ผู้หญิง สำเนียงภาษาอังกฤษ อะไรคืออุปสรรคในการหางาน?

งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นถึง "ความเสียเปรียบสองเด้ง" ที่ผู้หญิงที่มีสำเนียงต่างชาติต้องเผชิญในสถานที่ทำงาน

A graphic showing two women in the workplace.

การสำรวจล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) ได้สำรวจผลกระทบของสำเนียงภาษาอังกฤษต่อการรับรู้การจ้างงาน Source: SBS


ฟังพอดคาสต์ในเรื่องอื่นๆ ของเราได้ที่นี่:  https://podfollow.com/sbs-thai

มาเรีย (นามสมมติ) เริ่มทำงานในภาคการเงินหลังย้ายมาออสเตรเลียเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว

เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากรัสเซีย และศึกษาต่อระดับปริญญาโทในออสเตรเลีย ปัจจุบันเธอทำงานภายใต้สัญญาจ้างชั่วคราวและกำลังศึกษาเพิ่มเติม เธอกล่าวกับเอสบีเอสนิวส์ว่า

"ฉันสบายใจกับการทำงานเบื้องหลัง (back-office) แต่ฉันต้องการเลื่อนตำแหน่งไปสู่งานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าโดยตรงมากขึ้น"

"แต่ฉันพบว่ามันเป็นเรื่องท้าทายมากสำหรับผู้ย้ายถิ่น"

อุปสรรคบางอย่างที่เธอเผชิญรวมถึงข้อจำกัดด้านภาษาและการใช้ศัพท์เฉพาะทาง นอกจากนี้ เธอมักถูกตั้งคำถาม เช่น ทำงานในสายงานนี้มานานแค่ไหนแล้ว

"บ่อยครั้ง ฉันพบว่าหลายๆ คนให้ความสนใจในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น สิ่งที่เป็นเรื่องท้าทายมากอย่างหนึ่งคือ การหางานทำ"

เราต้องพยายามเป็นสองเท่า

มาเรียตั้งข้อสงสัยว่าสำเนียงของเธออาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อเส้นทางอาชีพ ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความมั่นใจและประสบการณ์

"เราต้องใช้ความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อให้ก้าวหน้าได้เท่าเทียมกับคนอื่น เราต้องทำงานหนักกว่าเดิม"

งานวิจัยล่าสุดระบุว่าผู้หญิงที่มีสำเนียงต่างชาติถูกมองว่ามีโอกาสได้งานน้อยกว่าผู้ชายและผู้ที่ไม่มีสำเนียงต่างชาติ

เมื่อวันอังคารที่ 10 มี.ค. มีการเปิดเผยถึงผลการวิจัยล่าสุดโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) ชี้ให้เห็นถึง "ความเสียเปรียบสองเด้ง" ที่ผู้หญิงบางกลุ่มต้องเผชิญในที่ทำงาน

ดร.เซเนีย กเนฟเชวา หัวหน้าทีมวิจัยและอาจารย์อาวุโสด้านภาษาศาสตร์ กล่าวกับเอสบีเอสนิวส์ว่า

เราพบว่าสำเนียงภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีบทบาทในการหางาน แต่สำหรับผู้หญิงยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
ดร.เซเนีย กเนฟเชวา จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU)
"เพราะสำหรับผู้ชายที่เข้าร่วมการศึกษาของเรา สำเนียงภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีผลในการหางานเท่าไหร่นัก"

การทดลองด้านการรับรู้

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางภาษา โดยข้อมูลจาก สำมะโนประชากรปี 2021 ระบุว่าเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรใช้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

แม้การเลือกปฏิบัติจากภาษาไม่ได้ถูกพูดถึงมากเท่าการเลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติหรือศาสนา แต่งานวิจัยนี้ระบุว่าปรากฏการณ์นี้ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจนในการศึกษาบางชิ้น

ทีมวิจัยของ ANU มุ่งศึกษาประเด็นนี้ในบริบทของออสเตรเลีย โดยเน้นไปที่โอกาสในการจ้างงานและได้ทำ "การทดลองด้านการรับรู้" โดยใช้คลิปเสียงของผู้พูด 30 คนจาก 5 กลุ่ม ได้แก่
  • เจ้าของภาษาที่พูดภาษาอังกฤษจากกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่, กวางตุ้ง และเลบานอน
  • ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง โดยภาษาหลักเป็นภาษาจีนกลางหรือภาษารัสเซีย
คลิปเสียงถูกสุ่มนำเสนอแก่กลุ่มผู้ฟัง 153 คน ซึ่งให้คะแนนความเหมาะสมในการจ้างงานบน มาตราส่วน 5 ระดับ โดยมีตัวอย่างคำถามเช่น โอกาสที่ผู้พูดจะได้รับงานที่เหมาะสมกับงานในสำนักงาน และความเป็นไปได้ที่ผู้ฟังจะแนะนำให้นายจ้างว่าจ้างพวกเขา

ผลการสำรวจพบว่า 'ภูมิหลังทางภาษา' มีอิทธิพลต่อการรับรู้ความสามารถในการจ้างงานของผู้หญิง แต่ไม่ส่งผลต่อผู้ชาย

"ผู้ฟังมองว่าผู้ชายมีโอกาสได้รับการจ้างงานเท่าเทียมกัน ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากพื้นเพแบบใดก็ตาม แต่สำหรับผู้หญิง ปัจจัยนี้มีผล" ดร.เซเนีย กเนฟเชวา กล่าว

จากขอบเขตของการศึกษา พบว่า ผู้หญิงที่มีพื้นเพมาจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ได้รับคะแนนความเหมาะสมในการจ้างงานสูงสุด ขณะที่ผู้หญิงที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เช่น ผู้พูดภาษารัสเซีย ได้รับคะแนนต่ำสุด

อย่างไรก็ตาม การศึกษาไม่พบว่าภูมิหลังทางภาษาหนึ่งใดภาษาหนึ่งจะถูกมองว่ามีความสามารถในการจ้างงานมากหรือน้อยกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ผู้พูดภาษาจีนกลางและภาษารัสเซีย ได้รับคะแนนจากผู้ฟังที่เป็นผู้หญิงสูงกว่าจากผู้ฟังที่เป็นผู้ชาย

ความเสียเปรียบสองเด้ง

ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่พูดด้วยสำเนียงต่างชาติอาจเผชิญกับอคติทางสังคมมากกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยทางเพศและสำเนียงการพูด

ดร. กเนฟเชวา นักวิจัยที่ร่วมทำการศึกษานี้ เปิดเผยว่า "การวิจัยพบว่ามีปัจจัยด้านเพศที่ส่งผลให้เกิดความเสียเปรียบระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง อีกทั้งยังพบว่าผู้พูดที่มีสำเนียงต่างชาติได้รับการประเมินในเชิงลบมากกว่าผู้ที่ไม่มีสำเนียงต่างชาติ"

ดร. กเนฟเชวากล่าวเพิ่มเติมว่า

"เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งสองร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีสำเนียงต่างชาติ จะเห็นได้ว่าพวกเธอต้องเผชิญกับ ‘ความเสียเปรียบสองเด้ง’ ซึ่งสะท้อนถึงสถานะความเป็นชนกลุ่มน้อย และนำไปสู่การถูกประเมินในทางลบมากขึ้น"

การเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติยังคงเป็นปัญหาในสังคม

ดร. แอสทริด เพอร์รี หัวหน้าฝ่ายสตรี ความเท่าเทียม และความรุนแรงในครอบครัว (DFV) จากองค์กร Settlement Services International ซึ่งให้ความช่วยเหลือด้านการตั้งถิ่นฐานแก่ผู้ลี้ภัยและจัดหางานให้กับกลุ่มแรงงานอพยพ

เปิดเผยว่าการที่ผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกถูกมองว่าไม่เหมาะสมกับการจ้างงาน เป็นเรื่องที่น่าเศร้าแต่ไม่น่าแปลกใจ

เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงในภาคบริการมนุษย์ ผู้หญิงที่มีความสามารถ ขยันขันแข็ง พวกเขาเคยเป็นพยาบาล วิศวกร หรือครูในประเทศของตน ต้องเริ่มต้นใหม่หมดเมื่อมาถึงที่นี่
ดร. แอสทริด เพอร์รี จากองค์กร Settlement Services International
เธอยังระบุว่า ผู้หญิงเหล่านี้มักต้องทำงานที่มีค่าจ้างต่ำและไม่มั่นคง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ช่องว่างระหว่างผู้หญิงย้ายถิ่นกับผู้หญิงที่เกิดในออสเตรเลียกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ดร. เพอร์รี ชี้ว่างานวิจัยของ Settlement Services International (SSI) พบว่าแม้ผู้หญิงผู้ลี้ภัยและผู้ย้ายถิ่นจะมีทักษะ คุณวุฒิ และแรงจูงใจในการทำงาน แต่พวกเธอยังคงเสียเปรียบผู้หญิงกลุ่มอื่นในตลาดแรงงานของออสเตรเลีย

"การมีสำเนียงที่แตกต่างอาจทำให้เกิดอคติทางสังคม ส่งผลให้ผู้หญิงเหล่านี้ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ระบบการจ้างงานยังคงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในประเทศมากกว่าความเชี่ยวชาญระดับสากล" ดร. เพอร์รี กล่าว

งานวิจัยชี้โอกาสเกิดการเลือกปฏิบัติทางภาษาเป็นเรื่องจริง

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) ระบุว่าผลสำรวจของพวกเขาสนับสนุนแนวคิดที่ว่า "การเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของภาษาเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในออสเตรเลีย" ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อโอกาสการจ้างงานของผู้หญิงที่มีสำเนียงต่างชาติ

