่อยู่อาศัยมีราคาจับต้องได้

รัฐบาลของรัฐต่างๆ ทั่วประเทศต่างเร่งเดินหน้าแผนการสร้างบ้านใหม่จำนวน 1.2 ล้านยูนิตภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อเพิ่มทางเลือกของที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและมีราคาเหมาะสม

ขณะเดียวกัน การตัดสินใจของสภาท้องถิ่นที่อนุญาตให้มีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ขึ้นในบางพื้นที่ เช่น เขตอินเนอร์เวสต์ (ตะวันตกชั้นใน) ของนครซิดนีย์

ก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่บางส่วนที่ออกมาเข้าร่วมการประชุมและแสดงจุดยืนสนับสนุนการเพิ่มความหนาแน่นของที่อยู่อาศัย หลังจากที่ผ่านมา การคัดค้านในชุมชนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การอนุมัติโครงการล่าช้า

จากข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า จำนวนการอนุมัติสร้างอพาร์ตเมนต์ในออสเตรเลียแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยสำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการอนุมัติสร้างอพาร์ตเมนต์ถึง 5,430 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2022 เป็นต้นมา

Line graph showing change in the number of building approvals for apartments in total, and those with more than nine storeys
ยอดการอนุมัติสร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่มสูงขึ้น โดยรวมถึงอาคารพักอาศัยที่มีมากกว่า 9 ชั้นด้วย Source: SBS
แต่ในขณะที่เทศบาลท้องถิ่นหลายแห่งเดินหน้าปรับผังเมืองเพื่อให้สามารถสร้างอาคารสูงและอพาร์ตเมนต์หนาแน่นมากขึ้น คำถามที่ตามมาก็คือ โครงการเหล่านี้จะช่วยให้ที่อยู่อาศัยมีราคาจับต้องได้จริงหรือไม่

ผู้ร่วมประชุมคนหนึ่งของเทศบาลเขตอินเนอร์เวสต์ ของนครซิดนีย์กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ เมื่อเดือนที่แล้วว่า

“ฉันไม่เชื่อว่าการมอบพื้นที่ขนาดใหญ่ให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนและนักลงทุนจะเป็นทางออกของวิกฤตราคาที่อยู่อาศัยได้”

“บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้มีอยู่เพื่อสร้างบ้านราคาถูก แต่เพื่อสร้างกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นต่างหาก”

จึงมีคำถามว่าแล้วการสร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่ม จะช่วยให้ราคาที่อยู่อาศัยลดลงจริงหรือไม่?

การปรับผังเมืองส่งผลต่อความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย

เมื่อสภาเมืองซิดนีย์เริ่มหารือเรื่องโครงการพัฒนาเขต Green Square ในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งรวมถึงการสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่และการปรับผังเมืองจากพื้นที่อุตสาหกรรมให้เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์แบบผสม (mixed-use) ก็มีเสียงกังวลตามมาทันทีเกี่ยวกับผลกระทบต่อราคาที่อยู่อาศัย

เจ้าหน้าที่ในขณะนั้นแสดงความกังวล เพราะการปรับผังเมืองมักทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น รายงานเมื่อปี 2012 เกี่ยวกับโครงการ Green Square Affordable Housing Program ระบุว่าแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่ดิน อาจทำให้ราคาซื้อขายและค่าเช่าที่อยู่อาศัยในภาคเอกชนสูงเกินเอื้อมสำหรับครัวเรือนรายได้ต่ำถึงปานกลาง

นับตั้งแต่การปรับผังเมืองในปี 1999 เป็นต้นมา มีอาคารอพาร์ตเมนต์สร้างขึ้นในเขตฟื้นฟูเมือง Green Square แล้วทั้งหมด 179 อาคาร ตั้งแต่ตึกสูง 3 ชั้น ไปจนถึง 29 ชั้น
A pedestrian walks along a road next to large high rises.
พื้นที่ฟื้นฟูเมืองกรีนสแควร์ (Green Square Urban Renewal Area) ในซิดนีย์ ซึ่งรวมถึงย่าน Alexandria, Beaconsfield, Waterloo, Zetland และ Rosebery ที่ได้รับการเปลี่ยนผังเมืองจากพื้นที่อุตสาหกรรมมาเป็นเขตผสม (mixed-use) และมีการก่อสร้างอาคารอพาร์ตเมนต์ถึง 179 แห่ง ถือเป็นหนึ่งในโครงการฟื้นฟูเมืองที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย Source: SBS
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโครงการพัฒนา Green Square คือการคงความหลากหลายทางสังคมของผู้อยู่อาศัยไว้ แต่รายงานพบว่าในช่วง 5–10 ปีแรกหลังเริ่มโครงการ

