มีคำเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังร้านค้าออนไลน์หลอกลวง หลังพบว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีช่องทางที่จะเรียกร้องค่าเสียหายคืนน้อยมาก
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคออสเตรเลีย (ACCC) ตรวจพบอย่างน้อย 4 ร้านค้าที่ชี้นำให้ลูกค้าซื้อสินค้าคุณภาพต่ำ
โดยมักอ้างว่าเป็นร้านท้องถิ่นที่กำลังจะปิดกิจการและขายสินค้าคุณภาพดี ทั้งที่แท้จริงตั้งอยู่ในต่างประเทศและจำหน่ายเสื้อผ้า รองเท้า ที่สั่งส่งจากซัพพลายเออร์และมีคุณภาพต่ำ
แคทริโอนา โลว์ รองประธาน ACCC ระบุว่าพฤติกรรมเช่นนี้เอาเปรียบความเห็นใจของผู้บริโภคที่ตั้งใจอยากสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่น
ACCC ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเกี่ยวกับเว็บไซต์ ดังต่อไปนี้ เช่น everly-melbourne.com, willowandgrace-adelaide.com, sophie-claire.com และ doublebayboutique.com
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวดูเหมือนจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ต้นปี 2025 ทางการได้รับรายงานอย่างน้อย 360 เรื่อง เกี่ยวกับร้านค้าออนไลน์กว่า 60 แห่ง
หลายคนร้องเรียนว่าร้านค้า “ผี” เหล่านี้ปฏิเสธที่จะคืนเงิน คืนให้เพียงบางส่วน หรือไม่ตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเลย
ตามปกติ ผู้บริโภคออสเตรเลียจะสามารถใช้สิทธิผู้บริโภคกับร้านค้าในประเทศได้ แต่เมื่อร้านเหล่านี้ดำเนินการจากต่างประเทศ กฎหมายสิทธิประกันผู้บริโภคตามกฎหมายออสเตรเลียจะใช้ไม่ได้
สตเฟน โนวิคกี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายจากศูนย์กฎหมายผู้บริโภค (Consumer Action Law Centre) ระบุว่า
“เราแทบจะทำอะไรไม่มากนัก”
ACCC แนะให้ผู้บริโภคติดต่อธนาคาร เพื่อสอบถามว่ามีทางยกเลิกหรือระงับธุรกรรมได้หรือไม่
แม้การขอยกเลิกธุรกรรมจะทำได้ในกรณีถูกหลอกลวงทั่วไป แต่สถานการณ์ของร้านค้า “ผี” กลับซับซ้อนกว่า เพราะผู้ซื้อยังคงได้รับสินค้า
คุณ โนวิคกี อธิบายว่า “ในกรณีแบบนี้จะยากกว่าการโกงแบบไม่ส่งของ เพราะต้องแยกให้ออกว่าลดราคาจริง หรือแค่โฆษณาลวงขายของที่คุณภาพไม่คุ้มกับราคา”
อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวทางปฏิรูปบางประการที่สามารถทำได้
แม้รัฐบาลจะไม่สามารถออกกฎหมายสิทธิผู้บริโภคที่สามารถดำเนินคดีกับธุรกิจในต่างประเทศได้โดยตรง แต่ก็อาจใช้มาตรการสกัดกั้นหรือป้องกันโฆษณาของร้านเหล่านี้ตั้งแต่ต้นทาง
วิธีสังเกตร้านค้า “ผี”
ผู้ให้บริการร้านค้าเหล่านี้มักเจาะกลุ่มเป้าหมายชาวออสเตรเลียผ่านโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram
โดยทำให้ดูเหมือนเป็นร้านท้องถิ่น ด้วยการปิดแล้วเปิดใหม่ ใช้ชื่อที่อ้างถึงเมืองหรือย่านต่าง ๆ ในออสเตรเลีย
อ่านเพิ่มเติม

ด้านดีและด้านมืดของการซื้อของออนไลน์
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคออสเตรเลียได้ทำหนังสือถึงบริษัท Meta ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มดังกล่าว
และ Shopify ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโฮสต์เว็บไซต์ขายของ เพื่อให้ช่วยจัดการ รวมทั้งพยายามให้ความรู้กับผู้บริโภค
ร้านค้า “ผี” มักใช้โดเมนลงท้าย .com ไม่ใช่ .com.au และหลายแห่งใช้ภาพที่สร้างด้วยเอไอ
อีกทั้งมักไม่มีที่อยู่จริงหรือช่องทางติดต่อยกเว้นอีเมล และในนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือเงื่อนไขการให้บริการ มักอ้างอิงกฎหมายต่างประเทศแทนที่จะเป็นกฎหมายออสเตรเลีย เป็นต้น