ศาลสูงรัฐวิกตอเรียมีคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ เอริน แพตเตอร์สัน หญิงวัย 50 ปี ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต จากคดีสะเทือนขวัญที่เธอถูกกล่าวหาว่าใช้เห็ดพิษชนิดเดธ แคป (death cap) ในการทำอาหาร จนทำให้ญาติสามีเสียชีวิต 3 ราย และพยายามฆ่าอีก 1 ราย
ศาลพิพากษาโทษจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมทั้งสามกระทง และโทษจำคุก 25 ปีในข้อหาพยายามฆ่า โดยให้โทษทั้งหมดดำเนินไปพร้อมกัน กำหนดโทษขั้นต่ำหรือ non-parole period ไว้ที่ 33 ปี ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์ขอปล่อยตัวก่อนกำหนดจนกว่าจะถึงปี 2055
ก่อนหน้านี้ ศาลได้กำหนดโทษขั้นต่ำไว้ที่ 35 ปี แต่ลดลง 2 ปีเพื่อสะท้อนเวลาที่แพตเตอร์สันถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีแล้วกว่า 2 ปี
ศาลยังชี้ว่า มี “โอกาสสูง” ที่เธอจะต้องใช้เวลารับโทษส่วนใหญ่ใน สภาพขังเดี่ยว (solitary confinement) ซึ่งอาจกินเวลาหลายปี
ผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เบล กล่าวระหว่างอ่านคำพิพากษาว่า การที่แพตเตอร์สันยังคงปฏิเสธความผิดและไม่ยอมรับความรับผิดชอบใด ๆ ยิ่งทำให้ผลกระทบจากอาชญากรรมครั้งนี้รุนแรงมากขึ้น และสะท้อนถึงความโหดร้ายของการกระทำ
âāļāļēāļĢāļāļĩāđāļāļļāļāđāļĄāđāđāļāļĒāđāļŠāļāļāļāļ§āļēāļĄāđāļŠāļĩāļĒāđāļāđāļ āđ āļāļ·āļāļāļēāļĢāļāđāļģāđāļāļīāļĄāļāļēāļāđāļāļĨāļāļāļāđāļŦāļĒāļ·āđāļāđāļĨāļ°āļāļĢāļāļāļāļĢāļąāļ§â āļāļđāđāļāļīāļāļēāļāļĐāļēāļāļĢāļīāļŠāđāļāđāļāļāļĢāđ āđāļāļĨ āļāļĨāđāļēāļ§āļĢāļ°āļŦāļ§āđāļēāļāļāļēāļĢāļāđāļēāļāļāļģāļāļīāļāļēāļāļĐāļē
คำตัดสินนี้ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ และเกิดขึ้นกว่าสองปีหลังจากเหตุการณ์ที่ เอริน แพตเตอร์สัน เสิร์ฟอาหารกลางวันที่มีเห็ดพิษเดธ แคป จนทำให้ญาติของสามีเสียชีวิต 3 ราย
แพตเตอร์สันมีเวลา 28 วัน ในการยื่นอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาหรือคำตัดสินความผิด โดยก่อนหน้านี้เธอให้การปฏิเสธทุกข้อหาและยืนยันมาตลอดว่าการเสียชีวิตเป็น “อุบัติเหตุที่น่าเศร้า”
หญิงวัย 50 ปีรายนี้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมแขก 3 คน ได้แก่ ดอนและเกล แพตเตอร์สัน พ่อแม่ของอดีตสามี และป้าเฮเทอร์ วิลคินสัน นอกจากนี้ยังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่าสามีของเฮเทอร์ คือเอียน วิลคินสัน
ผู้พิพากษาเบลกล่าวว่า การกระทำของแพตเตอร์สันเข้าข่าย “อาชญากรรมในระดับร้ายแรงที่สุด” พร้อมชี้ว่าปกติแล้วโทษมาตรฐานของคดีฆาตกรรมคือจำคุก 25 ปี แต่กรณีนี้มีความร้ายแรงเกินกว่านั้น
ระหว่างการอ่านคำพิพากษา ศาลได้อธิบายขั้นตอนการกำหนดโทษ โดยมีการพิจารณาว่าจะกำหนดโทษขั้นต่ำ (non-parole period) อย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ต้องชี้ขาดในคดีนี้
ในคำพิพากษา ผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เบล ได้เล่าลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่มื้ออาหาร บีฟเวลลิงตัน ที่เอริน แพตเตอร์สันจัดเลี้ยงให้แขก จนถึงความพยายามของเธอที่จะปกปิดความรู้เกี่ยวกับเห็ดพิษ เดธแคป ที่ใช้ปรุงอาหาร
“การกระทำของคุณที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสามคน และอีกหนึ่งคนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงให้เห็นถึงการวางแผนล่วงหน้าอย่างชัดเจน”
ผู้พิพากษากล่าว พร้อมทั้งระบุว่า การเชิญอดีตสามี ไซมอน พร้อมพ่อแม่ ป้า และลุง มาร่วมรับประทานอาหาร โดยไม่มีลูกๆ มาด้วย เป็นการนัดหมายที่ผิดปกติ และศาลเชื่อว่าเธอตั้งใจจะฆ่าทุกคนในวันนั้น
āļāļēāļāđāļāļĨāļāļĩāđāđāļĄāđāļāļēāļāļĨāļāđāļĨāļ·āļāļāđāļāđ
จากนั้น ผู้พิพากษาได้กล่าวถึงคำให้การของญาติผู้เสียชีวิตที่อ่านต่อหน้าศาล ซึ่งสะท้อนถึง “บาดแผลทางใจ” ที่ส่งผลต่อสมาชิกครอบครัวแพตเตอร์สันและวิลคินสันอย่างน้อยสี่ชั่วอายุคน
“คุณไม่เพียงตัดชีวิตของสามคนลง และทำลายสุขภาพของเอียน วิลคินสัน แต่คุณยังสร้างความสูญเสียให้กับทั้งสองครอบครัว และที่เจ็บปวดยิ่งกว่านั้นคือคุณทำร้ายลูก ๆ ของตัวเอง ที่ต้องสูญเสียคุณปู่คุณย่าที่พวกเขารักไปตลอดกาล” ผู้พิพากษากล่าว
คำตัดสินครั้งนี้ตอกย้ำภาพของคดีสะเทือนขวัญ ที่ไม่เพียงคร่าชีวิตผู้คน แต่ยังทิ้งรอยแผลลึกที่ยากจะลบเลือนทั้งในครอบครัวและในสังคมออสเตรเลีย
ในคำพิพากษา ผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เบล ได้เล่าลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่มื้ออาหาร บีฟเวลลิงตัน ที่เอริน แพตเตอร์สันจัดเลี้ยงให้แขก จนถึงความพยายามของเธอที่จะปกปิดความรู้เกี่ยวกับเห็ดพิษ เดธแคป ที่ใช้ปรุงอาหาร
“การกระทำของคุณที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสามคน และอีกหนึ่งคนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงให้เห็นถึงการวางแผนล่วงหน้าอย่างชัดเจน”
ผู้พิพากษากล่าว พร้อมทั้งระบุว่า การเชิญอดีตสามี ไซมอน พร้อมพ่อแม่ ป้า และลุง มาร่วมรับประทานอาหาร โดยไม่มีลูกๆ มาด้วย เป็นการนัดหมายที่ผิดปกติ และศาลเชื่อว่าเธอตั้งใจจะฆ่าทุกคนในวันนั้น
āļāļēāļāđāļāļĨāļāļĩāđāđāļĄāđāļāļēāļāļĨāļāđāļĨāļ·āļāļāđāļāđ
จากนั้น ผู้พิพากษาได้กล่าวถึงคำให้การของญาติผู้เสียชีวิตที่อ่านต่อหน้าศาล ซึ่งสะท้อนถึง “บาดแผลทางใจ” ที่ส่งผลต่อสมาชิกครอบครัวแพตเตอร์สันและวิลคินสันอย่างน้อยสี่ชั่วอายุคน
“คุณไม่เพียงตัดชีวิตของสามคนลง และทำลายสุขภาพของเอียน วิลคินสัน แต่คุณยังสร้างความสูญเสียให้กับทั้งสองครอบครัว และที่เจ็บปวดยิ่งกว่านั้นคือคุณทำร้ายลูก ๆ ของตัวเอง ที่ต้องสูญเสียคุณปู่คุณย่าที่พวกเขารักไปตลอดกาล” ผู้พิพากษากล่าว
คำตัดสินครั้งนี้ตอกย้ำภาพของคดีสะเทือนขวัญ ที่ไม่เพียงคร่าชีวิตผู้คน แต่ยังทิ้งรอยแผลลึกที่ยากจะลบเลือนทั้งในครอบครัวและในสังคมออสเตรเลีย
แม้ศาลจะตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่แรงจูงใจของ เอริน แพตเตอร์สัน ในการก่อเหตุยังคงเป็นปริศนา ผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เบล ย้ำชัดว่า เขาจะไม่ “คาดเดา” ว่าเหตุใดเธอจึงลงมือฆ่าญาติสามีสามราย และพยายามฆ่าอีกหนึ่งราย
คดีนี้กลายเป็นที่สนใจของสื่อทั้งในออสเตรเลียและต่างประเทศ ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ไปจนถึงสำนักข่าวระดับโลกอย่าง Reuters, CNN และ BBC รวมถึงยังถูกนำเสนอผ่านพอดแคสต์รายวัน ที่เล่าลำดับเหตุการณ์และชำแหละหลักฐานในศาลอย่างต่อเนื่อง
ผู้พิพากษาเบลบรรยายกระแสข่าวว่าเป็นไปอย่าง “ไม่หยุดหย่อน” และทำให้ครอบครัวของเหยื่อ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้รับรู้เรื่องราวที่เจ็บปวดนี้
“ผู้ใหญ่ในครอบครัวเหยื่อหลายคนไม่ได้เพียงต่อสู้กับความสูญเสียและวิธีการตายที่โหดร้ายของคนที่รัก แต่ยังต้องทนทุกข์กับความรู้สึกผิด ที่ไม่อาจบรรเทาความเจ็บปวดของคนใกล้ชิดได้
พวกเขารู้สึกถึงข้อจำกัดของตัวเองอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถปกป้องเด็ก ๆ จากการพูดถึงคดีนี้ที่เต็มไปหมด ทั้งในสื่อ ออนไลน์ ที่สาธารณะ หรือแม้กระทั่งในโรงเรียน” ผู้พิพากษากล่าว
นอกจากนี้ ผู้พิพากษายังระบุว่า ด้วยความสนใจจากสื่อที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แพตเตอร์สัน “มีแนวโน้มที่จะเป็นนักโทษอื้อฉาวไปอีกหลายปี” และอาจตกอยู่ใน “ความเสี่ยงอย่างมาก” จากผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ทำให้มี “โอกาสสูง” ที่เธอจะต้องถูกกักขังเดี่ยวต่อไปอีกหลายปี เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
คดีนี้จึงไม่เพียงเป็นบทเรียนสะเทือนขวัญเกี่ยวกับความไว้วางใจภายในครอบครัว แต่ยังสะท้อนถึงผลกระทบทางสังคมที่กว้างขวาง ตั้งแต่การสูญเสียส่วนบุคคลจนถึงการเผชิญหน้ากับความจริงในพื้นที่สาธารณะ ที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
āļāļđāđāļĢāļāļāļāļĩāļ§āļīāļāđāļŦāđāļāļ āļąāļĒ
แม้จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโศกนาฏกรรม แต่ เอียน วิลคินสัน ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ เห็ดพิษ เดธแคปได้เลือกที่จะให้อภัยเอริน แพตเตอร์สัน
ระหว่างการพิจารณาคดีก่อนศาลตัดสิน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสงบว่า
“ผมขอให้อภัยเอริน… สำหรับการฆาตกรรมของเฮเทอร์ เกล และดอน ผมจำเป็นต้องแสวงหาความยุติธรรม แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ผมขอให้อภัย และอธิษฐานให้เธอใช้เวลาที่อยู่ในคุกอย่างมีค่า เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น ตอนนี้ เธอกลายเป็นเหยื่อของความเมตตาของผมแล้ว”
คำกล่าวที่เต็มไปด้วยความกรุณานี้ทำให้บรรยากาศในศาลเงียบสงัด ก่อนที่ผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เบล จะเอ่ยต่อไปยังแพตเตอร์สันว่า
“ข้อเสนอการให้อภัยนี้คือโอกาสของคุณ และคุณควรยอมรับมันในแบบที่เขาแนะนำ”
การให้อภัยของเอียน วิลคินสัน ไม่ได้ลบล้างความโหดร้ายที่เกิดขึ้น แต่ได้สะท้อนพลังของความเมตตาในยามมืดมน และเปิดคำถามสำคัญว่า ผู้ก่อเหตุจะเลือกใช้เวลาหลังลูกกรงเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองได้จริงหรือไม่
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ āđāļ§āđāļāđāļāļāđ หรือ Facebook และ Instagram