สัดส่วนของผู้มีรายได้สูงและผู้ที่มีงานทำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ Green Square และย่านใกล้เคียง เช่น Alexandria, Beaconsfield, Waterloo, Zetland และ Rosebery

ข้อมูลสำมะโนประชากรระบุว่า ครัวเรือนที่มีรายได้รวมต่อปีมากกว่า 50,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 15.1% ในปี 1991 เป็น 21.6% ในปี 1996

ในขณะเดียวกัน ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นถึง 25 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี จาก 195 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 1997 เป็น 220 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนปีถัดมา

ขณะที่ค่าเช่าในเขตมหานครซิดนีย์โดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 10 ดอลลาร์ (จาก 200 เป็น 210 ดอลลาร์) และยังต่ำกว่าพื้นที่ทั้งห้าดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ สภาเมืองของนครซิดนีย์ (City of Sydney council) ได้จัดทำนโยบายเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยราว 330 ยูนิตอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรที่ให้บริการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง

นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องจัดสรรที่อยู่อาศัย 3% ของโครงการทั้งหมดไว้เป็น “บ้านราคาย่อมเยา” หรือชำระเงินเข้ากองทุนเพื่อสนับสนุนโครงการประเภทนี้แทน
โฆษกสภาเมืองซิดนีย์เปิดเผยกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า ขณะนี้มีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา (affordable housing) แล้วจำนวน 254 ยูนิตในพื้นที่ Green Square และมีอีกกว่า 500 ยูนิตที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการแล้ว

ยูนิตเหล่านี้จะปล่อยเช่าให้กับครัวเรือนที่มีสิทธิ์ในอัตราประมาณ 30% ของรายได้ครัวเรือนต่อปี

โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กร City West Housing ซึ่งกำหนดเกณฑ์รายได้ของผู้สมัครไว้ไม่เกิน 138,000 ดอลลาร์ต่อปี แม้ในบางกรณีจะพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ความผูกพันกับพื้นที่หรือการทำงานในท้องถิ่น

ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา (affordable housing) มีความแตกต่างจาก ที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม (social housing) ซึ่งเป็นโครงการระยะยาวที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสำหรับผู้มีรายได้น้อยมาก

“ที่อยู่อาศัยสังคมเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลระดับรัฐและรัฐบาลกลาง และไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาเมืองซิดนีย์” โฆษกกล่าว

อพาร์ตเมนต์ไม่ได้หมายความว่าจะมีราคาย่อมเยาเสมอไป

เดโบราห์ นิกสัน อดีตผู้อยู่อาศัยในย่านเรดเฟิร์น กล่าวว่า เธอโชคดีที่สามารถซื้ออพาร์ตเมนต์แบบหนึ่งห้องนอนได้ในช่วงการระบาดของโควิด-19

อพาร์ตเมนต์ของเธอตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์กลางเมืองกรีนสแควร์ ทำให้ยังสามารถใช้ชีวิตใกล้ตัวเมืองได้ แต่เธอยอมรับว่า ยูนิตที่เธอซื้อมานั้นไม่ได้ถือว่าราคาย่อมเยาแต่อย่างใด

“สำหรับคนที่ต้องการบ้านจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะหาที่อยู่อาศัยได้ในย่านนี้” เธอกล่าว
A woman wearing a bright red sweater stands in front of a large graffitied gate against a backdrop of high rise buildings.
เดบเบอรา นิกสัน เจ้าของบ้านในเขตวอเตอร์ลูบอกว่าการที่อาศัยอยู่ใกล้ Zetland นั้นรู้สึกสะดวกสบายแม้ว่าเธอจะอยากได้พื้นที่สีเขียวมากกว่านี้ตาม Source: SBS
ดร.เลียม เดวีส์ อาจารย์ด้านผังเมืองจากมหาวิทยาลัยอาร์เอ็มไอที (RMIT University) ระบุว่า การอนุญาตให้สร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ที่อยู่อาศัย ราคาย่อมเยา ขึ้นได้จริง

“ถ้าเรานิยามคำว่า ‘ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา’ ว่าคือบ้านที่ผู้มีรายได้น้อยหรือรายได้น้อยมากสามารถจ่ายได้ การสร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่มขึ้นจะไม่ช่วยให้เกิดความแตกต่างเลย มันเพียงแค่ชะลอไม่ให้ที่อยู่อาศัยแพงขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น” เดวีส์กล่าว
คนที่ไม่สามารถมีกำลังซื้ออยู่แล้ว ก็ยังซื้อไม่ได้อยู่ดี
ดร.เลียม เดวีส์ เสริม
เขาชี้ว่า ไม่มีใครเรียกย่านอย่าง Mascot และ Green Square ในซิดนีย์ หรือ Docklands ในเมลเบิร์นว่าเป็นย่านที่ “ราคาย่อมเยา” แม้จะเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างอพาร์ตเมนต์ใหม่จำนวนมาก

“พื้นที่ดังกล่าวมันแค่ถูกกว่าย่านอย่าง Potts Point เท่านั้น” เดวีส์กล่าว
A large apartment building in Docklands
มีการสร้างอาคารชุดจำนวนมากในย่านด็อกแลนด์ เมืองเมลเบิร์น Source: AAP / James Ross
อย่างไรก็ตาม แม้การเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยใหม่จะไม่ทำให้ราคาบ้านลดลงโดยตรง แต่ก็สามารถช่วย ชะลอ การปรับตัวขึ้นของราคาได้

ข้อมูลจากการสำมะโนประชากรปี 2021 ระบุว่า ประชากรในย่านเซตแลนด์ (Zetland) ของนครซิดนีย์เพิ่มขึ้นเกือบ 400% ภายในระยะเวลา 15 ปี จาก 2,614 คนในปี 2006 เป็น 12,622 คนในปี 2021

ในช่วงเวลาเดียวกัน ราคากลางของอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่นี้เพิ่มขึ้น 92% จาก 499,000 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2006 เป็น 960,000 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2021 ตามข้อมูลจากเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์โดเมน (Domain)
Table showing increases to unit prices in Zetland and Greater Sydney in NSW, and Docklands and Greater Melbourne in Victoria.
ราคากลางของยูนิตอพาร์ตเมนต์เพิ่มขึ้นช้ากว่าในพื้นที่ที่มีจำนวนอพาร์ตเมนต์มาก เช่น เซตแลนด์ เมื่อเทียบกับภาพรวมของซิดนีย์ ขณะเดียวกันก็เกิดแนวโน้มลักษณะเดียวกันในย่านด็อกแลนด์ เมื่อเทียบกับพื้นที่โดยรวมของเมลเบิร์น Source: SBS
ตัวเลขนี้ถือว่าต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยโดยรวมทั่วซิดนีย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 121% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งที่ย่านเซตแลนด์อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียงไม่กี่กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ราคากลางของอพาร์ตเมนต์ในเซตแลนด์ยังคงสูงกว่าราคากลางของซิดนีย์โดยรวม ซึ่งอยู่ที่ 805,947 ดอลลาร์

“ปริมาณที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ราคาถูกลงเสมอไป แต่อาจช่วยชะลอไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้”

เดวีส์อธิบายว่า เหตุผลหนึ่งที่เราไม่สามารถฝากความหวังไว้กับการสร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่มเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาได้ ก็เพราะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มักไม่อยากสร้างในช่วงที่ราคาที่อยู่อาศัยเริ่มตกลง

“เมื่อราคาลด ธนาคารก็จะเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อในพื้นที่เมือง เพราะไม่อยากเสี่ยงกับหนี้เสียจากการจำนอง” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เทอร์รี รอว์นสลีย์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านเมืองจาก KPMG กล่าวว่า ราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยในย่านที่เป็นที่ต้องการ เช่น นิวทาวน์ (Newtown) ในซิดนีย์ อาจปรับลดลงได้ เพราะอพาร์ตเมนต์ใหม่มักมีราคาถูกกว่าบ้านทาวน์เฮาส์ที่มีอยู่เดิม

“ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาจะถูกพอสำหรับแรงงานภาคบริการหรือผู้มีรายได้น้อยที่จะซื้อได้” เขากล่าว

รอว์นสลีย์เสริมว่า การสร้างอพาร์ตเมนต์ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายของที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีทางเลือกมากขึ้น

เขาอธิบายว่า การสร้างบ้านที่มีคุณภาพดีกว่าสำหรับผู้มีรายได้สูง จะช่วยให้คนกลุ่มนั้นย้ายไปอยู่บ้านใหม่ และเปิดโอกาสให้บ้านราคาต่ำกว่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยได้อยู่อาศัยแทน

เขายังชี้ว่า ในหลายพื้นที่ที่กำลังถูกพัฒนาที่เคยแบ่งให้คนเช่าหลายคนอยู่ร่วมกัน ถูกปรับปรุงใหม่และกลายเป็นบ้านสำหรับครอบครัว

A street view showing several terrace houses.
ในย่านที่กำลังปรับตัวเป็นย่านคนมีรายได้สูง เช่นอาคารแบบ terrace houses ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนหนุ่มสาวผู้เช่าร่วมกันหลายคน ได้ถูกปรับปรุงใหม่จนมีราคาสูงเกินเอื้อม Source: AAP / Bianca De Marchi
“นั่นคือส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้เมืองต่าง ๆ มีค่าครองชีพสูงขึ้น เพราะเราสูญเสียตลาดบ้านเช่าราคาถูกไป รอว์นสลีย์กล่าว

เขาเสริมว่า หากตลาดอสังหาริมทรัพย์มีอพาร์ตเมนต์และทาวน์เฮาส์มากกว่านี้ ก็คงช่วยป้องกันไม่ให้ผู้มีรายได้น้อยถูกเบียดออกจากตลาดที่อยู่อาศัย

อพาร์ตเมนต์อาจไม่ตอบโจทย์ “ครอบครัว”

แต่สถานการณ์ทีอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวกลับซับซ้อนไปอีก

เดวีส์อธิบายว่า หากมีการรื้อถอนบ้านเดี่ยวจำนวนมากเพื่อนำไปสร้างเป็นอาคารชุดหรือทาวน์เฮาส์ ราคาบ้านเดี่ยวมักจะพุ่งสูงขึ้น เพราะมีจำนวนลดลงและหายากขึ้น

สิ่งนี้ส่งผลต่อครอบครัวที่ต้องการบ้านขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่มีห้องนอนอย่างน้อยสามห้อง เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาฯ มักไม่ค่อยสร้างอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว

“ตอนนี้เรากำลังเพิ่มปริมาณอพาร์ตเมนต์แบบสองห้องนอน ซึ่งช่วยชะลอราคากลุ่มนั้นไม่ให้สูงขึ้นมากนัก แต่ขณะเดียวกันกลับลดจำนวนที่อยู่อาศัยแบบสามห้องนอนลง” เดวีส์กล่าว

ข้อมูลจาก Domain ระบุว่า ราคาของยูนิตแบบสามห้องนอนเพิ่มขึ้นเร็วกว่ายูนิตสองห้องนอน และปัจจุบันราคากลางของยูนิตสามห้องนอนในซิดนีย์สูงกว่าบ้านสามห้องนอน เนื่องจากที่ตั้งมักอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากกว่า

เดวีส์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อบ้านเดี่ยวถูกแทนที่ด้วยยูนิตสองห้องนอน จะส่งผลให้ครอบครัวในพื้นที่ลดลงและมีผู้เช่าเพิ่มขึ้น

“มันทำให้ชุมชนกลายเป็นพื้นที่ที่มีการหมุนเวียนของผู้คนสูง ไม่มีใครอยู่ระยะยาวเหมือนเดิม” เขากล่าว

เขาเสนอว่า ควรมีการวางแผนระยะยาวมากกว่านี้เกี่ยวกับสิ่งที่คนออสเตรเลียอยากเห็นในชุมชนของตนเอง

เราจำเป็นต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจนขึ้นว่าควรมีอพาร์ตเมนต์กี่เปอร์เซ็นต์ที่เป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป เพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัยของครอบครัว
ดร.เลียม เดวีส์ กล่าว

เดวีส์เรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ กำหนด มาตรฐานขั้นต่ำของการออกแบบที่เหมาะสมและครอบคลุมมากขึ้น

“พื้นที่ต่าง ๆ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่เราควรเป็นผู้กำหนดทิศทางของการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างมีเป้าหมาย” เดวีส์กล่าว

เขาเสนอว่า การสร้างอาคารที่พักอาศัยระดับกลาง (mid-rise) สูงประมาณ 5 ชั้น คล้ายของประเทศฝรั่งเศส อาจเป็นทางเลือกที่น่าพึงพอใจกว่าการสร้างตึกสูง (high-rise) ขนาดใหญ่
Five storey apartment blocks in Paris
อาคารต่าง ๆ บนถนนรูว์ เดอ ริโโวลี (Rue de Rivoli) ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่พาดผ่านใจกลางกรุงปารีส Source: Getty / Delmarty J/Alpaca/Andia/Universal Images Group
ผลการจำลองข้อมูลจากสถาบันแกรตตัน (Grattan Institute) ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า ซิดนีย์สามารถเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยได้ถึงหนึ่งล้านหลัง

หากอนุญาตให้พัฒนาโครงการสูงไม่เกินสามชั้นได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตก่อสร้าง (ตราบใดที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ชัดเจน)

รายงานระบุเพิ่มเติมว่า หากอนุญาตให้สร้างทาวน์เฮาส์และอพาร์ตเมนต์สูงสามชั้นบนที่ดินที่อยู่อาศัยทุกประเภทในเมืองหลวงทั่วประเทศ ออสเตรเลียจะสามารถเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยได้มากถึง 67,000 ยูนิตต่อปี

ในระยะเวลา 10 ปี มาตรการนี้อาจช่วยลดค่าเช่าลงได้ราว 12 เปอร์เซ็นต์ และทำให้ราคาบ้านระดับกลางลดลงเฉลี่ยประมาณ 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ผู้เชี่ยวชาญชี้ “ต้องเพิ่มที่อยู่อาศัยทุกระดับ”

เดวีส์กล่าวว่า หากเป้าหมายคือการจัดหาที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาสำหรับผู้มีรายได้น้อย วิธีที่ได้ผลที่สุดคือต้องสร้างด้วยการวางเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงการมีส่วนร่วมจากภาครัฐ

ภายใต้ข้อตกลงด้านที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (National Housing Accord) รัฐบาลกลาง รัฐ และดินแดนต่าง ๆ ได้ตกลงที่จะสร้างหรือสนับสนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาจำนวน 20,000 ยูนิต ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 1.7 ของโครงการก่อสร้างบ้านทั้งหมด 1.2 ล้านหลังที่จะเกิดขึ้นในช่วงห้าปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม แคลร์ โอ’นีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่อยู่อาศัย ระบุว่า โดยรวมแล้วรัฐบาลตั้งเป้าสร้างบ้านเพื่อสังคมและบ้านราคาย่อมเยารวม 55,000 หลังภายในปี 2029

“ขณะนี้เรามีบ้านเพื่อสังคมและบ้านราคาย่อมเยามากกว่า 25,000 ยูนิตที่อยู่ระหว่างการวางแผนหรือก่อสร้าง และกว่า 5,000 ยูนิตได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เธอกล่าวกับเอสบีเอส

A woman with blonde hair looks contemplative while wearing a hard hat and high-vis vest.
รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะแห่งสหพันธ์ คลาร์ โอ’นีล ระบุว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีการก่อสร้างบ้านเพื่อสังคมและบ้านราคาย่อมเยามากกว่า 5,000 หลังแล้ว Source: AAP / Joel Carrett
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการส่งมอบที่อยู่อาศัย โดยขณะนี้มีการตรวจสอบการดำเนินงานของกองทุน Housing Australia Future Fund (HAFF) ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนที่รัฐบาลกลางจัดตั้งขึ้นเมื่อสองปีก่อน เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมและที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา

จนถึงปัจจุบัน มีที่อยู่อาศัยเพียง 567 ยูนิตที่สร้างเสร็จภายใต้โครงการของ HAFF

บาร์บารา พอคค็อก วุฒิสมาชิกจากพรรคกรีนส์ ตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ให้เงินสนับสนุนโดยตรงแก่โครงการบ้านสาธารณะและบ้านชุมชน

“แนวทางนั้นเร็วกกว่า ถูกกว่า และได้ผลมาแล้วในช่วงหลังสงคราม เมื่อออสเตรเลียเคยเผชิญวิกฤติที่อยู่อาศัยมาก่อน เรารู้ว่ามันทำได้ เพราะเราเคยทำสำเร็จมาแล้ว” เธอกล่าว
ไมเคิล ฟอเทอริงแฮม กรรมการผู้จัดการสถาบันวิจัยที่อยู่อาศัยและเมืองแห่งออสเตรเลีย (Australian Housing and Urban Research Institute) กล่าวว่า หากออสเตรเลียต้องการแก้ปัญหาความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างจริงจัง จะต้องกำหนดให้ทุกโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดเกินเกณฑ์ ต้องจัดสรรยูนิตจำนวนหนึ่งให้เช่าในราคาย่อมเยา

“แนวทางแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติในหลายประเทศและหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก” เขากล่าว “ลอนดอนก็ใช้ระบบนี้มานานแล้ว และเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการวางผังเมืองของเขาไปแล้ว”

เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของชุมชน สภาเขตอินเนอร์เวสต์ (Inner West Council) ได้นำแนวนโยบาย inclusionary zoning ของสภาเมืองซิดนีย์มาใช้ ซึ่งกำหนดให้โครงการพัฒนาที่ดินในพื้นที่ที่มีการปรับผัง (upzoned areas) ต้องจัดสรรที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของพื้นที่ทั้งหมด

ฟอเทอริงแฮมระบุว่า เขตใกล้เคียงอื่น ๆ ควรดำเนินการเช่นเดียวกัน “เพราะหากบางเขตบอกว่าไม่ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว ระบบทั้งหมดก็จะล่มและสุดท้ายก็ไม่มีการพัฒนา” เขากล่าว

มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

“เราควรมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ” รอว์นสลีย์กล่าว พร้อมชี้ว่าการคำนวณว่าที่อยู่อาศัยแบบใดถือว่า “ราคาย่อมเยา” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ในพื้นที่กรีนสแควร์ (Green Square) ค่าเช่าบ้านราคาย่อมเยาจะคำนวณจากรายได้ของครัวเรือน แต่ในบางโครงการจะใช้วิธีได้ส่วนลดจากราคาตลาดโดยคิดค่าเช่าประมาณ 80% ของราคาตลาด ซึ่งหมายความว่าในพื้นที่ยอดนิยมใจกลางเมือง ค่าเช่าก็ยังอาจสูงอยู่ดี

นอกจากนี้ การกำหนดเพดานรายได้ (income cap) สำหรับการเข้าร่วมโครงการบางประเภท ยังอาจทำให้ครอบครัวที่มีรายได้เพียงเล็กน้อยเกินเกณฑ์ถูกตัดสิทธิ์จากการเช่าที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาด้วย
ตัวอย่างเช่น ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาอาจช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 60,000 ดอลลาร์ต่อปีสามารถหาที่พักอาศัยได้ แต่ผู้ที่มีรายได้ 80,000 ดอลลาร์อาจต้องแข่งขันกับผู้มีรายได้สูงกว่าเพื่อแย่งที่อยู่อาศัยที่เหลืออยู่

และหากผู้มีรายได้ 100,000 ดอลลาร์ต่อปีไม่สามารถหาที่พักที่เหมาะสมกับรายได้ของตนได้ พวกเขาก็จะหันไปสมัครเช่าที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า ซึ่งเดิมทีควรจะเข้าถึงได้สำหรับกลุ่มรายได้ 80,000 ดอลลาร์

รอว์นสลีย์กล่าวว่า “ผมคิดว่าแนวทางปัจจุบันที่พยายามเพิ่มทั้งบ้านสาธารณะ บ้านเพื่อสังคม บ้านราคาย่อมเยา และที่อยู่อาศัยจากภาคเอกชน เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด คุณต้องเพิ่มปริมาณซัพพลายในทุกระดับของตลาด”

“ปัญหานี้มีขนาดใหญ่จนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการหลายอย่างไปพร้อมกัน”

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Charis Chang
Presented by Chayada Powell
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand