พาสปอร์ตออสเตรเลียหล่นมาอยู่อันดับ 7 ในดัชนี Henley ล่าสุด ออสเตรเลียร่วงจากอันดับ 6 เมื่อต้นปีมาอยู่อันดับ 7
ตามการจัดอันดับล่าสุดของ Henley Passport Index ซึ่งวัดความแข็งแกร่งของพาสปอร์ตตามจำนวนประเทศที่สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าหรือขอวีซ่าเมื่อเดินทางถึง
แม้จะเป็นการปรับลดเพียงเล็กน้อย แต่สะท้อนให้เห็นว่าอันดับของพาสปอร์ตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อตกลงการเดินทางและกฎเกณฑ์ด้านวีซ่าที่แต่ละประเทศปรับใช้
การเปลี่ยนแปลงอันดับที่น่าจับตา
ออสเตรเลียรั้งอันดับ 7 ร่วมกับ 5 ประเทศในยุโรป ได้แก่ เช็ก ฮังการี มอลตา และโปแลนด์
สิงคโปร์ครองอันดับ 1 ตามด้วยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่รั้งอันดับ 2 ร่วมกัน หลายประเทศแบ่งอันดับ 3 และ 4 ขณะที่นิวซีแลนด์ครองอันดับ 5 ร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์
การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือการขยับอันดับของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
ทั้งสองประเทศเคยครองอันดับหนึ่งของดัชนี โดยสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับสูงสุดเมื่อปี 2015 และสหรัฐอเมริกาในปี 2014
ปัจจุบัน สหราชอาณาจักรหล่นมาอยู่อันดับ 6 ส่วนสหรัฐฯ ตกลงไปอยู่อันดับ 10 ต่อเนื่องเป็นแนวโน้มขาลง และใกล้จะหลุดจาก 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีนี้เกือบ 20 ปีก่อน
ส่วนพาสปอร์ตไทย อยู่ในอันดับที่ 63 ของดัชนี Henley Passport Index ปี 2025
ผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า 80 ประเทศเข้าประเทศสมาชิกอาเซียนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอายุพาสปอร์ตมีอายุการใช้งาน 10 ปี

ออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ในอันดับเดียวกับมอลตา เช็ก ฮังการี และโปแลนด์ Source: SBS
ผลกระทบต่อผู้เดินทางชาวออสเตรเลีย
สำหรับนักเดินทางส่วนใหญ่ การร่วงลงหนึ่งอันดับแทบไม่กระทบต่อแผนการเดินทางในชีวิตประจำวัน
ชาวออสเตรเลียยังคงสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศต่าง ๆ ได้จำนวนมากโดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับนี้สะท้อนว่ากฎเกณฑ์ด้านวีซ่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ช่องว่างการเดินทางระหว่างประเทศยังคงกว้าง
แม้ประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ จะมีกับเสรีภาพในการเดินทางในหลายหลายประเทศ แต่ประเทศที่อยู่ท้ายตารางต้องเผชิญข้อจำกัดอย่างมาก
ช่องว่างระหว่างพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจที่สุดกับพาสปอร์ตที่มีอำนาจน้อยที่สุดยังคงกว้าง และสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำระดับโลกด้านการเข้าถึงและโอกาสในการเดินทาง
ดร.คริสเตียน เอช. คาเอลิน ประธานบริษัท Henley & Partners ระบุว่า การเข้าถึงการเดินทางทั่วโลกดีขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียม
“จำนวนประเทศที่นักเดินทางสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากเฉลี่ย 58 ประเทศในปี 2006 เป็น 111 ประเทศในปี 2024 แต่ความก้าวหน้านี้ไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียมกัน”