ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.85
ก่อนหน้านี้ RBA ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม แต่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนเมษายน
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยอีกครั้ง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงและเศรษฐกิจขยายตัวชะลอลง
แต่คณะกรรมการกลับมีความเห็นแตกต่างกัน โดยคณะกรรมการ 6 คนลงคะแนนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่อีก 3 คนลงคะแนนไม่เห็นด้วย
ธนาคารกลางระบุว่า
“ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงมาแล้ว 50 จุดฐาน (0.5%) เมื่อเทียบกับช่วง 5 เดือนก่อน และภาพรวมภาวะเศรษฐกิจที่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คณะกรรมการจึงเห็นว่าสามารถรอข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงมุ่งหน้าสู่ระดับร้อยละ 2.5 อย่างยั่งยืน”

The RBA has kept interest rates on hold. Source: SBS
ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรก นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ร้อยละ 4.35
RBA คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 4.35 ต่อเนื่องนานกว่า 15 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น และอัตราดังกล่าวถูกใช้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2024 จนถึงต้นปี 2025
“ไม่ใช่สิ่งที่หลายคนหวังไว้”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย จิม ชาลเมอร์ส ระบุว่าการตัดสินใจของธนาคารกลาง (Reserve Bank of Australia - RBA) ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หลายคนคาดหวัง แต่ย้ำว่า RBA เป็นหน่วยงานอิสระจากรัฐบาล
“ผมจะไม่คาดเดาหรือก้าวก่ายการตัดสินใจของธนาคารกลางหรือคณะกรรมการของธนาคาร และจะไม่ทำนายหรือชี้นำทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร
ชาลเมอร์สกล่าวว่า “อัตราดอกเบี้ยลดลงมาแล้วสองครั้งในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา แต่เราทราบดีว่างานนี้ยังไม่จบ
เพราะประชาชนยังคงเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก”
ขณะเดียวกัน เท็ด โอไบรอัน โฆษกด้านเศรษฐกิจของพรรคฝ่ายค้าน กล่าววิจารณ์รัฐบาลแอลบานีซีว่า
ครัวเรือนออสเตรเลีย “แทบจะไปไม่ไหวแล้ว” และชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อเนื่องเป็นผลจากการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาลแรงงาน
“ที่อัตราดอกเบี้ยยังสูงต่อเนื่องในออสเตรเลียภายใต้รัฐบาลแอลบานีซี เป็นผลโดยตรงจากการที่แรงงานไม่สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้ดี” โอไบรอันกล่าว
“แรงงานยังคงใช้งบประมาณอย่างไม่ยั้งคิด และแม้แต่ RBA เองก็ยอมรับว่า การใช้จ่ายภาครัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันเงินเฟ้อภายในประเทศ”
“จนกว่ารัฐบาลแรงงานจะกลับมาควบคุมวินัยทางการคลังอย่างจริงจัง งานของ RBA ก็จะยิ่งยากขึ้น ไม่ใช่ง่ายขึ้น และประชาชนออสเตรเลียก็จะยิ่งจนลง ไม่ใช่ร่ำรวยขึ้น” โอไบรอันกล่าวทิ้งท้าย
— ข้อมูลเพิ่มเติมโดยสำนักข่าว AAP