แม้ว่ากฎหมายจะห้ามการเลือกปฏิบัติตามอายุ ความพิการ เชื้อชาติ เพศ อัตลักษณ์ทางเพศ และรสนิยมทางเพศ ในด้านต่าง ๆ เช่น การศึกษาและการจ้างงาน

แต่ ดร. กเนฟเชวา ระบุว่ากฎหมายในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ รวมถึงออสเตรเลีย ยังไม่ครอบคลุมการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มีสำเนียงต่างชาติ

"เรื่องนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้" เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า สำเนียงอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือแทน (proxy) ในการเลือกปฏิบัติในรูปแบบอื่น ๆ

ความคิดเห็นของชุมชนไทย

เอสบีเอสไทยสำรวจความคิดเห็นในประเด็นนี้กับสมาชิกชุมชนไทยในออสเตรเลียพบว่าหลายๆ คนมีทัศนะในเรื่องนี้ที่ต่างออกไป

พวกเขามองว่าภาษาอังกฤษสำเนียงต่างชาติไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหางานในออสเตรเลียเสมอไป สิ่งที่สำคัญในการหางานหรือทำงานในด้านภาษาคือทักษะในการฟังและสื่อสารที่ชัดเจนและผู้อื่นสามารถเข้าใจได้

Air edited.jpg
สุธิตา ( แอร์ )แสนศิริพันธุ์ นักศึกษาปริญญาโทในนครซิดนีย์ Credit: Suppiled

สุธิดา (แอร์) แสนศิริพันธุ์ นักศึกษาปริญญาโทในนครซิดนีย์ เปิดเผยว่า

“สำเนียงภาษาอังกฤษ ไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่ากับการพูดและฟังภาษาอังกฤษให้คล่อง ส่วนตัวคิดว่ามันค่อนข้างยากที่จะเปลี่ยนสำเนียงภาษาอังกฤษสำเนียงของเราให้เหมือน native เพราะว่า เราไม่ได้คุ้นชินกับการออกเสียงแบบนั้นตั้งแต่เด็ก ตราบใดที่ฟังออก พูดตอบได้คล่อง เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสำเนียง“

อนันตญา (ว่าน) ฉัตรสีรุ้ง วิศวกรข้อมูล (Data Engineer) ในนครเมลเบิร์นก็มีความคิดเห็นคล้ายกัน เธอชี้ว่า

“รู้สึกว่าคนที่นี่ค่อนข้าง diverse มาก มีหลากหลายเชื้อชาติ เค้าน่าจะคุ้นชินกับความแตกต่างกันแล้ว อย่างคนในทีมก็มี อินเดีย ยุโรป ออสซี่ ไทย จะสำเนียงไหนก็ไม่ได้มีปัญหาถ้าออกเสียงคำถูก”

wan.jpeg
อนันตญา (ว่าน ) ฉัตรสีรุ้ง วิศวกรข้อมูล (Data Engineer) ในนครเมลเบิร์น Credit: Supplied
จินตนา นามวงค์ (จ๊ะเอ๋/ จิน) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด ในองค์กรด้านประกันภัยของออสเตรเลีย

ให้ความเห็นว่าสำเนียงไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหาและสมัครงานเสมอไปเพราะประเทศออสเตรเลียค่อนข้างให้ความสำคัญกับความเป็นเอกลักษณ์และยอมรับในความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ เชื้อชาติ หรือ ภาษา

“มองว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหางาน และ สมัครงานค่ะ เพราะ ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มี Diversity สูงมากๆ และเป็นประเทศแห่งการศึกษา มีคนจากหลากหลายประเทศเข้ามาท่องเที่ยว ทำงาน และ มาเรียน“

“ซึ่งคนที่นี่ส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้าใจ และคุ้นชิน กับสำเนียงที่แตกต่างของแต่ละประเทศ รวมถึงไทยเองทุกคนล้วนมีสำเนียงที่ Unique และเป็นเอกลักษณ์ หากเรามีการสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าใจ สำเนียงก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหางาน”

เรียกร้องให้มีการลดอคติในที่ทำงาน

นักวิจัยเสนอให้มีการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องสำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในทุกภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจ้างงาน

"การเลือกปฏิบัติมีบทบาทสำคัญต่อการจ้างงาน และบุคลากรในสายงาน HR หรือแม้แต่พนักงานทุกคนในองค์กร ควรได้รับการฝึกอบรมเพื่อลดอคติ เพื่อให้คนจากหลากภาษาและวัฒนธรรมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นักวิจัยกล่าว

รายงานนี้จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือกับ SBS Russian

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ เฟซบุ๊ก และ Instagram


Share

Published

Updated

By Lera Shvets, Emma Brancatisano
Presented by Chayada Powell
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand