NSW พบติดโควิดอีก 19 ราย กว่าครึ่งเชื่อมโยงคลัสเตอร์ร้านไทย

จนท.จับตาสถานการณ์โควิดชานเมืองทางตะวันออกของซิดนีย์ หลังวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 19 ราย พร้อมรัดกุมมาตรการรักษาความสะอาดสถานที่ออกกำลังกาย ขณะที่กลุ่มก้อนโควิดร้าน "ไทยร็อก" พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

Eight of the new cases are linked to the Thai Rock restaurant at Stockland Wetherill Park Shopping Centre.

A cluster is linked to the Thai Rock restaurant at Stockland Wetherill Park Shopping Centre. Source: AAP

รัฐนิวเซาท์เวลส์จะขยายมาตรการจำกัดห้ามที่บังคับใช้ในสถานบริการและร้านอาหาร ไปยังสถานที่ออกกำลังกาย เพื่อป้อกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการรักษาสุขอนามัย ขณะที่วันนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 19 ราย

ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 19 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 20:00 น. ของเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับร้านอาหารไทยร็อก (Thai Rock) ในย่านวีเธอร์ริล พาร์ก (Wetherill Park) ทำให้กลุ่มก่อนการติดเชื้อของร้านอาหารไทยดังกล่าว มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 85 ราย
ขณะที่ร้านอาหารไทยร็อกอีกสาขาหนึ่งในย่านพอตส์พอยต์ (Potts Point) ได้มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 2 ราย ทำให้ขนาดของกลุ่มก่อนการติดเชื้อในพื้นที่ชานเมืองทางตะวันออกของนครซิดนีย์ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 7 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อใหม่รายหนึ่งอย่างใดมีความเชื่อมโยงกับร้านอาหารดิ อะพอลโล (The Apollo) ซึ่งอยู่ใกล้เคียง 

หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังคงอยู่ระหว่างการหาความเชื่อมโยง ระหว่างผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในร้านอาหารไทยทั้งสองแห่ง และยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน

โดยในบรรดาผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 19 ราย พบเพียง 2 รายที่มีความเชื่อมโยงกับโรงแรมกักโรค

นายนิโค โลวว์ (Nico Louw) หนึ่งในที่ปรึกษาอาวุโสของ นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้โพสในอินสตาแกรมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุว่าอยู่ระหว่างการกักตัวในที่พักอาศัย หลังพบว่าอยู่ในระยะสัมผัสของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับร้านอาหาร The Apollo

ขณะที่ นางฮอลลีย์ ฮิวส์ (Hollie Hughes) วุฒิสมาชิกรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับแจ้งให้ติดตามอาการ หลังเดินทางไปยังร้านอาหารไทยร็อก (Thai Rock) ในย่านพอตส์พอยต์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลายราย
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ ทำให้ นางอนาสตาเซีย ปาลาเชย์ มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ ประกาศห้ามไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ปริมณฑลของซิดนีย์ ​(Greater Sydney) เดินทางเข้าไปยังรัฐควีนส์แลนด์ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป (1 ส.ค.) 

“จากที่ดิฉันได้รับแจ้งในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ในตอนนี้เราได้อยู่ในขั้นวิกฤตของการแพร่ระบาดใหญ่” นางเบเรจิกเลียนกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ขณะที่สถานที่ออกกำลังกายในรัฐนิวเซาท์เวลส์หลายแห่ง จะต้องลงทะเบียนแผนความปลอดภัยโควิดเซฟ (COVID-safe) ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป และจะต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลสุขอนามัยอยู่ในบริเวณสถานบริการ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษาระยะห่างทางสังคม รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด และน้ำยาล้างมือ ซึ่งข้อกำหนดนี้ได้รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 

เมื่อวานนี้ (28 ก.ค) ศูนย์ออกกำลังกายฟิตเนส เฟิร์ส (Fitness First) ในย่านคิงส์ครอส (Kings Cross) ระบุว่า พบผู้เข้าคลาสออกกำลังกาย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกตามลำดับ โดยโฆษกของฟิตเนส เฟิร์ส ชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้ใช้พื้นที่หรืออุปกรณ์ของทางยิม และได้มีการติดต่อไปยังผู้เข้าใช้บริการยิมที่ได้รับการระบุว่าอยู่ในระยะสัมผัสแล้ว ซึ่งทางยิมได้ทำความสะอาดโดยละเอียด และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเวลาต่อมา

มีการจัดตั้งคลินิกตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 2 แห่ง ในพื้นที่ทางตะวันออกของนครซิดนีย์ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กำลังจะตากลมก่อนการติดเชื้อในย่านพอตส์พอยต์ (Potts Point) โดยเมื่อวานนี้ มีการเปิดคลินิกตรวจหาเชื้อแห่งใหม่ ในย่านเซอรี ฮิลล์ (Surrey Hills) ส่วนในช่วงเที่ยงของวันนี้ จะมีการเปิดคลินิกเพิ่มใน Rushcutters Bay Park ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับย่านพอตส์พอยต์​

มีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อจากร้านอาหารไทยร็อก 2 ราย ได้เดินทางไปยังสโมสรเรือยอร์ชออสเตรเลีย (Cruising Yacht Club of Australia)  ซึ่งอยู่ในย่านรัชคัทเตอส์ เบย์​ (Rushcutters Bay) ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง ในวันที่ 23, 24 และ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยพนักงานในสโมสรกำลังจะได้รับการตรวจหาเชื้อ
The Cruising Yacht Club Australia in Rushcutters Bay, Sydney.
The Cruising Yacht Club Australia in Rushcutters Bay, Sydney. Source: CYCA
นอกจากนี้ ยังพบร้านอาหารหลายแห่งในพื้นที่ทางตะวันออกของนครซิดนีย์ได้ทยอยปิดให้บริการไปก่อนเพื่อเป็นการป้องกันเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ที่อาศัยหรือเดินทางไปยังย่านพอตส์พอยต์​ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หากมีอาการดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ 

ส่วนที่โรงเรียนประถมศึกษาบายานามี (Bayanami Public School) ในเมืองพารามัตตา (Parramatta) ยังคงปิดทำการเรียนการสอนในวันนี้ หลังหน่วยงานศึกษาธิการของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า มีนักเรียนรายหนึ่งมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก โดยหน่วยงานศึกษาธิการได้ระบุในแถลงการณ์ว่า นักเรียนทั้งหมดจะทำการเรียนการสอนผ่านระบบการศึกษาทางไกล จนกว่าการทำความสะอาดอย่างละเอียด และการติดตามเส้นทางการติดเชื้อจะแล้วเสร็จ

หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ขอความร่วมมือประชาชน และพนักงานของเมาทีส์ คลับ (Mounties Club) ในพื้นที่เมาท์ พริทชาร์ด (Mount Pritchard) ที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 23 – 25 ก.ค.ที่ผ่านมา และโรงแรมพริทชาร์ด (Pritchard Hotel) ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้กักตนเองอยู่ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน และไปตรวจหาเชื้อหากมีอาการ โดยประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น หลังพบลูกค้าที่เข้าใช้บริการขณะกำลังอยู่ในระยะแพร่เชื้อ มีผลตรวจไวรัสโคโรนาเป็นบวก

“เช่นเดียวกับคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมาทีส์ คลับ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีขั้นตอนและความระมัดระวังในเรื่องของสุขอนามัยและความปลอดภัยในพื้นที่เพื่อลดความเสี่ยง” โฆษกหญิงของเมาทีส์ คลับ ระบุในแถลงการณ์ เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.)

นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาวิกฤตในการจัดการการแพร่ระบาดล่าสุด และการระบาดที่เกิดขึ้นใหม่ ขณะที่ในทุกพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นยังคงตื่นตัว

“มันมีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และมีหลายอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หากพบผู้ติดเชื้อเพียง 1-2 ราย ก็เพียงพอที่จะสร้างผลกระทบอย่างต่อเนื่อง” นางเบเรจิกเลียนกล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์ไนน์ เน็ตเวิร์ก เมื่อวานนี้

“เมื่อคุณคำนึงถึงสิ่งที่คุณ หรือเพื่อนของคุณได้ทำในช่วง 14 วันที่ผ่านมา รวมถึงทุกที่ ๆ คุณเคยไป นั่นคือสิ่งที่ชุดสืบสวนด้านสุขภาพของเราทำเช่นกัน”

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ยืนยันเมื่อวานนี้อีกว่า มีผู้โดยสารที่มีผลตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก ในเที่ยวบินของสายการบินเจ็ตสตาร์ เที่ยวบินที่ JQ506 เส้นทางเมลเบิร์น – ซิดนีย์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา และเที่ยวบินของสายการบินการูดา แอร์เวย์ส​ (Garuda Airways) เที่ยวบินที่ GA712 เส้นทางจาร์กาตา – ซิดนีย์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา


ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์นต้องปฏิบัติตามคำสั่ง “ให้อยู่บ้าน” และสามารถออกจากเคหสถานได้เฉพาะเมื่อออกไปทำงานหรือไปเรียน ไปออกกำลังกาย ไปทำหน้าที่ให้การดูแล และไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ยังมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วย

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ ที่นี่

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ ที่นี่

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้ ที่นี่

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai

Share

Published

Updated

Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand