ฟิเนียสพบรักกับชายในสถานกักกันผู้อพยพ เธอจะตามไปด้วยถ้าเขาถูกส่งกลับ

หลายปีที่ฟิเนียสและอับดุลได้สร้างความสัมพันธ์ ขณะที่เขาถูกจองจำในสถานกักกันผู้อพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย แม้เขาต้องถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิดไปเผชิญกับอันตรายเพราะเพศสภาพที่เขาเป็น เธอก็จะตามเขาไป

Phineas Hartson

Phineas met Abdul online in 2015. Source: SBS News/Supplied

คู่รักชาวออสเตรเลียของชายชาวอิรักในสถานกักกันผู้อพยพย้ายถิ่นคนหนึ่ง บอกว่า หากคนรักของเธอถูกส่งตัวกลับบ้านเกิด เธอจะเดินทางไปกับเขาเพื่อเผชิญหน้ากับความตายที่อาจเกิดขึ้นด้วยกัน

ฟิเนียส ฮาร์ทสัน (Phineas Hartson) ทนายความจากนครซิดนีย์ซึ่งเป็นหญิงข้ามเพศ พบกับ อับดุล (ไม่ใช่ชื่อจริง) ทางออนไลน์เมื่อปี 2015 อับดุลระบุว่าตนเองเป็นเกย์ และหนีออกจากอิรักเมื่อ 9 ปีก่อน หลังถูกโจมตีและทำร้ายจากเรื่องเพศสภาพ
ตอนนั้น เราทั้งสองไม่ได้มองหาเรื่องความรักเลย เราพบกันบนวิดีโอแชตแอปหนึ่ง ตอนที่อับดุลส่งข้อความทักทายไปเรื่อยเปื่อยมาหาฉันในมือถือ ฟิเนียสเล่า
6 ปีหลังจากนั้น มิตรภาพของทั้งสองก็ได้เบ่งบานจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่พวกเขาไม่เคยได้พบเจอกันจริง ๆ
Phineas Hartson
Phineas Hartson is a lawyer based in Sydney. Source: Supplied/Phineas Hartson
อับดุลบอกว่า การไม่ได้มีชีวิตอยู่กับคู่รักอย่างอิสระในออสเตรเลียเป็นเรื่องยากเย็น
มันแย่มาก ผมจินตนาการไม่ได้เลยว่าชีวิตที่นี่เป็นยังไง 9 ปีที่ต้องอยู่ในสถานกักกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะผมมาที่นี่เพื่อปกป้องตัวเองในออสเตรเลีย แล้วพวกเขาก็จับผมเข้าไปอยู่ในสถานกักกันโดยไม่มีเหตุผล อับดุล เล่า

แทบเอาชีวิตไม่รอด

อับดุลเล่าว่า เขาหนีมาจากอิรักในปี 2012 หลังถูกจับได้ว่ามีความสัมพันธ์กับชายคนหนึ่ง ซึ่งมีพี่น้องอยู่ในกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่น ผู้คน 5 คนจับตัวเขาไว้ จากนั้นก็ทุบตี และแทงเขา

หลังถูกกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นไล่ออกจากบ้าน และทำให้เป็นที่ขายหน้าต่อชุมชนที่เขาอาศัย อับดุลเชื่อว่า เขาจะถูกสังหารในอีกไม่นานหลังจากนั้น

อับดุลหนีไปที่อินโดนีเซีย จากนั้นมุ่งหน้ามายังออสเตรเลียบนเรือลักลอบขนผู้อพยพ เรือของเขาถูกทางการออสเตรเลียสกัดไว้ได้ อับดุลถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวไปอยู่ที่เกาะคริสต์มาส (Christmas Island) ในเวลาต่อมา

หลังใช้เวลาอยู่ในสถานกักกันอีกแห่งที่อยู่นอกชายฝั่งออสเตรเลีย ในที่สุดอับดุลก็ถูกนำตัวส่งมาอยู่ในศูนย์กักกันผู้อพยพย้ายถิ่นบนแผ่นดินใหญ่
Man behind wire fence
Abdul has been in detention since 2012. Source: iStockphoto
ชีวิตที่ถูกจองจำในสถานกักกันเริ่มส่งผลกับอับดุล เขาอดอาหารและพยายามทำร้ายตัวเอง เพื่อประท้วงการถูกจองจำ
ไม่มีใครแคร์ อับดุลเล่า
ฟิเนียสเริ่มเป็นห่วงว่า สุขภาพจิตที่แย่ลงของอับดุล อาจทำให้เขาเซ็นเอกสารที่อนุญาตให้เขาถูกส่งตัวกลับอิรักได้อย่างถูกกฎหมาย

แต่ถ้าหากว่าเขาทำเช่นนั้น ฟิเนียสบอกว่า เธอจะไปกับเขาด้วย แม้จะต้องพบกับอันตรายที่อาจรออยู่ข้างหน้าก็ตาม
ฉันจะตามคนรักของฉันไป และฉันไม่มีปัญหาอะไรที่จะเก็บกระเป๋าและติดตามผู้ชายที่ฉันรัก ฟิเนียส กล่าว
“เราทั้งสองกำลังพบเจอกับอันตราย การเป็นเกย์ หรือแม้กระทั่งถูกกล่าวหาว่าเป็นเกย์ในอิรัก เป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตในตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่อันตราย”

ข้อมูลจากหน่วยงาน Human Dignity Trust ระบุว่า ประมวลกฎหมายอาญาของอิรัก “ไม่ได้ห้ามการมีความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกันอย่างชัดแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับการที่ผู้กระทำการนอกภาครัฐ สั่งประหารชายและหญิงจากความใกล้ชิดกับเพศเดียวกัน”

หน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลียไม่มีความเห็นเป็นรายกรณี แต่โฆษกมหาดไทยได้ระบุในแถลงการณ์ว่า “ออสเตรเลียไม่ส่งบุคคลกลับไปยังสถานที่ซึ่งพวกเขาจะต้องพบกับการกดขี่ข่มเหง หรือเสี่ยงต่อการถูกทรมาน การปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี การลิดรอนชีวิตตามอำเภอใจ หรือการใช้โทษประหารชีวิต”

พิสูจน์เพศสภาพ

แอลิสัน แบททิสสัน (Alison Battisson) ทนายความของอับดุล กล่าวว่า กรณีของเขา “เป็นเรื่องเลวร้าย” และเขาตกเป็นเหยื่อของความล่าช้าต่าง ๆ จากหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย

“เขาถูกส่งกลับมาออสเตรเลีย เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับคนอื่นที่ถูกส่งตัวไปสถานกักกันนอกแผ่นดินใหญ่ในการประมวลเอกสาร จากนั้นก็มีช่วงหนึ่งที่ดูเหมือนว่า รัฐบาลไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเขาดี เขาต้องใช้เวลาอยู่ในสถานคุมขังเป็นเวลา 3 ปีครึ่งถึงเกือบ 4 ปี โดยที่ไม่ได้รับคำเชิญให้ยื่นขอวีซ่า”

ตามนโยบายอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย ผู้ที่เดินทางมาถึงทางเรือจะต้องได้รับคำเชิญให้ยื่นขอวีซ่าคุ้มครอง (Protection Visa) เพื่อให้ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย

แต่เมื่ออับดุลได้รับคำเชิญให้ยื่นขอวีซ่าคุ้มครอง คำขอของเขากลับถูกปฏิเสธ
Alison Battisson
แอลิสัน แบททิสสัน (Alison Battisson) ทนายความของอับดุล จาก Human Rights For All Source: Human Rights For All
ทนายแบททิสสัน เชื่อว่า การที่อับดุลไม่ได้รับคำเชิญให้ยื่นขอวีซ่าคุ้มครองอีกครั้ง เนื่องจากหน่วยงานมหาดไทยของออสเตรเลียไม่เชื่อว่าอับดุลเป็นเกย์ และอับดุลไม่ได้พูดถึงเรื่องเพศสภาพ เมื่อเขาเดินทางมาถึงสถานกักกันผู้อพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย

“การกล่าวอ้างของเขา (เพื่อยื่นขอวีซ่าคุ้มครอง) อยู่บนพื้นฐานของการเป็นคนรักร่วมเพศ อย่างที่เห็นชัดก็คือ Queer และ Bisexual ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะประกาศให้คนรับรู้ เมื่อคุณลงจากเรือเมื่อมาถึงออสเตรเลีย” ทนายแบททิสสัน กล่าว
และเมื่อคุณติดอยู่ในศูนย์กักกันออสเตรเลีย รวมถึงบนเกาะนอกชายฝั่ง มันไม่มีเหตุผลอย่างมากที่จะคาดหวังให้ใครสักคนรู้สึกสบายใจที่จะเปิดเผยเพศสภาพ และด้วยเหตุนั้น การขอวีซ่าคุ้มครองของเขาก็ถูกปฏิเสธ และเขาก็ต้องถูกกักขังอยู่ในสถานกักกันอยู่ต่อไป ทนายแบททิสสัน กล่าว
ทนายแบททิสสัน กล่าวอีกว่า ลูกความของเธอได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย โดยองค์การข่าวกรองและความมั่นคงของออสเตรเลีย (ASIO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานมหาดไทยก็ได้รับทราบถึงกรณีของเขาแล้วเช่นกัน

โฆษกหน่วยงานมหาดไทยระบุว่า การยื่นขอการคุ้มครองทั้งหมดจะได้รับการประเมินเป็นรายบุคคล โดยจะพิจารณาจากสถานภาพ และเงื่อนไขในประเทศของผู้ยื่นขอการคุ้มครอง

เมื่อไม่ได้รับคำเชิญเพื่อยื่นขอวีซ่าคุ้มครอง นั่นหมายความว่า การเดินทางไปตั้งรกรากในประเทศที่ 3 ซึ่งไม่ใช่ทั้งอิรักหรือออสเตรเลีย ก็ทำไม่ได้เช่นกัน

โจ บอล (Joe Ball) ประธานบริหารของ สวิตช์บอร์ด ออสเตรเลีย (Switchboard Australia) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ให้การสนับสนุนชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTIQA+) กล่าวว่า สมาชิกขององค์กรแห่งนี้ได้เข้าเยี่ยมผู้ถูกคุมขังที่มีความหลากหลายทางเพศ ในสถานกักกันผู้อพยพย้ายถิ่น

“เรื่องที่เราได้ยินจากผู้คนเหล่านี้ คือความหวังอันห่างไกลในการได้พิสูจน์เพศสภาพของพวกเขา"
มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างโหดร้าย ในการถูกถามเกี่ยวกับรายละเอียดลึก ๆ ของความสัมพันธ์ และการเข้าหาของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นไปในลักษณะของความกังขา แทนที่จะอยู่ในจุดที่ทำให้เรื่องกระจ่างชัดเจน คุณบอล กล่าว
ด้านทนายแบททิสสัน ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับความจริงในเรื่องการกล่าวอ้างเพศสภาพ และความสัมพันธ์ของอับดุล เช่นเดียวกับฟีเนียส คนรักของเขา

“มันเป็นเรื่องที่เข้าถึงระดับส่วนตัว มันเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับเพศสภาพและอีกหลายสิ่ง เราได้แลกเปลี่ยนบางสิ่งที่มีแต่ชายที่เป็นเกย์เท่านั้นจะกระทำกับคนรักของเขา” ฟีเนียส กล่าว
ฉันรู้ว่าเขามีความสัตย์จริงในเพศสภาพและเพศวิธี ฉันเป็น Queer และ LGBTIQ มาตลอดชีวิต ฉันดูออกว่าคนไหนจริงหรือปลอม ฟิเนียส กล่าว
ส่วนความเชื่อใจที่อับดุลมีให้ต่อฟิเนียส ก็มีมากพอ ๆ กันกับเธอมีให้เขา
ผมรู้สึกว่าเธอรักผม เธอบอกว่า ถ้าผมต้องไปประเทศอื่น เธอก็จะไปกับผมด้วย อับดุล กล่าว

ผู้มีความหลายหลายทางเพศ (LGBTIQA+) ที่ต้องการความช่วยเหลือ และการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต สามารถติดต่อ QLife ได้ที่หมายเลข 1800 184 527 หรือไปที่เว็บไซต์ qlife.org.au

นอกจากนี้เว็บไซต์ ReachOut.com ยังมีบริการช่วยเหลือต่าง ๆ สำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วยเช่นกัน

หากคุณต้องการแบ่งปันเรื่องราวกับเรา ส่งอีเมลหาเอสบีเอส ไทย ได้ที่ Thai.Program@sbs.com.au  


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai

Share

Published

Updated

By Essam Al-Ghalib
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS News

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand