จะกินต่อหรือทิ้งดี? ฉลากอาหารไม่ชัด ทำครัวเรือนสูญเงินปีละหลายพันดอลลาร์

ชาวออสเตรเลียทิ้งอาหารหลายล้านตันต่อปี ทั้งที่อาหารจำนวนมากยังสามารถบริโภคได้ รายงานล่าสุดชี้ว่า “ฉลากวันหมดอายุ” ที่ไม่ชัดเจนอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเข้าใจผิดและทิ้งอาหารก่อนเวลาอันควร ส่งผลให้ครอบครัวออสเตรเลียต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยถึง 2,500 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปีจากอาหารที่ทิ้งไปอย่างไม่จำเป็น

A GFX of a can next to food

ผลการศึกษาฉบับใหม่ชี้ว่า ฉลากอาหารอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาขยะอาหารในออสเตรเลีย Source: SBS

งานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัย RMIT และองค์กร End Food Waste Australia ระบุว่า ฉลากวันหมดอายุที่ไม่ชัดเจนและใช้ไม่สม่ำเสมอ

เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการทิ้งอาหารในครัวเรือน โดยครอบครัวออสเตรเลียต้องสูญเงินเฉลี่ยปีละสูงถึง 2,500 ดอลลาร์จากของกินที่ยังปลอดภัยแต่ถูกทิ้งไป

ออสเตรเลียทิ้งอาหารราว 7.6 ล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่นั้นยังสามารถบริโภคได้ นักวิจัยจึงเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบฉลากอาหารในระดับชาติ

โดยเสนอให้มีการระบุวันที่ให้ชัดเจนขึ้น ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ และมีไอคอนเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ผู้บริโภครู้ว่าอาหารยังปลอดภัยหรือไม่ และควรเก็บรักษาอย่างไร
ศาสตราจารย์ลูคัส พาร์คเกอร์ จากมหาวิทยาลัย RMIT ระบุว่า ฉลากอาหารที่ออกแบบไม่ชัดเจนและบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีมาตรฐาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทิ้งอาหารจำนวนมาก

“เรากำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ ผู้คนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว” เขากล่าว “แต่บรรจุภัณฑ์ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะกินต่อได้หรือไม่

ผลที่ตามมาคือของเสียถึง 2 กิโลกรัมต่อครอบครัวต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ใช่แค่กระทบเงินในกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังกระทบเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมด้วย”

งานวิจัยแนะนำว่า เพียงเปลี่ยนวิธีนำเสนอข้อมูล เช่น แยกให้ชัดเจนระหว่างคำว่า “ควรบริโภคก่อน” (best before) กับ “หมดอายุ” (use by) ก็สามารถช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าอาหารยังสามารถรับประทานได้หรือไม่

ทำไมฉลากอาหารในปัจจุบันถึงไม่ชัดเจน

นักวิจัยพบว่า ปัญหาเกิดจากสองปัจจัยหลัก คือ คนออสเตรเลียจำนวนมากยังสับสนระหว่างคำว่า “ควรบริโภคก่อน...” (use by) กับ “ดีที่สุดก่อน...” (best before)

และยังพบว่าหลายคนหาตำแหน่งหรืออ่านข้อความเหล่านี้บนบรรจุภัณฑ์ได้ยาก ศาสตราจารย์ลูคัส พาร์คเกอร์อธิบายว่า

“คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ‘ควรบริโภคก่อน’ หมายถึงอาหารอาจไม่ปลอดภัยหากเลยวันนั้นไป”

“แต่ ‘ดีที่สุดก่อน...’ ยังคลุมเครือ หลายคนทิ้งอาหารทันทีที่เลยวันนั้น ทั้งที่ยังสามารถกินได้”

งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงความน่าหงุดหงิดจากการออกแบบฉลาก เช่น ตัวอักษรเล็กเกินไป การพิมพ์วันที่ไว้ในตำแหน่งอ่านยาก เช่น ขอบยับของกระป๋อง หรือมุมแสงตก

“เป็นการยากที่จะทำความเข้าใจฉลากว่าอาหารกินได้หรือไม่จนทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจพลาดได้ง่าย” พาร์คเกอร์กล่าว
แม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้มีการปรับปรุงฉลากวันหมดอายุให้ชัดเจนขึ้น แต่งานวิจัยพบว่า อุตสาหกรรมอาหารยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง

จากการจัดเวิร์กช็อปกับผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกอาหาร หลายฝ่ายแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุน ข้อกำหนดการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความยุ่งยากด้านเอกสาร

ทริสตัน บัตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ End Food Waste Australia (กลุ่มรณรงค์ลดขยะอาหารในออสเตรเลีย) ระบุว่า การลดขยะอาหารผ่านฉลากที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อาหารร่วมมือกัน

“การทำให้ฉลากวันหมดอายุชัดเจนและสม่ำเสมอ คือหนึ่งในวิธีลดขยะอาหารในครัวเรือนที่คุ้มค่าและทำได้ในวงกว้าง แต่จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีความร่วมมือจากทั้งอุตสาหกรรม” บัตต์กล่าว

“การเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวนี้สามารถช่วยป้องกันขยะอาหารได้เกือบหนึ่งล้านตันภายในปี 2030”

เขายังชี้ว่า ภาคค้าปลีกในสหราชอาณาจักรพิสูจน์แล้วว่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของอาหาร ถึงเวลาแล้วที่ออสเตรเลียควรทำเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ผู้ผลิตหลายรายยังกังวลว่า หากเปลี่ยนแปลงอาจต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นหรือเสียเปรียบในการแข่งขัน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความชัดเจนในแนวทางการดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลระบุว่า ข้อเสนอปรับปรุงกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

ปัญหาฉลากไม่ชัดยังไร้ทางออก

ศาสตราจารย์พาร์คเกอร์กล่าวว่า “ทุกฝ่ายต่างก็รอให้คนอื่นเริ่มก่อน”

“รัฐบาลอยากให้อุตสาหกรรมลงมือก่อน ขณะที่อุตสาหกรรมก็อยากได้แนวทางที่ชัดเจนจากรัฐบาล”

แม้จะยังไม่มีการลงมือจริง แต่พาร์คเกอร์ระบุว่า ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องในหลักการว่า ฉลากอาหารควรชัดเจนและเข้าใจง่ายกว่านี้

โครงการระดับชาติว่าด้วยการปรับปรุงฉลากวันหมดอายุและคำแนะนำการเก็บรักษาอาหาร (National Date Labelling and Storage Advice Project) กำลังเข้าสู่เฟสถัดไป

โดยจะรวมภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมมาร่วมกันทดลองและออกแบบฉลากใหม่ร่วมกัน เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และลดปริมาณขยะอาหารอย่างเป็นรูปธรรม

ฉลากควรเข้าใจง่าย ไม่ต้องอธิบาย

ทีมนักวิจัยระบุว่า การออกแบบฉลากให้เข้าใจง่ายสำคัญกว่าการรณรงค์ให้ความรู้เป็นครั้งคราว

“ฉลากที่ดีควรชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายเพิ่ม” ศาสตราจารย์พาร์คเกอร์กล่าว

“การให้ความรู้เป็นสิ่งดี แต่จะได้ผลก็ต่อเมื่อผู้คนจำได้ แต่การออกแบบคือสิ่งที่ผู้บริโภคเห็นทุกครั้งที่หยิบสินค้าขึ้นมา”

โครงการนี้ยังจะทดลองวิธีใหม่ ๆ เช่น การติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา (eye-tracking) เพื่อศึกษาว่าผู้บริโภคมีการโต้ตอบกับบรรจุภัณฑ์อย่างไรในสถานการณ์จริง

“เราไม่ได้ต้องการทำให้คนรู้สึกผิดที่ทิ้งอาหาร” พาร์คเกอร์กล่าว

“แต่เราต้องการให้เครื่องมือที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจอย่างมั่นใจ และช่วยรักษาอาหารดี ๆ ไม่ให้ลงถังขยะ”


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Julia Abbondanza
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand