เอลิซาเบธ ไรต์ ขับรถกระบะของเธอมาจอดใต้ร่มไม้ในสวนย่านชานเมืองทางตอนเหนือของนครเพิร์ท
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ เธอมาบ่อยขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่เพื่อมาสูดอากาศหรือปิกนิก แต่เพื่อเตรียมใจรับกับสิ่งที่ยากจะเผชิญ
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 38 ปี ชี้ไปที่ลานจอดรถข้างสวน และบอกว่าที่นี่น่าจะเป็นที่ที่เธอจะมาจอดรถนอนเกือบทุกคืน
“ฉันคงต้องทำให้ท้ายรถกระบะแน่นหนาปลอดภัยขึ้น” ไรต์บอกกับเอสบีเอสนิวส์
“ฉันพยายามให้การใช้ชีวิตให้ง่ายพอที่จะอยู่ในรถได้ ประเมินว่าฉันจะยัดอะไรใส่ท้ายรถไปได้บ้าง”

ในช่วงเวลาสงบเงียบริมแม่น้ำ เอลิซาเบธ ไรต์ ครุ่นคิดถึงความไม่แน่นอนของชีวิตเมื่อขาดที่อยู่อาศัยมั่นคง ท่ามกลางค่าเช่าที่พุ่งสูงขึ้น เธอคือหนึ่งในชาวออสเตรเลียจำนวนมากที่ต้องเผชิญอนาคตที่เปราะบางมากขึ้นทุกวัน Source: SBS / Christopher Tan
“ฉันคงต้องซื้อเตียงเล็กกว่านี้หน่อเพื่อจะได้มีที่วางตู้เสื้อผ้าข้าง ๆ แค่นั้นแหละสิ่งที่ฉันต้องการจริง ๆ ก็มีแค่นั้น” เธอกล่าว
“ฉันพยายามใช้ชีวิตแบบมินิมอลแต่มีสไตล์มาตลอด แต่ปีครึ่งที่ผ่านมามันท้าทายฉันอย่างหนัก”
ฉันไม่สามารถให้ลูกสาวมาอยู่ด้วยในที่แบบนี้ได้ สิ่งนี้มันบั่นทอนจิตใจ มันทำให้ฉันแตกสลายเอลิซาเบธ ไรต์ กล่าว
ไรต์เติบโตที่นครเพิร์ท เธอย้ายบ้านบ่อยครั้งตั้งแต่เล็กกเพราะงานของพ่อ ต่อมาเธออยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วครอบครัวตัดสินใจขายบ้านเพื่อย้ายไปอยู่ที่เล็กลง
นั่นคือจุดเริ่มต้นเส้นทางการเช่าบ้านของเธอ เส้นทางที่เธอไม่เคยคิดว่าจะนำมาสู่การต้องมานั่งวางแผนซื้อเตียงเล็กสำหรับอาศัยในรถกระบะ
แต่หลังจากใช้ชีวิตย้ายบ้านเช่าทั่วนครเพิร์ทตลอดหนึ่งปี และถูกไล่ออกถึงสามครั้งโดยไม่ใช่ความผิดของเธอ ตอนนี้เธอกำลังซ้อมวางแผนเพื่อเอาตัวรอดจากการไร้บ้าน

แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเอลิซาเบธ ไรต์ ที่ใกล้จะไร้ที่อยู่อาศัย เดินสำรวจสวนสาธารณะทางตอนเหนือของเพิร์ทเพื่อใช้เป็นที่นอนชั่วคราว เมื่อไม่มีบ้านที่มั่นคง เธอจึงวางแผนดัดแปลงรถกระบะให้กลายเป็นที่พักสุดท้ายของตนเอง Source: SBS / Christopher Tan
“แต่การต้องเสียบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากที่เคยสร้างชีวิตของตัวเองขึ้นมา แล้วต้องไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น… ฉันเหนื่อยมากกับการต้องขนของย้ายไปเรื่อย ๆ” เธอกล่าว
แรงกดดันด้านที่อยู่อาศัยพุ่งสูงในหมู่ผู้เช่าใน WA
เรื่องราวของไรต์กำลังกลายเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยขึ้น ไม่เพียงแต่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย แต่ทั่วประเทศออสเตรเลีย
ตามการศึกษาเรื่องความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยปี 2025 ของสถาบัน Bankwest Curtin Economic Centre (BCEC) พบว่า ราคาบ้านในเมืองหลวงพุ่งขึ้น 59% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 373,000 ดอลลาร์ โดยนครเพิร์ทและบริสเบนมีอัตราการเพิ่มสูงสุดถึง 84%
ราคากลางของบ้านในนครเพิร์ทพุ่งจาก 463,000 ดอลลาร์ในปี 2019 เป็น 851,000 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 จากแรงขับของนักลงทุนและการเติบโตของประชากร และนี่ถือเป็นหนึ่งในการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านที่สูงสุดของเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ในรอบ 5 ปี
แม้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงหลังและที่คาดว่าจะมีต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการสนับสนุนการซื้อบ้านหลังแรกของรัฐบาล แต่ราคาที่อยู่อาศัยในเพิร์ทยังคงจับต้องได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือผู้เช่าบ้าน

นครเพิร์ทมีอัตราค่าเช่ารายสัปดาห์ที่โฆษณาสูงขึ้นเร็วที่สุดในประเทศ ระหว่างปี 2019 ถึง 2024 แซงหน้าทุกเมืองหลวงอื่นในออสเตรเลีย Source: SBS
นอกจากนี้ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีเป็นสองรัฐที่ยังคงอนุญาตให้มีการ “ไล่ผู้เช่าออกโดยไม่ต้องให้เหตุผล” ได้
สถานการณ์นี้หมายความว่า เจ้าของบ้านสามารถให้ผู้เช่าออกโดยไม่ต้องชี้แจงสาเหตุ เพียงแค่แจ้งล่วงหน้า 30 วันเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าระยะคงที่ หรือ 60 วันในกรณีสัญญาเช่ารายงวด แม้ผู้เช่าจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็สามารถถูกไล่ออกได้
นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลทางกฎหมายอีก 7 ข้อที่เจ้าของบ้านสามารถใช้เพื่อขอเลิกสัญญาเช่า เช่น การขายทรัพย์สิน ปัญหาความลำบากของเจ้าของบ้าน หรือผู้เช่าผิดสัญญาเช่า
การขาดการคุ้มครองจากการยกเลิกสัญญาเช่าโดยไม่มีความผิด ทำให้ผู้เช่าอย่างไรต์ตกอยู่ในสภาพเสี่ยงตลอดเวลา
ความเสี่ยงการไร้บ้านเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล
จากข้อมูลจากการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุด มีประชากร 9,729 คนในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ประสบภาวะไร้บ้านในปี 2021 เพิ่มขึ้นถึง 114% จากการสำรวจครั้งก่อน โดยในจำนวนนี้มี 2,315 คนที่รายงานว่าต้องนอนในที่สาธารณะหรือในที่ที่ไม่ปลอดภัย
ในปีงบประมาณที่ผ่านมา องค์กร Shelter WA ระบุว่ามีประชาชนเกือบ 25,000 คนที่ขอความช่วยเหลือจากบริการเฉพาะทางด้านไร้บ้านในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 18% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
จอร์แดน แวน เดน แลมบ์ นักเคลื่อนไหวด้านที่อยู่อาศัย กล่าวว่า วิกฤติครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเปราะบางอีกต่อไป
ตอนนี้เรามีคนราว 10,000 คนที่ประสบภาวะไร้บ้านในแต่ละเดือนจอร์แดน เดน แลมบ์ กล่าว
“คนส่วนใหญ่รู้สึกถึงแรงกดดันนี้ตลอดสามปีที่ผ่านมา ผู้เช่าต้องเลือกระหว่างการจ่ายค่าเช่ากับค่ายา ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค”

จอร์แดน แวน เดน แลม ผู้สนับสนุนด้านสิทธิที่อยู่อาศัย ระบุว่าค่าเช่าที่พุ่งสูงและกฎหมายคุ้มครองที่อ่อนแอกำลังผลักชาวเวสเทิร์นออสเตรเลียจำนวนมากไปสู่ขอบเหวของวิกฤติ “เราไม่สามารถหวังให้กลไกตลาดแก้ปัญหาความล้มเหลวของตลาดเองได้” เขากล่าว Source: SBS / Christopher Tan
ไรต์กล่าวว่า “ฉันมั่นใจว่าการต้องย้ายบ้านอยู่ตลอดเวลายกเว้นว่าเป็นความประสงค์ของคุณ ไม่ใช่สิ่งที่ควรเป็นจะเป็นความฝันแบบออสซีในเรื่องที่อยู่อาศัยเลย”
อำนาจต่อรองที่ไม่เท่าเทียม
ผู้เช่าเริ่มหวาดกลัวที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเองมากขึ้น
อลิซ เพนนีคอตต์ ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการเช่า จาก Circle Green Community Legal ระบุว่า เธอเห็นความหวาดกลัวนี้เกิดขึ้นทุกวัน
“คนมาขอคำปรึกษาเรื่องซ่อมแซมบ้านเช่า แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ลังเล กลัวว่าถ้าร้องเรียนไป สัญญาเช่าของพวกเขาจะไม่ได้ต่ออายุ” เพนนีคอตต์กล่าว
“การถูกไล่ออกโดยไม่ให้เหตุผล ไม่มีทางคัดค้านได้เลย เว้นแต่ใบแจ้งยกเลิกสัญญาจะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเหตุผลที่ให้ไม่ใช่ประเด็น”
ขณะที่รัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ยกเลิกการยกเลิกสัญญาเช่าโดยไม่มีเหตุผลแล้ว โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ปฏิรูปกฎหมายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม อนุญาตให้เจ้าของบ้านยกเลิกสัญญาเช่าได้ในบางกรณี เช่น ขายบ้าน ปรับปรุงบ้าน หรือย้ายเข้าไปอยู่เอง
กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิผู้เช่ามองว่ารัฐบาลเวสเทิร์นออสเตรเลียลังเลที่จะออกกฎหมายคล้ายกัน เพราะกังวลว่าเจ้าของบ้านอาจถอนตัวออกจากตลาด
แต่เพนนีคอตต์ยืนยันว่า ความกังวลนี้ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการไม่ลงมือแก้ปัญหา

อลิซ เพนนีคอตต์ จากองค์กร Circle Green Community Legal เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพื่อยุติการไล่ผู้เช่าออกโดยไม่มีเหตุผล และเพิ่มการคุ้มครองผู้ที่เสี่ยงจะสูญเสียที่อยู่อาศัย Source: SBS / Christopher Tan
“สิ่งที่เราต้องการคือให้มีเหตุผลชัดเจน และเราสนับสนุนให้มีกฎหมายที่ระบุเหตุผลในการยกเลิกสัญญาเช่าให้ชัดเจนและหลากหลายมากขึ้น”
ตลาดที่อยู่อาศัยที่ล้มเหลว
แม้ในปี 2024 จะมีการก่อสร้างบ้านเสร็จสิ้น 20,500 หลัง ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในรอบ 7 ปี แต่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย 25,000 หลังตามข้อตกลง National Housing Accord ได้
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 มีบ้านเช่าใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 694 หลังในเพิร์ท คิดเป็นการเติบโตเพียง 0.4% ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 119,000 คน ทำให้ขาดแคลนบ้านเช่ากว่า 7,700 หลัง
อัตราบ้านว่างเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเกิน 2% แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่ถือว่า “เพียงพอ” ของตลาดอย่างมาก
“ค่าเช่ากำลังพุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าอัตราค่าจ้างถึงห้าเท่า” จอร์แดน แวน เดน แลมบ์ กล่าว “เราไม่สามารถหวังให้ตลาดแก้ปัญหาความล้มเหลวของตลาดที่อยู่อาศัยเองได้”
แม้ว่ารัฐบาลเวสเทิร์นออสเตรเลียจะส่งมอบบ้านเช่าสำหรับประชาชนรายได้น้อย (social housing) ไปแล้ว 3,300 หลัง และสัญญาจะเพิ่มอีก 5,800 หลัง แต่จำนวนผู้รอคอยบ้านยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ความต้องการบ้านพักสาธารณะในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก รายชื่อผู้รอคิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำนวนคำขอเร่งด่วนก็พุ่งสูงในช่วงหกปีที่ผ่านมา Source: SBS
สำหรับกลุ่มผู้ขอรับสิทธิเร่งด่วน เช่น เหยื่อจากความรุนแรงในครอบครัวหรือผู้ไร้บ้าน ความต้องการบ้านพักเพิ่มขึ้นถึง 330% ภายในระยะเวลา 6 ปี
“ชีวิตที่เราไม่ได้เลือก”
สำหรับชาวรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจำนวนมาก ความเครียดทางการเงินเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปัญหา
“ก่อนหน้านี้เมื่อมีใบแจ้งยกเลิกสัญญาเช่า คนจะคิดว่า ‘เดี๋ยวก็หาบ้านเช่าใหม่ได้’ แต่ตอนนี้คำถามคือ ‘แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน?’” เพนนีคอตต์กล่าว
เธอเสริมว่า การเข้าถึงความช่วยเหลือทางกฎหมายยิ่งซับซ้อนขึ้น ผู้คนต้องการความช่วยเหลือมากขึ้นกว่าเดิมเพราะแทบไม่มีทางเลือก เราได้ยินทุกวันจากคนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาทิตย์หน้าพวกเขาจะนอนที่ไหน
และผลกระทบสะสมกับผู้เช่าอย่างไรต์นั้นรุนแรงมหาศาล
“ถ้าคุณไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับลูกได้ หรือคุณกับลูกต้องอาศัยในรถ ทั้งที่ชีวิตแบบนั้นคุณไม่ได้เป็นคนเลือก มันไม่ใช่แค่ยากลำบาก แต่มันคือการถูกลดคุณค่าความเป็นมนุษย์” เธอกล่าว เธอยังตั้งคำถามว่า
ทำไมเราถึงอยู่ในสังคมที่สวยงามและเปี่ยมด้วยสิทธิพิเศษ แต่กลับมีคนจำนวนมากที่ไม่มีแม้แต่ที่อยู่อาศัย?เอลิซาเบธ ไรต์ แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 38 ปี ตั้งคำถาม
ต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
รายงานล่าสุดของศูนย์เศรษฐศาสตร์ Bankwest Curtin (BCEC) ในชื่อ "A long way from home" เสนอแผนแก้ปัญหาวิกฤติที่อยู่อาศัยในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียอย่างรอบด้าน พร้อมเรียกร้องให้ลงทุนเร่งด่วนทั้งในภาคบ้านเช่าและบ้านพักสาธารณะ
ข้อเสนอระยะสั้น
ประกอบด้วย การขยายโครงการช่วยเหลือค่าเช่าของรัฐบาลกลาง (Commonwealth Rent Assistance) และการทำให้โครงการ WA Rent Relief Program กลายเป็นมาตรการถาวร โดยโครงการนี้ได้ช่วยให้ผู้เช่ากว่า 2,700 คนสามารถรักษาที่อยู่อาศัยของตนไว้ได้จนถึงปัจจุบัน

At Circle Green Community Legal, frontline staff take calls from renters facing mounting housing stress. Many are seeking urgent advice after receiving eviction notices or struggling with unaffordable rent hikes. Source: SBS / Christopher Tan
ข้อเสนอระยะกลาง
เร่งกระบวนการก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น
ขยายการสร้างบ้านเพื่อคนรายได้น้อยและบ้านราคาย่อมเยา โดยใช้กองทุนการลงทุนของรัฐ
พัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่โดยเน้นกลุ่มผู้ซื้อบ้านครั้งแรกและแรงงานสำคัญ เช่น พนักงานดูแลเด็ก พนักงานค้าปลีก พนักงานบริการ พนักงานสนับสนุนด้านสุขภาพ และงานธุรการทั่วไป
ให้สิ่งจูงใจสำหรับโครงการสร้างบ้านเพื่อเช่า (build-to-rent) และกำหนดมาตรฐานบังคับสำหรับคุณภาพบ้านเช่า
ข้อเสนอระยะยาว
รายงานเสนอให้รัฐบาลรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียตั้งเป้าสร้างบ้านใหม่ให้ได้ 24,000 หลังต่อปี รวมถึงบ้านเพื่อสังคมอย่างน้อย 1,200 หลัง (สร้างใหม่หรือปรับปรุงจากอาคารเก่า) และปฏิรูประบบภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยแทนที่การเก็บอากรแสตมป์ (stamp duty) ด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้ครัวเรือนย้ายถิ่นฐานได้ง่ายขึ้น
อ่านเพิ่มเติม

วิกฤตค่าเช่าบ้านแพงที่สุดในรอบ 17 ปีที่ออสเตรเลีย
ก้าวเล็ก ๆ แต่หนทางยังอีกยาวไกล
ในปี 2024 รัฐบาลเวสเทิร์นออสเตรเลียได้ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่อยู่อาศัย (Residential Tenancies Act) โดยชุดแรกของการเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย
อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์และทำการปรับปรุงเล็กน้อยในบ้านเช่าส่วนใหญ่
จำกัดการขึ้นค่าเช่าได้เพียงปีละครั้ง
การปฏิรูปนี้เสริมมาตรการก่อนหน้า ที่ห้ามการประมูลแข่งค่าเช่า (rent bidding) และห้ามเจ้าของบ้านตอบโต้ผู้เช่าอย่างไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีเพดานควบคุมอัตราการขึ้นค่าเช่า
โฆษกรัฐบาลรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ ว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกการยกเลิกสัญญาเช่าแบบไร้เหตุผล (“no grounds” evictions) หรือไม่
“ข้อเสนอสำหรับการปฏิรูประยะที่สองคาดว่าจะสรุปเพื่อพิจารณาภายในปีนี้” โฆษกระบุ
“การปฏิรูประยะที่สองจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองผู้เช่า เช่น การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ วิธีการจัดเก็บเงินประกัน (bond) ค่าเช่า และค่าบริการอื่น ๆ รวมถึงนิยามที่ชัดเจนของที่พักแบบบอร์ดดิ้งและลอดจ์จิง โดยจะมีการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในขั้นต่อไป”

ผ่านหน้าต่างห้องทำงาน ทนายความด้านสัญญาเช่า อลิซ เพนนีคอตต์ กำลังทำงานเพื่อช่วยผู้เช่าที่ต้องเผชิญกับตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งยิ่งยากลำบากขึ้นทุกวัน เธอกล่าวว่ามีผู้คนติดต่อขอความช่วยเหลือมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร Source: SBS / Christopher Tan
“มันไม่ได้แก้ปัญหาหลักเลย คือการคุ้มครองผู้เช่าไม่ให้ถูกโยนออกไปอยู่ข้างถนนจนถึงสถานการณ์ที่ต้องเป็นคนไร้บ้าน” เพนนีคอตต์กล่าว
ข้อมูลศาลรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีการยื่นคำร้องขอยกเลิกสัญญาเช่ามากกว่า 1,500 กรณีต่อปี โดยยังไม่นับกรณีที่เป็นการขับไล่อย่างไม่เป็นทางการหรือที่ผู้เช่าไม่ได้คัดค้าน
ข้อมูลองค์กร BCEC ยังเผยว่าเกือบสองในสามของผู้หญิงโสดอายุ 55 ปีขึ้นไปที่เช่าบ้านในรัฐนี้กำลังเผชิญความยากจน โดยครึ่งหนึ่งอยู่ในภาวะ "ยากจนรุนแรง"
“ตอนนี้คนตระหนักถึงปัญหานี้มากขึ้นแล้ว ทุกคนรู้จักใครสักคนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าเช่า การถูกยกเลิกสัญญาเช่า หรือแค่ความเครียดจากการหาที่อยู่ใหม่” เพนนีคอตต์กล่าว
“เราเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว”

เอลิซาเบธ ไรต์ นั่งอยู่ริมแม่น้ำสวอน และสะท้อนถึงความกดดันทางใจจากการไม่มีที่อยู่อาศัยมั่นคง เธอบอกว่า ในประเทศที่ร่ำรวยอย่างออสเตรเลีย ไม่ควรมีใครถูกบีบให้เลี้ยงลูกจากท้ายรถยนต์ Source: SBS / Christopher Tan
“เรามองที่อยู่อาศัยเป็นสินค้า ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” เธอกล่าว
ความปรารถนาของไรต์มีเพียงอย่างเดียว เธอเพียงต้องการสถานที่ที่เรียกว่า “บ้าน” อีกครั้ง
“ฉันแค่อยากให้ลูกสาวเติบโตมมาในที่ที่ปลอดภัย ไม่ใช่ในรถ ไม่ใช่บนโซฟาบ้านคนอื่น แต่เป็นบ้านจริง ๆ”