ผู้ประท้วงอ้างผู้อพยพย้ายถิ่นทำลายชาติ แล้วนักวิชาการว่าอย่างไร?

การชุมนุม March for Australia สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโจมตีนโยบายและจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นที่รัฐบาลรับเข้ามา โดยผู้ประท้วงกล่าวหาว่าส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคมออสเตรเลีย มาหาคำตอบว่านักวิชาการโต้ข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่าอย่างไร

A high-angle photo shows a small inflatable boat with people in it, positioned next to a large whale. The whale is partially tangled in a fishing net, and a rescue effort appears to be underway.

ผู้ประท้วงเดินขบวนในเมืองใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ เรียกร้องให้ยุติการอพยพเข้าสู่ออสเตรเลีย Source: AAP / Jerome Delay

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.) มีผู้ชุมนุมหลายพันคนออกมารวมตัวทั่วออสเตรเลีย ในการประท้วงต่อต้านผู้อพยพย้ายถิ่น

โดยมีนักการเมืองอย่าง พอลลีน แฮนสัน หัวหน้าพรรควันเนชัน และบ็อบ แคตเตอร์ ส.ส.รัฐบาลกลาง ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ภายใต้เป้าหมาย “ทวงคืนประเทศ”

แม้ผู้จัดงานพยายามแยกตัวออกจากกลุ่มนีโอนาซี เช่น National Socialist Network (NSN) แต่โธมัส ซูเวลล์ ผู้นำกลุ่มก็ได้ขึ้นเวทีที่นคคเมลเบิร์น ขณะที่ในซิดนีย์ ผู้นำกลุ่ม White Australia NSW ก็ได้ขึ้นปราศัยเช่นกัน

ในวันเดียวกัน ที่เมลเบิร์นมีการจัดการชุมนุมต่อต้านแนวคิดของ“March for Australia” (counter-protest) ควบคู่กัน ตำรวจต้องใช้สเปรย์พริกไทยและม้าควบคุมฝูงชน เพื่อป้องกันไม่ให้สองฝ่ายปะทะกัน

แกนหลักของการชุมนุมที่ถูกเรียกว่า “March for Australia” คือการเรียกร้องให้ยุติ “การอพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่” ที่ผู้จัดการชุมนุมอ้างว่า “ได้ทำลายสายสัมพันธ์ที่เคยเชื่อมโยงสังคมออสเตรเลียเข้าด้วยกัน”

โดยก่อนการชุมนุม มีการแจกใบปลิวโฆษณาและสื่อบางสำนักเผยแพร่ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับสถิติและนโยบายการย้ายถิ่นของออสเตรเลียเพื่อหนุนการประท้วงครั้งนี้
A row of police in blue hats, a man in a black hat and moustache and black jacket
โธมัส ซูเวลล์ จากกลุ่ม National Socialist Network เข้าร่วมการชุมนุมที่เมลเบิร์น แม้ผู้จัดงานพยายามแยกตัวออกจากขบวนการนีโอนาซี Source: AAP / Joel Carrett
ถ้อยคำโจมตีการย้ายถิ่นที่อ้างว่า “ผู้อพยพย้ายถิ่นล้นประเทศ” และพุ่งเป้าไปที่ชุมชนชาวอินเดียโดยเฉพาะ ทำให้กลุ่มผู้อพยพย้ายถิ่นและนักศึกษาต่างชาติหลายส่วนแสดงความกังวลว่าอาจตกเป็นเป้าความเกลียดชัง

เอสบีเอส นิวส์จึงสอบถามผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวอ้างเหล่านี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่อย่างไร

ข้ออ้างของผู้ประท้วง: “มีผู้อพยพกว่า 1,500 คนเข้ามาออสเตรเลียทุกวัน”

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เบน ฟอร์ดแฮม พิธีกรวิทยุ 2GB กล่าวว่ามีผู้อพยพ 1,544 คน หรือเทียบเท่ากับเครื่องบินโบอิ้ง 787 เต็มลำ 5 ลำ เดินทางเข้ามาออสเตรเลีย “ทุกวัน ทุกสัปดาห์”

เขายังอ้างว่าตัวเลขนี้เป็นเหตุผลที่จุดชนวนให้เกิดการชุมนุม March for Australia โดยระบุว่าการอพยพในระดับดังกล่าวจะทำให้ปีงบประมาณ 2024-25 มีผู้ย้ายถิ่นใหม่ถึง 457,000 คน

สูงกว่าตัวเลขสุทธิ 446,000 คนในปี 2023-24 แต่ยังต่ำกว่าสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 536,000 คนเมื่อปีก่อน

ฟอร์ดแฮมกล่าวต่อว่า “ในจังหวะนี้ ภายในสามปีเราจะมีคนเพิ่มอีก 1.4 ล้านคน เท่ากับจำนวนประชากรเมืองแอดิเลด”

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวไม่สะท้อนความเป็นจริงของการย้ายถิ่น

แต่เป็นข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกของผู้โดยสาร ซึ่งนับรวมทั้งผู้ย้ายถิ่นถาวรและผู้พำนักระยะยาวที่เดินทางผ่านด่านชายแดนของออสเตรเลีย
สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ระบุว่า ในทางประวัติศาสตร์ ตัวเลขการเคลื่อนไหวเข้า–ออกของผู้พำนักถาวรและระยะยาว มักจะสูงกว่าตัวเลข “การย้ายถิ่นสุทธิ” อยู่เสมอ

อบุล ริซวี อดีตรองปลัดกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและนักวิจารณ์อิสระ อธิบายว่า “หลายคนที่อยู่ในออสเตรเลียระยะยาว เช่น นักเรียน เดินทางเข้าออกประเทศบ่อยครั้ง และทุกครั้งที่เข้า–ออกก็ถูกนับซ้ำ จึงทำให้ตัวเลขดูบิดเบือนได้”

ABS จะเผยแพร่ตัวเลขประชากรของประเทศ รวมถึงแยกตามรัฐและดินแดน ประจำไตรมาสมีนาคม 2025 ในวันที่ 18 กันยายนนี้

ข้ออ้าง: “มีชาวอินเดียย้ายมาออสเตรเลียใน 5 ปี มากกว่าชาวกรีกและอิตาเลียนในรอบ 100 ปี”

ข้ออ้างนี้ปรากฏในใบปลิวที่ผู้จัดการชุมนุม March for Australia เผยแพร่ โดยชี้ว่าจำนวนชาวอินเดียที่ย้ายมาออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2020 มีมากกว่าจำนวนผู้อพยพจากกรีกและอิตาลีตั้งแต่ปี 1925

อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดด้านข้อมูลหลายประการในการตรวจสอบข้ออ้างนี้ ได้แก่ ข้อมูลที่ถูกต้องของปีล่าสุดจะยังไม่เผยแพร่จนกว่าจะถึงกลางเดือนกันยายน

และสถิติการอพยพของออสเตรเลียที่เก็บอย่างเป็นทางการมีมาตั้งแต่ปี 1945 เป็นต้นมา
ปีเตอร์ แมคโดนัลด์ ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านประชากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) กล่าวถึงข้ออ้างดังกล่าวว่าเป็น “ถ้อยแถลงที่แปลก”

เขาอธิบายว่า แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนชาวอินเดียที่เดินทางมาออสเตรเลียแม้จะมีมากในเชิงตัวเลข

แต่เมื่อเปรียบเทียบในสัดส่วนต่อประชากรทั้งประเทศ ก็ใกล้เคียงกับการอพยพของชาวกรีกและอิตาลีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ในช่วง 25 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง การอพยพของกรีกและอิตาลีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.2% ของประชากรออสเตรเลียต่อปี ขณะที่ตลอด 20 ปีงบประมาณที่ผ่านมา การย้ายถิ่นสุทธิจากอินเดียเฉลี่ยราว 0.22% ต่อปี
A crowd of people with their backs turned, Australian flags in the air. A spire. Blue sky.
ผู้ประท้วงชุมนุมนอกอาคารรัฐสภาที่แคนเบอร์ราเมื่อวันอาทิตย์ Source: AAP / Mick Tsikas
แมคโดนัลด์ยังชี้ว่า วาทกรรมในลักษณะเดียวกันที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้อพยพกรีกและอิตาเลียนก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลังสงครามโลก

“เมื่อชาวอิตาลีและกรีกอพยพมาออสเตรเลียในทศวรรษ 1950–1960 พวกเขาต้องเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติรุนแรง

ถูกกล่าวหาว่าไม่ยอมกลมกลืนกับวัฒนธรรมออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นว่าวัฒนธรรมเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ออสเตรเลียไปแล้ว” แมคโดนัลด์กล่าว

ทั้งนี้ เอสบีเอส นิวส์ ได้ติดต่อผู้จัดการชุมนุม March for Australia เพื่อสอบถามที่มาของตัวเลขดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ

ข้ออ้าง: การย้ายถิ่นคือการเข้ามา “แทนที่” คนผิวขาว

ใบปลิวของการชุมนุม March for Australia ยังอ้างว่า สาเหตุที่จำนวนชาวอินเดียอพยพมาออสเตรเลียเพิ่มขึ้นก็เพื่อ “การแทนที่ (replacement) อย่างชัดเจน”

ถ้อยคำในลักษณะเดียวกันถูกพูดซ้ำบนเวทีการชุมนุมที่ซิดนีย์เมื่อวันอาทิตย์ โดยชายคนหนึ่งซึ่งระบุตัวว่าเป็นผู้จัดร่วม เขากล่าวกับผู้ชุมนุมว่า “นี่คือแผนการระดับโลกที่ต้องการทำให้ผู้มีเชื้อสายเซลติกและยุโรปถูกกดขี่ ดูหมิ่น และถูกแทนที่”

ภาษาลักษณะนี้เชื่อมโยงกับทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลความจริงซึ่งเกี่ยวข้องกับเบรนตัน แทร์แรนท์ ผู้ก่อการร้ายเหตุกราดยิงมัสยิดในนิวซีแลนด์ปี 2019 ที่คร่าชีวิต 51 คน

โดยแทร์แรนท์ได้เผยแพร่แถลงการณ์ชื่อ “Great Replacement” ซึ่งอ้างว่าการเมืองเสรีนิยมจงใจใช้การย้ายถิ่นเพื่อ “แทนที่” ประชากรผิวขาวในประเทศตะวันตก

ขณะที่ผู้เชื่อรายสำคัญอื่น ๆ รวมถึงแอนเดอร์ส เบรวิก มือสังหารหมู่ชาวนอร์เวย์
อบุล ริซวี อดีตรองปลัดกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าวาทกรรมสุดโต่งดังกล่าว “ไม่สะท้อนความจริงว่าการย้ายถิ่นทำงานอย่างไร”

เขาอธิบายว่า ที่จำนวนผู้อพยพจากอินเดียมีมาก เป็นผลจากระบบคัดเลือกแรงงานทักษะของออสเตรเลีย

“ชาวอินเดียมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับสูง ซึ่งภาษาอังกฤษถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกแรงงานทักษะและเส้นทางการย้ายถิ่น หากเปรียบเทียบประชากรทั้งของจีนและอินเดีย สัดส่วนของชาวอินเดียที่มีศักยภาพจะอพยพได้ย่อมสูงกว่า เพราะมีทักษะภาษาอังกฤษมากกว่า” ริซวีกล่าว
ริซวีกล่าวเพิ่มเติมว่าตัวเลขผู้อพยพจากอินเดียที่ดูเหมือนสูงนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางเข้ามาของนักเรียนต่างชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะอยู่ต่อในออสเตรเลียหลังเรียนจบ

“บางส่วนก็เดินทางกลับประเทศ บางส่วนได้สถานะผู้พำนักถาวร และบางส่วนก็ติดค้างอยู่ในสภาวะไม่แน่นอน (limbo)

ตอนนี้กลุ่มที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้มีจำนวนมาก และยากที่จะคาดเดาว่าในที่สุดแล้วจะมีจำนวนเท่าใดที่ออกจากออสเตรเลีย” ริซวีกล่าว

ข้ออ้าง: “คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรา”

ผู้จัดการชุมนุม March for Australia อ้างผลสำรวจจากสถาบันโลวี (Lowy Institute) ที่ระบุว่า ชาวออสเตรเลีย 53% มองว่าจำนวนผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศนั้น “มากเกินไป”

เมื่อเทียบกับ 38% ที่มองว่ายัง “น้อยเกินไป” และอีก 7% ที่มองว่า “กำลังพอดี”

การสำรวจนี้มีผู้ตอบ 2,117 คน ถือเป็นตัวแทนระดับประเทศ โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ 2.1% ตามวิธีวิจัยของสถาบันโลวี ดังนั้น จึงถูกต้องว่าคนส่วนใหญ่ที่ถูกสำรวจเห็นว่าการอพยพมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม สถาบันโลวียังชี้ให้เห็นบริบทเพิ่มเติมว่า ตัวเลขการอพยพกำลังปรับลดลงแล้ว โดยแม้สถิติอย่างเป็นทางการยังไม่เผยแพร่

แต่ริซวีคาดว่าตัวเลขสุทธิจะอยู่ราว 300,000 คน ลดลงจากจุดสูงสุดหลังโควิดที่ 536,000 คนในปีงบประมาณ 2022-23
A graph showing net overseas migation figures
Credit: SBS News
อย่างไรก็ตาม ริซวีคาดว่าตัวเลขการอพยพจะยังสูงกว่าที่กระทรวงการคลัง คาดการณ์ไว้ที่ 260,000 คน และแม้จะมีการปรับประมาณการในเดือนธันวาคม 2024 เป็น 340,000 คน แต่ก็ยังต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริง

“กระทรวงการคลังคาดการณ์ผิดพลาดต่อเนื่องมา 2–3 ปี ทำให้ความเชื่อมั่นต่อการคาดการณ์ลดลง” ริซวีกล่าว


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทยได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

    Share

    Published

    By Cheyne Anderson
    Presented by Chayada Powell
    Source: SBS

    Share this with family and friends


    Follow SBS Thai

    Download our apps
    SBS Audio
    SBS On Demand

    Listen to our podcasts
    Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
    Understand the quirky parts of Aussie life.
    Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

    Watch on SBS
    Thai News

    Thai News

    Watch in onDemand