วัยรุ่นในยุคปัจจุบันกำลังเติบโตขึ้นในโลกที่น่าอยู่ยากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับภัยคุกคามต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเจ็บป่วยทางจิต และภัยอันตรายจากดิจิทัล ขณะที่รัฐบาลต่าง ๆ ยังตามไม่ทัน รายงานระดับโลกฉบับใหม่เตือน
รายงานคณะกรรมาธิการ The Lancet ปี 2025 ว่าด้วยสุขภาพและความเป็นอยู่ของวัยรุ่น ซึ่งเปิดตัวในที่ประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปีนี้ ระบุว่า ความท้าทายที่วัยรุ่นต้องเผชิญกำลังทวีความรุนแรงขึ้น แต่การลงทุนในอนาคตของพวกเขากลับไม่สอดคล้องกัน
แม้ว่าวัยรุ่นจะมีจำนวนเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรโลก แต่พวกเขากลับได้รับงบประมาณเพื่อสุขภาพและการพัฒนาเพียง 2.4 เปอร์เซ็นต์ ของเงินทุนระหว่างประเทศ
ศาสตราจารย์ปีเตอร์ แอซโซปาร์ดี หนึ่งในคณะกรรมาธิการและหัวหน้ากลุ่มวิจัยสุขภาพวัยรุ่นระดับโลก (Global Adolescent Health Group) ที่สถาบันวิจัยเด็กเมอร์ดอค ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า "ภายในปี 2030 เราคาดการณ์ว่า ครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นทั่วโลกจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เผชิญกับภาระโรคหลายรูปแบบ"
เหล่าวัยรุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง?
รายงานฉบับนี้ได้สรุปประเด็นที่ซับซ้อนหลากหลายซึ่งวัยรุ่นทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่
แอซโซปาร์ดีกล่าวว่า เยาวชนกำลังเผชิญกับ “ตัวกระตุ้นใหม่” ของปัญหาสุขภาพ เช่น ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น สงคราม และอัตราโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อเราทุกคน แต่ส่งผลกับเยาวชนโดยเฉพาะ ทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบโดยตรงจากการต้องอพยพหนีภัยจากสภาพอากาศ ล้วนทำให้เยาวชนตกอยู่ในความเสี่ยงเฉพาะตัว”
วัยรุ่นในยุคปัจจุบันเป็นรุ่นแรกที่ต้องใช้ชีวิตทั้งหมดภายใต้ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยรายงานคาดการณ์ว่า วัยรุ่นจำนวน 1.8 พันล้านคน จะเติบโตขึ้นในโลกที่อุณหภูมิสูงขึ้น 2.8 องศาเซลเซียสภายในปี 2100
การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วและไร้การวางแผนก็เป็นอีกหนึ่งข้อกังวล รายงานชี้ว่าการขยายตัวลักษณะนี้ส่งผลให้เกิดความโดดเดี่ยวทางสังคม ที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง และการเข้าถึงบริการที่ไม่เท่าเทียมกัน
โลกดิจิทัล แม้จะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและเชื่อมต่อกันได้ แต่ก็ได้นำมาซึ่งความท้าทายอย่างจริงจังเช่นกัน
“แพลตฟอร์มดิจิทัลอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและการรับรู้ที่เป็นอันตรายต่อเยาวชน” แอซโซปาร์ดีกล่าว
โดยรายงานยังเตือนถึงผลกระทบทางจิตใจและร่างกายจากสงครามและการอพยพ โดยมีเยาวชนจำนวนหลายล้านคนที่เติบโตขึ้นในเขตสงคราม หรือกำลังหลบหนีจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง โดยขณะนี้มีเขตสงครามอย่างน้อย 4 แห่งทั่วโลก
เกือบหนึ่งในสามของเด็กหญิงวัยรุ่นคาดว่าจะต้องออกจากระบบการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอาชีพภายในปี 2030 และจำนวนปีที่เยาวชนต้องสูญเสียจากภาวะป่วยทางจิตหรือฆ่าตัวตายจะเพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านปี ซึ่งมากกว่าปี 2015 ถึง 2 ล้านปี
แอซโซปาร์ดีกล่าวว่า ระบบสุขภาพจิตในปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเยาวชนได้
“แนวทางในปัจจุบันที่เรามีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยระบบสาธารณสุขนั้น ไม่ได้ผลและไม่ตอบโจทย์พวกเขา” เขากล่าว โดยจากการปรึกษาหารือกับเยาวชนเอง พวกเขาเรียกร้องให้มีการให้ความรู้เรื่องสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
การเรียกร้องให้ลงทุนอย่างเร่งด่วน
คณะกรรมาธิการพบว่า หากไม่มีการแทรกแซงอย่างจริงจัง ภายในปี 2100 เยาวชนเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์จะเติบโตในประเทศที่มีโอกาสจำกัดและมีผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ย่ำแย่
“วัยรุ่นไม่สามารถถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป” รายงานระบุ
"การลงทุนในวัยรุ่นรุ่นนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของมนุษยชาติและโลก ไม่ว่าจะในทางดีหรือร้าย และตอนนี้ ถึงเวลาที่ต้องลงมือแล้ว"
“นี่คือสัญญาณเตือนอย่างแท้จริงว่าเราจำเป็นต้องลงทุน — และเราต้องทำทันที” แอซโซปาร์ดีกล่าว
แม้ว่าวัยรุ่นจะเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรโลก และแบกรับภาระโรคทั่วโลกราว 10 เปอร์เซ็นต์ พวกเขากลับได้รับงบประมาณด้านสุขภาพเพียงสองเซนต์ต่อทุกดอลลาร์ที่ใช้จ่ายด้านสุขภาพทั่วโลก
“เราล้มเหลวในการมีส่วนร่วมกับเยาวชนอย่างแท้จริง” แอซโซปาร์ดีกล่าว
6 ข้อเสนอแนะหลัก
คณะกรรมาธิการได้เสนอแนะหลายแนวทางเพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในชีวิตของเยาวชน ซึ่งรวมถึง:
— ให้ความสำคัญกับเสียงของเยาวชนในการกำหนดนโยบายและการรณรงค์
— กำหนดเป้าหมายระดับโลกอย่างชัดเจนเพื่อวัดผลและติดตามสุขภาพและความเป็นอยู่ของวัยรุ่น
— ขยายการเข้าถึงบริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ และมาตรการป้องกันความรุนแรงทางเพศ
— เสริมความเข้มแข็งให้กับการดำเนินงานในภาคสุขภาพและการศึกษา พร้อมสนับสนุนความร่วมมือข้ามภาคส่วน
— จำกัดการโฆษณาที่มุ่งเป้าไปยังวัยรุ่น
— ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้โซเชียลมีเดียและพื้นที่ออนไลน์อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย
หากคุณหรือคนรอบข้างกำลังเผชิญกับปัญหาในชีวิต และต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่:
- Lifeline โทร 13 11 14 หรือส่งข้อความไปที่ 0477 13 11 14
- Suicide Call Back Service โทร 1300 659 467
- Kids Helpline โทร 1800 55 1800 (สำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี)
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพจิตสามารถดูได้ที่ beyondblue.org.au หรือโทร 1300 22 4636