พายุไซโคลนอัลเฟรดกำลังเคลื่อนตัวไปยังเมืองชายฝั่งของออสเตรเลียที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ในขณะนี้มีข้อมูลอัปเดตเหตุฉุกเฉินซึ่งคาดว่าพายุไซโคลนอัลเฟรดจะจะขึ้นฝั่งช่วงเย็นวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์โดยที่มีความเป็นไปได้ ว่าจะขึ้นฝั่งทีระหว่าง เมือง มารูคีดอร์และคูลานกัตตา (Maroochydore and Coolangatta) ในนคร บริสเบน รัฐ ควีนส์แลนด์
แม้ว่าในบางพื้นที่ในรัฐควีนส์แลนด์จะปรากฎภาพนักเซิร์ฟหลายคนกำลังสนุกกับคลื่นลูกใหญ่ แต่ในหลายพื้นที่เช่น เมืองโกลด์โคสต์ ชายฝั่งกลับเงียบเหงา เพราะมีการปิดชายหาด เพื่อเตรียมตัวรับมือกับพายุใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
รักษาการนายกเทศมนตรีเมืองโกลด์โคสต์ ดอนนา เกตส์ เรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อบังคับเมื่อเกิดภัยพิบัติ
"โปรดทราบว่าชายหาดทุกแห่งในโกลด์โคสต์ปิดให้บริการ เพราะสถานการณ์อันตราย ประชาชนควรอยู่ห่างจากชายหาด แต่เรายังมีไลฟ์การ์ดที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่และคุณควรทำตามคำแนะนำของพวกเขา"
พายุไซโคลนอัลเฟรดคาดว่าจะพัดไปยังชายฝั่งควีนส์แลนด์ในวันอังคาร (4 มีนาคม) ก่อนที่จะขึ้นฝั่งระหว่าง เมือง คการี และโกลด์โคสต์ในสัปดาห์หน้า
นี่เป็นพายุไซโคลนลูกแรกที่โจมตีพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ นับตั้งแต่พายุไซโคลนโซอี ในปี 1974
อ่านเพิ่มเติม

ควรเตรียมการรับมือกับพายุและน้ำท่วมอย่างไร
มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณฝน 800 มิลลิเมตร เฉพาะในเมืองโกลด์โคสต์ ทำให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่บางส่วนจึงเลือกที่จะอพยพออกจากพื้นที่จนกว่าพายุจะพัดผ่านไป
พายุ อัลเฟรดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น และพัฒนาจากพายุประเภทหนึ่งไปเป็นประเภทสอง โดยคาดว่าจะนำมาซึ่งลมกรรโชกแรง ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และการเกิดการกัดเซาะชายฝั่ง

การประกาศเติมกระสอบทรายในพื้นที่เขตเทศบาลต่างๆ ในรัฐควีนส์แลนด์ Credit: Supplied/Chongchit Buchanan
"แม้ว่าพายุอัลเฟรดจะอยู่นอกชายฝั่งระยะไกลในช่วงวันอังคาร แต่จะมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกทั่วทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีคลื่นขนาดใหญ่และอาจเป็นอันตรายได้ทั่วแนวชายฝั่งนี้ เรายังอาจเห็นฝนตกเล็กน้อยพัดเข้าสู่ส่วนอื่น ๆ ของรัฐควีนส์แลนด์ตะวันออก ซึ่งอาจไกลออกไปทางเหนือ ถึงเมืองแมคเคย์ หรือทาวน์สวิลล์ แต่ก็ไม่น่าจะไปไกลกว่านั้น"
ส่วนเจ้าหน้าที่ กรมอุตุนิยมวิทยา โจนาธาน ฮาว กล่าวว่าผลกระทบของพายุอาจมีความรุนแรง
"เราคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดจะน้ำท่วมระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยเฉพาะในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ รวมถึงควีนส์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้ด้วย รวมถึงแม่น้ำสายหลักหลายสาย โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมวลรวมจะเกิน 200-400 มิลลิเมตร และกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง นอกจากนั้น เรายังมีคลื่นที่ทรงพลัง ประกอบกับกระแสน้ำขึ้นสูง จะทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง
ในวันจันทร์ (3 มีนาคม) ที่ผ่านมา มีการเติมกระสอบทรายกว่า 74,000 ใบในวันจันทร์ ซึ่งมากกว่าช่วงน้ำท่วมปี 2565 ถึง 2 เท่า โดยมีเขตผลกระทบ อื่นๆ เช่น ภูมิภาค Northern Rivers ในรัฐนิวเซาท์เวลส์
มุขมนตรี คริส มินส์ เรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกในการกักตุนของ ในขณะที่เขาให้คำมั่นว่าจะกระจายข้อมูลข่าวสารแก่ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด
"ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตื่นตระหนกในการกักตุนสินค้า ซึ่งไม่อาจเหลือเผื่อแผ่แก่คนอื่นๆ ในชุมชน เรามีระบบการขนส่งที่ดีและมีการจัดการเหตุฉุกเฉินที่ดี "
หน่วยบริการฉุกเฉิน S-E-S ได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือน้ำท่วมและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพายุเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนในพื้นที่ดังกล่าว
มุขมนตรี คริส มินส์ ได้ส่งสารแก่ชุมชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบว่า
"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคือ: ดาวน์โหลดแอป hazards near me ฟังข้อมูลเตือนภัยและเหตุฉุกเฉินจาก SES และประการสุดท้ายคือ อย่าขับรถลุยน้ำท่วม มันเป็นเรื่องอันตรายมาก ซึ่งอาจทำให้ผู้โดยสารในรถเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะคนอื่นหรือเจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงภัย เข้าไปช่วยเหลือ"
คุณ จงจิตต์ บิวแคนแนน ผู้สื่อข่าวพิเศษของเอสบีเอสไทยประจำรัฐควีนส์แลนด์ ได้รายงานเสียงจากชุมชนไทยว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์พายุอัลเฟรดที่ใกล้เข้ามาทุกที และมีการเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง
คุณ พรรณปพร จรรยาวิสุทธิ์ศักดิ์ จากเมืองอีพสวิช (Ipswich) เล่าว่าครอบครัวของเธอเผชิญเหตุการณ์ พายุน้ำท่วม มาแล้ว
"เมื่อ 3 ปีที่แล้วใกล้บ้านจะมีน้ําท่วม ท่วมหลายวันเลย มีคนไทยอยู่ในนั้นประมาณ 2 หลังคาเรือน จนกระทั่งเค้าต้องออกจากตรงนั้น ถ้าบ้านมีประกัน ประกันก็ช่วยเหลือในการไปหาโรงแรมให้นอน ก็มีครอบครัวนึง ต้องไปนอนโรงแรมถึงหนึ่งปี พอกลับอีกมาทีนึง ตอนนี้บ้านนั้นเค้าก็เค้าก็ไม่ให้อยู่ต่อแล้ว รัฐบาลก็คือยกคืนไปเลย ไม่ให้คนอยู่แล้วเพราะว่าน้ํามันท่วมบ่อย"
คุณ จตุพล โคศิลา ประชาชนในซันไชน์โคสต์ เปิดเผยว่า
"หลายๆ คนทางนี้ก็มีการเริ่มซื้อสินค้าแล้วก็กักตุนสินค้า ข้าวของเครื่องใช้กัน การเตรียมรับมือก็ส่วนใหญ่ก็เตรียมกักตุนอาหารเอาไว้ ก็จะเป็นอาหารที่เก็บไว้ได้นานหนึ่งอาทิตย์ขึ้นไป มีการเริ่มยกของขึ้นที่สูง แล้วก็มีการเตรียมกระสอบทรายไว้บ้างเป็นบางส่วน"
คุณ วิภาณี เพ็งเนตร เจ้าหน้าที่ marketing specialist จากเมืองโกลด์โคสต์ แชร์ข้อมูลว่า
"ได้แชร์ข้อมูลที่สําคัญ เช่น เบอร์ติดต่อฉุกเฉินบวก 61และต่อด้วยเลข 4 9 ตัวนะคะ แชร์พื้นที่เสี่ยงและแชร์วิธีลงทะเบียน Gold Coast Alerts ในเพจส่วนตัวและเพจชุมชน
สำหรับการเตรียมพร้อมแนะนำให้ซื้ออาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำ ถ่ายไฟฉายรวมถึง ชาร์ตแบตเตอรีมือถือ และพาวเวอร์แบงก์ไว้ให้เต็ม"
หากคุณต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสามารถติดต่อ Beyond Blue ได้ที่หมายเลข 1300 22 4636 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Beyondblue.org.au หรือศูนย์ช่วยเหลือผู้คนจากหลากทางวัฒนธรรมและภาษา Embrace Multicultural Mental Health
ฟังสัมภาษณ์เรื่องนี้ที่นี่
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ เฟซบุ๊ก และ Instagram
เรื่องราวที่น่าสนใจ

แบ่งปันประสบการณ์ 4 หญิงไทย สาย STEMM ในแดนจิงโจ้