หนึ่งในสามของผู้ชายออสเตรเลียยอมรับว่าเคยใช้ความรุนแรงกับคู่ของตน

ผลการศึกษาระดับชาติครั้งสำคัญพบว่าในแต่ละปี ผู้ชายออสเตรเลียมากกว่า 120,000 คนใช้ความรุนแรงในความสัมพันธ์กับคนรัก โดยหนึ่งในสามของผู้ชายที่เข้าร่วมการสำรวจยอมรับว่าเคยมีพฤติกรรมดังกล่าว

Shadow of a person with their head in their hands with the shadow of someone with their hand on their back in a comforting gesture.

ผู้ชายออสเตรเลียหนึ่งในสามเคยใช้ความรุนแรงกับคู่รักอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต เพิ่มขึ้นจากหนึ่งในสี่ในปี 2014 Source: Getty / simarik

บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว

ปัญหาสุขภาพจิต และความสัมพันธ์ที่ห่างเหินระหว่างพ่อกับลูกชาย ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงของผู้ชายต่อผู้หญิง

ผลการศึกษาระยะยาวโดยสถาบันศึกษาครอบครัวแห่งออสเตรเลีย (AIFS) ที่เก็บข้อมูลจากผู้ชายและเด็กชายในปี 2013/14 และปี 2022 ชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมใช้ความรุนแรง

การวิจัยครั้งนี้ได้จัดทำการประมาณการระดับชาติเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในความสัมพันธ์โดยผู้ชาย

โดยผลสำรวจในปี 2022 พบว่า ผู้ชายออสเตรเลียอายุระหว่าง 18 ถึง 65 ปี มากกว่าหนึ่งในสามเคยใช้ความรุนแรงกับคู่รักอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต

ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในปี 2014 ซึ่งระบุว่ามีผู้ชายประมาณหนึ่งในสี่ที่เคยใช้ความรุนแรงในลักษณะเดียวกัน
ผลการศึกษาล่าสุดยังประมาณการว่าในแต่ละปีผู้ชายชาวออสเตรเลียราว 120,000 คน เริ่มใช้ความรุนแรงกับคู่รักเป็นครั้งแรก

รูปแบบความรุนแรงที่พบมากที่สุดคือการทำร้ายทางอารมณ์ โดย 32% ของผู้ชายที่เข้าร่วมการสำรวจในปี 2022 ยอมรับว่าเคยทำให้คู่รักรู้สึก “หวาดกลัวหรือวิตกกังวล”

ขณะที่ 9% ระบุว่าเคย “ตบ ต่อย เตะ หรือทำร้ายร่างกาย” คู่รักในขณะที่โกรธ

ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชายส่งผลต่อพฤติกรรมความรุนแรง

รายงานระบุว่า สุขภาพจิตและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชายมีอิทธิพลต่อแนวโน้มที่ผู้ชายจะใช้ความรุนแรง

โดยผู้ชายที่มีอาการซึมเศร้าระดับปานกลางถึงรุนแรง มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงกับคู่รักมากกว่าคนทั่วไปถึง 62%

แม้การมีภาวะซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสาเหตุโดยตรงของการใช้ความรุนแรง

แต่มิคาเอลา โครนิน กรรมาธิการด้านความรุนแรงในครอบครัว เพศ และความรุนแรงทางเพศ ระบุว่าสิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงผลกระทบของสุขภาพจิตต่อพฤติกรรมในความสัมพันธ์

โครนิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AAP ว่า
ข้อมูลเช่นนี้ช่วยให้เรามีหลักฐานชัดเจนในการวางเป้าหมายเพื่อการแทรกแซงและการกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
มิคาเอลา โครนิน
“มันสะท้อนว่าเราต้องตระหนักถึงจำนวนผู้ชายที่ใช้ความรุนแรง และหากชายคนใดพูดคุยกับแพทย์ทั่วไปเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตก็ควรถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นด้วย”

การศึกษายังพบว่า ผู้ชายที่รู้สึกว่าตนเองมีความสัมพันธ์ที่ดีและอบอุ่นกับพ่อหรือบุคคลที่เป็นเหมือนพ่อในวัยเด็ก มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงกับคู่รักน้อยกว่าถึง 48%
โครนินระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชาย ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กผู้ชายพูดคุยเรื่องความรู้สึกกับพ่อได้

เป็นปัจจัยป้องกันที่สำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่

ฌอน มาร์ติน หนึ่งในผู้เขียนรายงานกล่าวว่า ข้อมูลระยะยาวจากการวิจัยครั้งนี้ได้ระบุปัจจัยเสี่ยงที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นนโยบายและโครงการที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ชายวัยหนุ่ม

“การเข้าใจปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง” มาร์ตินกล่าว

ความจำเป็นในการลงทุนในบริการด่านหน้า

รัฐมนตรีกระทรวงบริการสังคมคนใหม่ แทนยา พลิเบอร์เซก กล่าวว่าผลการศึกษานี้น่ากังวล แม้จะไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ

“หากเราต้องการยุติความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงต่อผู้หญิง เราจำเป็นต้องทุ่มงบประมาณในบริการแนวหน้า ที่ให้การช่วยเหลือและปกป้องผู้คน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องจัดการกับพฤติกรรมต้นตอที่ก่อให้เกิดความรุนแรงด้วย”
พลิเบอร์เซกระบุว่า แนวโน้มที่เกิดขึ้นขณะนี้ “ชัดเจนว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด” และเน้นว่าสิ่งสำคัญคือการเดินหน้าลดจำนวนผู้ใช้ความรุนแรงให้ได้อย่างต่อเนื่อง
รายงานฉบับนี้มีประโยชน์มาก เพราะชี้ให้เห็นปัจจัยป้องกันสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ชายจะใช้ความรุนแรง
รัฐมนตรีกระทรวงบริการสังคม แทนยา พลิเบอร์เซก
"เช่น สุขภาพจิตที่ดี ความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อกับลูกชายตั้งแต่วัยเด็กซึ่งล้วนเป็นปัจจัยป้องกันที่แข็งแกร่งมาก”

รัฐมนตรีบริการสังคมยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลพรรคแรงงานได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

เพื่อสนับสนุนบริการด้านสุขภาพจิต รวมถึงการจัดตั้งคลินิกสุขภาพจิตแบบวอล์กอินผ่านระบบ Medicare ทั่วประเทศ

ผลการศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย Ten to Men ว่าด้วยสุขภาพของผู้ชาย ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ความทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ

โดยเก็บข้อมูลจากเด็กชายและผู้ชายกว่า 16,000 คนตั้งแต่ปี 2013 และจะขยายกลุ่มตัวอย่างเพิ่มอีก 10,000 คนในปี 2024–25

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว สามารถติดต่อสายด่วน 1800RESPECT ได้ที่ 1800 737 732

ส่งข้อความที่ 0458 737 732 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ 1800RESPECT.org.au หากเกิดเหตุฉุกเฉิน โทร 000

สำหรับผู้ชายที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษา สามารถติดต่อ Men’s Referral Service ซึ่งดำเนินการโดยองค์กร No to Violence ได้ที่ 1300 766 491

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

Presented by Chayada Powell
Source: AAP

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand