ตรวจเข้มเข้าอเมริกา ยอดนักท่องเที่ยวลดฮวบ หวั่นกระทบธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลก

สหรัฐอเมริกาซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นดินแดนแห่งโอกาสและการผจญภัย กำลังเผชิญภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้มาเยือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ระดับโลกแห่งหนึ่งในออสเตรเลียชี้ว่ารายได้ปีนี้อาจหายไปถึง 100 ล้านดอลลาร์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

An empty beachside road with several colourful concrete buildings on one side and palm trees on the other.

จำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 Source: Moment RF / Alexander Spatari/Getty Images

ไฟลต์ เซ็นเตอร์ (Flight Centre) หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกแถลงการณ์เตือนว่า รายได้ในปีนี้อาจลดลงมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ จากความต้องการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) บริษัทระบุถึง "สภาพการค้าแปรปรวน" ซึ่งอ้างอิงกับนโยบายการเข้าประเทศของสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลง

นี่ถือเป็นสัญญาณแรกจากบริษัทของออสเตรเลียที่สะท้อนว่าการเดินทางไปยังสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นประเด็นที่น่ากังวลเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคเริ่มหวาดระแวงจากการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด ข่าวนักท่องเที่ยวถูกควบคุมตัว รวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จำนวนชาวออสเตรเลียที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19

ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียที่ลดการไปท่องเที่ยวที่สหรัฐฯ แต่จากข้อมูลล่าสุดของเดือนมีนาคมจากฝั่งอเมริกาเผยว่า

นักท่องเที่ยวจากเยอรมนีลดลง 28%, สเปน 25%, สหราชอาณาจักร 18% และเกาหลีใต้ 15% โดยรวมแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ลดลงถึง 11.6%

แม้แต่ชาวแคนาดา ซึ่งเคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ มากที่สุดมาตลอด ก็มีจำนวนลดลงกว่า 900,000 คน หรือราว 17% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่กระแสแบนการไปพักผ่อนที่อเมริกายังคงเพิ่มขึ้น

กระแสของนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับพรีเมียมกำลังแปรเปลี่ยน อเมริกาซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นดินแดนแห่งโอกาสและการผจญภัย กลับรู้สึก "ไม่เป็นมิตร" ต่อนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเข้มบริเวณชายแดน การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวด และบรรยากาศทางการเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทำให้นักเดินทางจำนวนมากรู้สึกไม่ปลอดภัย

แม้ Flight Centre จะใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวังในแถลงการณ์ แต่ซีอีโอ เกรแฮม เทอร์เนอร์ แถลงอย่างตรงไปตรงมาว่า:

“ผู้คนจากยุโรป สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ไม่อยากไปสหรัฐฯ แล้ว จากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เราได้ยินจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าไม่อยากเจอประสบการณ์การตรวจคนเข้าเมือง”

มีรายงานว่านักท่องเที่ยวถูกควบคุมตัว ใส่กุญแจมือ และส่งกลับประเทศที่สนามบินในสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาเล็กน้อยเกี่ยวกับวีซ่าหรือความเข้าใจผิด รวมถึงการตรวจค้นโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

หลายประเทศเริ่มออกมาตอบสนอง โดยนิวซีแลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ต่างอัปเดตคำแนะนำการเดินทางไปสหรัฐฯ ให้ประชาชนระมัดระวังเป็นพิเศษ
เสียงสะท้อนจากสื่อต่างประเทศเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ที่ว่าสหรัฐอเมริกาไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่เดินทางไปง่าย ปลอดภัย หรือเป็นมิตรเหมือนในอดีต

แม้คำเตือนจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ จะเริ่มดังขึ้น แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากท่าทีแข็งกร้าวของสหรัฐฯ ยังไม่ถูกใส่ใจเท่าที่ควรจากประธานาธิบดีเมืองลุงแซม

การท่องเที่ยว: การส่งออกที่ถูกลืมของอเมริกา

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ เขากลับเพิกเฉยต่อบทบาทของภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยวและการศึกษา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้เกินดุลของสหรัฐฯ

ทรัมป์กล่าวว่า การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ ลดลง “ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้สงครามการค้าจะเน้นไปที่สินค้า เช่น รถยนต์ เหล็ก และผลผลิตการเกษตร แต่ภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนใหญ่กว่าของเศรษฐกิจกำลังแบกรับต้นทุนแฝงที่ไม่มีใครพูดถึง

การท่องเที่ยวคือภาคบริการที่สร้างรายได้สูงที่สุดให้กับสหรัฐฯ โดยมีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคิดเป็นร้อยละ 10 ของอัตราการจ้างงานทั้งหมด ซึ่งมากกว่างานในภาคการผลิตที่มีสัดส่วนเพียงราว 8% ของแรงงานในประเทศ

นอกจากนั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังหล่อเลี้ยงธุรกิจรายย่อย เศรษฐกิจท้องถิ่น และวิถีชีวิตของผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศ

นอกจากจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนก็อาจไม่เหมือนเดิม

เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ตั้งแต่อาหารไปจนถึงของใช้ในโรงแรมและรถเช่า

ผนวกกับภาษีจากสงครามการค้าได้ดันต้นทุนสูงขึ้น ทำให้โรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ต้องผลักภาระต้นทุนสู่ผู้บริโภค

ปัญหาขาดแคลนแรงงานยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง โดยเกือบ 20% ของแรงงานในภาคบริการการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ เป็นผู้ที่เกิดในต่างประเทศ
การลดโควตาวีซ่าทำงานตามฤดูกาลและความหวาดกลัวการเนรเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายธุรกิจในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ที่เป็นหัวใจของภาคการท่องเที่ยว ต้องเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก

ผลกระทบจากการท่องเที่ยว...เงียบแต่รุนแรง

การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่ส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ แต่ยังเป็น "ซอฟท์พาวเวอร์" ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของชาติผ่านวัฒนธรรม ค่านิยม และการต้อนรับผู้มาเยือน

นักท่องเที่ยวหนึ่งคนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับการต้อนรับ หรือถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่ได้หมายถึงแค่ยอดขายที่หายไป แต่มันคือสายสัมพันธ์ที่ถูกทำลาย

สถาบัน ทัวริซึม อีโคโนมิกส์ (Tourism Economics) คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มปัจจุบันยังดำเนินต่อไป สหรัฐฯ อาจสูญเสียรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 15,600 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ภายในปี 2025

แม้งานในภาคการผลิตจะเป็นข่าวใหญ่ในสื่อ แต่การถดถอยอย่างเงียบ ๆ ของ "การท่องเที่ยวอเมริกา" อาจฝากรอยแผลลึกและยาวนานยิ่งกว่าไว้ในวัฒนธรรม ชุมชน และบทบาทของสหรัฐฯ บนเวทีโลก
การปรับลดคาดการณ์รายได้ของ Flight Centre เป็นเพียงหนึ่งในหลายสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ซึ่งอาจส่งผลระยะยาวต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก

สำหรับธุรกิจ แรงงาน และชุมชนในสหรัฐฯ และในออสเตรเลียที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดการท่องเที่ยวอเมริกัน ความสูญเสียครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่ตัวเลข

มาดาลีน สเคอร์รี และอนิตา แมนเฟรด้า อาจารย์อาวุโสด้านการท่องเที่ยวและการบริการจากมหาวิทยาลัยทอเรนส์ ออสเตรเลีย เห็นพ้องว่า แนวโน้มเหล่านี้ควรได้รับความสนใจในฐานะผลกระทบเชิงโครงสร้างที่ไม่อาจมองข้าม


 ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Anita Manfreda, Madalyn Scerri
Presented by Chayada Powell
Source: The Conversation

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand