ธนาคารกลางออสเตรเลียเสนอให้ยกเลิกค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
จากการทบทวนต้นทุนการชำระเงินผ่านบัตรของร้านค้า ธนาคารกลาง (RBA) แนะนำให้ยกเลิกค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในการใช้บัตร EFTPOS, Mastercard และ Visa
โดยให้เหตุผลว่าค่าธรรมเนียมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกวิธีจ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธนาคารกลางยังแนะนำให้ ลดเพดานค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคาร (interchange fee) ซึ่งร้านค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ธนาคารเจ้าของบัตรของลูกค้า
ซึ่งหากดำเนินการตามข้อเสนอนี้ทั้งหมด จะช่วยให้คนออสเตรเลียประหยัดเงินรวมกันได้ถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
“ค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคาร (interchange fee) ซึ่งร้านค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ธนาคารเจ้าของบัตรของลูกค้า คือค่าธรรมเนียมที่ร้านค้าต้องจ่ายให้กับธนาคารผู้ออกบัตรของลูกค้าเมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น
ข้อเสนอของธนาคารกลางออสเตรเลียครั้งนี้ถือว่าเป็นความก้าวหน้ามากกว่าข้อเสนอเดิมของรัฐบาลกลาง
โดยเน้นการปฏิรูปเชิงลึกเพื่อให้ระบบการชำระเงินเป็นธรรมและคุ้มค่ายิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัฐบาลสหพันธรัฐ จิม ชาลเมอร์ส เคยระบุว่ารัฐบาลพร้อมจะสั่งห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเดบิตตั้งแต่ต้นปี 2026
แต่ข้อเสนอของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ชี้ว่าจะครอบคลุมไปถึงบัตรเครดิตด้วย
รายงานระบุว่าผู้บริโภคในออสเตรเลียจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (surcharge) รวมแล้วประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หรือเฉลี่ยคนละ 60 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้บัตรหนึ่งราย
หากยกเลิกค่าธรรมเนียมนี้ จะช่วยให้ผู้บริโภคไม่ต้องสับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมอีกต่อไป
ผู้ว่าการธนาคารกลาง มิคาเอล บูลล็อค กล่าวว่าทั้งผู้บริโภคและธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากข้อเสนอนี้ โดยเฉพาะในยุคที่คนออสเตรเลียใช้เงินสดน้อยลง
ลูกค้าจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการรูดบัตร ขณะที่ธุรกิจก็ไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูงจากการรับบัตรอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม

เป็นหนี้บัตรเครดิต? นี่คือสิ่งที่คุณควรทำและไม่ควรทำ
มิเชล บูลล็อค ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กล่าวว่า
“เราคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดการกับต้นทุนที่สูงและความไม่มีประสิทธิภาพในระบบการชำระเงินนี้”
“ภูมิทัศน์ของระบบการจ่ายเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องก้าวให้ทัน เพื่อให้ระบบยังคงปลอดภัย มีการแข่งขัน และมีประสิทธิภาพ”
RBA เสนอให้ยกเลิกข้อห้ามเกี่ยวกับ “กฎห้ามไม่ให้ร้านค้าห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียม” (no-surcharge rule) เพื่อเปิดทางให้สามารถยกเลิกค่าธรรมเนียมบัตรได้ในทางปฏิบัติ
RBA คาดว่าเมื่อข้อห้ามนี้ถูกยกเลิก เครือข่ายบัตรต่าง ๆ เช่น Visa และ Mastercard จะใช้ “กฎห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียม” แทน
ตามแนวทางที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศแต่หากไม่เกิดขึ้น RBA จะเสนอให้รัฐบาลกลางออกกฎหมายห้ามการเก็บค่าธรรมเนียมโดยตรง
ข้อเสนอให้ลดเพดาน “ค่าแลกเปลี่ยน” (interchange fee) ยังถูกประเมินว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจขนาดเล็กมากที่สุด เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มักเสียค่าธรรมเนียมในอัตราสูงกว่า
RBA ประเมินว่าธุรกิจขนาดเล็กจะประหยัดต้นทุนได้รวมกันถึง 185 ล้านดอลลาร์ โดย 90% ของธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังแนะนำให้บังคับให้เครือข่ายบัตรและผู้ให้บริการรับชำระเงินรายใหญ่เปิดเผยค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บอย่างโปร่งใส เพื่อกระตุ้นการแข่งขันในระบบมากยิ่งขึ้น
ผู้ว่าการธนาคารกลาง บูลล็อคคาดว่า ข้อเสนอของธนาคารกลางจะก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจที่ยังคงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้า (surcharge)
จึงเปิดให้มีช่วงเวลาปรึกษาหารือเป็นเวลา 6 สัปดาห์ก่อนสรุปแนวทาง
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะยังไม่เริ่มบังคับใช้จนกว่าจะถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2026