เคล็ดลับปรับเมนูคริสต์มาสง่าย ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาล

ในช่วงที่ค่าครองชีพยังสูง หลายครอบครัวออสเตรเลียกำลังมองหาวิธี ลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร โดยไม่ทำลายบรรยากาศคริสต์มาส ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า แค่ สลับวัตถุดิบบางอย่าง ก็ช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าที่คิด

A pavlova on a table with a Christmas tree in the background. A person wearing a blue shirt is piling his plate with food in the foreground.

งานวิจัยชี้ว่า ผู้บริโภคชาวออสเตรเลียฉลาดและรอบคอบมากขึ้น ในการวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับมื้ออาหารวันคริสต์มาส และกำลังมองหา วิธีใหม่ ๆ ในการประหยัดเงิน Source: Getty / NedJelly

ใกล้ถึงคริสต์มาสแล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่เพิ่มแรงกดดันทางการเงินไม่น้อย

แม้ช่วงคริสต์มาสจะเป็นเวลาพักผ่อน ได้ใช้เวลากับคนที่รัก ท่ามกลางอากาศดี ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงที่ ค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องเป็นเจ้าภาพจัดมื้ออาหารคริสต์มาสให้ครอบครัว

ผลสำรวจชาวออสเตรเลีย 1,002 คน โดยบริษัท Pureprofile พบว่า ปีนี้แต่ละครัวเรือนจะใช้จ่ายกับอาหารช่วงเทศกาลโดยเฉลี่ย 506 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 406 ดอลลาร์ในปี 2024

ขณะเดียวกัน ชาวออสเตรเลียถึง 78% วางแผนจะปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ โดย 21% ตั้งใจเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่ประหยัดมากขึ้นในวันคริสต์มาส แล้วเราจะประหยัดค่าอาหารคริสต์มาสได้อย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำดังนี้

ของสด ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป

หลายคนมองว่าอาหารสดคือหัวใจของมื้ออาหารวันคริสต์มาส แต่ศาสตราจารย์ แกรี มอร์ติเมอร์ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมผู้บริโภค บอกว่า อาหารแช่แข็งก็มีคุณภาพไม่แพ้กัน และบางครั้งอาจดีกว่าด้วยซ้ำ

“อาหารแช่แข็งมักจะมีคุณภาพดีกว่า เพราะอย่างอาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง จะถูกแช่แข็งทันทีหลังจับได้” เขากล่าวกับเอสบีเอส นิวส์

“ตอนที่นำมาละลายน้ำแข็ง คุณภาพก็แทบไม่ต่างจากเพิ่งจับมาใหม่ ๆ”

นอกจากนี้ ยังมีข้อดีเรื่องราคาอย่างชัดเจน

“อาหารแช่แข็งมักจะ ถูกกว่าอาหารสด ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลหรือผักแช่แข็ง เมื่อเทียบกับของสด” ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์กล่าว

สำหรับใครที่อยากประหยัดงบในช่วงคริสต์มาส ลองเปิดใจเลือกวัตถุดิบแช่แข็ง ก็อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องลดคุณภาพของมื้อพิเศษ
Freshly cooked tiger prawns are piled up on an ice bed for sale.
แม้กุ้งสดจะดูน่าซื้อเป็นพิเศษในช่วงเทศกาล แต่ศาสตราจารย์แกรี มอร์ติเมอร์ ระบุว่า กุ้งแช่แข็งก็มีคุณภาพไม่แพ้กัน และยังราคาถูกกว่าด้วย Source: Getty / sfe-co2
จากคำกล่าวของ อีเดน แรดฟอร์ด โฆษกฝ่ายสื่อของเว็บไซต์เปรียบเทียบการเงิน Canstar Blue ยืนยันอีกเสียงว่า ชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นกำลัง หันมาเลือกอาหารแช่แข็ง เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาส

เธอบอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า

“มีคนถึง 14% ที่ซื้ออาหารล่วงหน้าก่อนถึงคริสต์มาส ตั้งแต่ก่อนเดือนธันวาคม แล้วนำไปแช่แข็งเก็บไว้ เพื่อใช้ภายหลัง”

“ผู้บริโภคเริ่มฉลาดขึ้นมาก ไม่ว่าจะเพราะอยากประหยัดหรือเพราะจำเป็น พวกเขารู้ดีว่าต้องรัดเข็มขัด”

เธอกล่าวเสริมว่า วิธีที่หลายคนใช้คือ

เปรียบเทียบราคาจาก หลายซูเปอร์มาร์เก็ตเลือก อาหารแช่แข็งแทนของสด เมื่อเป็นไปได้

เลือกของที่มี “ผลผลิตล้นตลาด”

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาหารสดบางชนิดอาจมีราคาสูงขึ้นในปีนี้ เพราะมีปริมาณน้อยลง

ศาสตราจารย์ แกรี มอร์ติเมอร์ อธิบายว่า

“อาหารสดหลายอย่าง เช่น อาหารทะเลสด และผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลสโตนฟรุต มักได้รับผลกระทบจากกลไกอุปสงค์ อุปทานอย่างมาก”

นั่นหมายความว่า หากของบางอย่างมีน้อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การเลือกวัตถุดิบที่ มีปริมาณมากในช่วงนั้น หรือเลือกทางเลือกอื่นที่ใกล้เคียงกัน อาจช่วยให้มื้อคริสต์มาสยังอร่อยได้ โดยไม่กระทบงบมากเกินไป

อย่ายึดติดกับเมนูเดิมๆ

ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์ยกตัวอย่าง มันฝรั่ง เป็นหนึ่งในอาหารที่กำลังขาดตลาดในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในขณะนี้ เนื่องจากผลกระทบจาก ภัยแล้ง

ขณะเดียวกัน อาหารยอดนิยมช่วงคริสต์มาสอย่าง กุ้งและลูกพีช ก็มีราคาขึ้นลงได้มาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างโรคพืช หรือสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในช่วงเพาะปลูก คำแนะนำของเขาคือ อย่ายึดติดกับเมนูเดิมมากเกินไป

“ความท้าทายคือการมองหาว่า ตอนนี้มีอาหารอะไรที่ผลผลิตออกมามาก ซึ่งราคาก็จะถูกลงตามไปด้วย” เขากล่าว

สำหรับคนที่อยากประหยัดงบในช่วงคริสต์มาส การยืดหยุ่นเมนู และเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลหรือปริมาณในตลาด อาจช่วยให้ทั้งประหยัดเงินและยังคงความอร่อยไว้ได้
A graph showing how food prices have changed this Christmas.
คริสต์มาสปีนี้ผู้บริโภคอาจได้เห็น ราคาสินค้าพื้นฐานถูกลงโดยรวม หลังองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค Choice พบว่า ราคาสินค้า 7 รายการหลักปรับลดลงจากไตรมาสก่อน Source: SBS
ข้อมูลจากองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค Choice พบว่า โดยภาพรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายของตะกร้าสินค้าพื้นฐาน 7 รายการ ได้แก่ แอปเปิล แครอท กล้วย สตรอว์เบอร์รี วีตบิกซ์ นม และอกไก่สด ปรับตัวลดลง ในซูเปอร์มาร์เก็ตหลักทั้ง 4 แห่ง ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

สินค้าที่ราคาลดลงมากที่สุดคือ สตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นไปตามคาด เพราะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล

ขณะที่ ราคานมปรับตัวสูงขึ้น ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 4 แห่ง เมื่อเปรียบเทียบรายร้าน พบว่า
  • Woolworths มีราคาตะกร้าสินค้าลดลงมากที่สุดถึง 16%
  • Aldi ลดลง 11%
  • Coles ลดลง 6%
  • และ IGA ลดลง 4%
ด้าน อีเดน แรดฟอร์ด จาก Canstar Blue ระบุว่า ชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้น ยอมปรับเปลี่ยนรายการซื้อของ เพื่อประหยัดเงิน

เธอเผยว่า มีเพียง 17% ที่บอกว่าจะซื้ออาหารคริสต์มาสแบบเดิมทุกปีโดยไม่ดูราคา

“ตัวเลขนี้สะท้อนว่า คนส่วนใหญ่เริ่มใส่ใจเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น และพยายามหาวิธีประหยัดในแบบของตัวเอง” เธอกล่าว

แรดฟอร์ดบอกว่า ผู้บริโภคจำนวนมาก ยอมเปลี่ยนบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเนื้อสัตว์ชนิดอื่น หรือซื้อในปริมาณที่น้อยลง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวม

“แค่ปรับนิดหน่อย ก็ช่วยประหยัดเงินได้แล้ว”

ซื้อยกล็อต แล้วแบ่งกัน

อีกหนึ่งวิธีประหยัดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือแนวคิดที่เรียกว่า “การช้อปร่วมกัน” (collaborative shopping)

ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์อธิบายว่า

“ครอบครัวใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อนหลายบ้านจะนัดกันซื้อของล็อตใหญ่ แล้วนำมาแบ่งกันใช้ระหว่างสองหรือสามครัวเรือน”

เขายกตัวอย่างว่า บางครอบครัว ซื้อซากสัตว์ครึ่งตัวในราคาประมาณ 600 ดอลลาร์ แล้วนำมาแบ่งกัน

ขณะที่บางกลุ่มไปซื้อผักผลไม้จากตลาดในราคา 400 ดอลลาร์แล้วแชร์กัน หรือซื้อ แฮมชิ้นใหญ่ราคา 80 ดอลลาร์จาก Costco แล้วนำมาแบ่งเป็นส่วน ๆ

วิธีนี้ช่วยลดต้นทุนต่อครัวเรือนได้มาก โดยไม่ต้องลดคุณภาพของอาหารในช่วงเทศกาล

พิจารณาเรื่องปริมาณก็ช่วยประหยัดได้

อีเดน แรดฟอร์ด ระบุว่า การคิดเรื่อง ขนาดและปริมาณอาหาร เป็นวิธีประหยัดที่หลายคนมองข้าม

ก่อนออกไปซื้อของ เธอแนะนำให้ลองถามตัวเองว่า จำเป็นต้องซื้อแฮมชิ้นใหญ่เต็มขนาดหรือไม่ หรือแค่ชิ้นเล็กกว่านั้นก็เพียงพอแล้ว

ในบางกรณี การซื้อของที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยอาจคุ้มกว่า หากสามารถนำของที่เหลือไปทำอาหารได้หลายมื้อ

คนซื้อโฮมแบรนด์มากขึ้น

ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์บอกว่า ยุคที่ผู้คนมองข้ามหรือดูแคลน แบรนด์ของซูเปอร์มาร์เก็ตเอง (home brand / private label) ได้ผ่านไปแล้ว

“ปัจจุบัน สินค้ากว่า หนึ่งในสามในซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นแบรนด์ของร้านเอง” เขากล่าว

“โดยทั่วไป ราคาจะถูกกว่าสินค้าแบรนด์ดัง และคุณภาพก็ เทียบเท่า หรือบางครั้งดีกว่าด้วยซ้ำ”

สำหรับคนที่อยากลดค่าใช้จ่ายช่วงคริสต์มาส การหันมาลองสินค้า home brand อาจเป็นตัวช่วยประหยัดที่ได้ผลกว่าที่คิด
ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์ระบุว่า ช่วงคริสต์มาสเป็นช่วงที่ความแตกต่างด้านคุณภาพของสินค้าเห็นได้ชัดเป็นพิเศษ

“เมื่อเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส เราจะเริ่มเห็นสินค้าคุณภาพดีขึ้นวางขายมากขึ้น เช่น Woolworths Select หรือ Coles Finest ถ้าเป็นมื้อพิเศษอย่างอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นวันคริสต์มาส ผมแนะนำให้มองหาสินค้ากลุ่มนี้” เขากล่าว

ด้านอีเดน แรดฟอร์ด บอกว่า ผู้บริโภคเริ่ม คิดวิเคราะห์มากขึ้นก่อนซื้อ

“ชาวออสเตรเลียจะไม่หยิบของตามราคาที่เห็นตรงหน้าอย่างเดียว แต่จะดู ราคาต่อหน่วย (unit pricing) และเปรียบเทียบว่าซื้อที่อื่นคุ้มกว่าหรือไม่”

เธอเสริมว่า หลายคนยังเลือก สินค้าแบรนด์ของซูเปอร์มาร์เก็ตเอง แทนแบรนด์ดัง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

เลือกซื้อของจากหลายๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต

องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค Choice ยังเปรียบเทียบราคาตะกร้าสินค้าสำหรับงานเลี้ยง เช่น มะกอกยัดไส้ ขนมขบเคี้ยว แครกเกอร์ เพรตเซล ชีส และผักผลไม้สดบางรายการ

ผลปรากฏว่า Aldi มีราคาถูกที่สุดสำหรับของจัดปาร์ตี้ โดยรวมอยู่ที่ 41 ดอลลาร์

ขณะที่ตะกร้าสินค้าพื้นฐานของ Aldi ก็ถูกที่สุดเช่นกัน อยู่ที่ 31.41 ดอลลาร์

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การไม่ยึดติดกับซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งเดียว และเลือกซื้อจากหลายร้านตามความคุ้มค่า อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสได้
A graph showing how much your Christmas shop could cost.
ค่าใช้จ่ายในการซื้อของสำหรับคริสต์มาสอาจ แตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใด โดยผลวิจัยขององค์กรคุ้มครองผู้บริโภค Choice พบว่า Aldi เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีราคาถูกที่สุดสำหรับการซื้อของจัดปาร์ตี้ Source: SBS
เมื่อรวมค่าใช้จ่ายของ ตะกร้าสินค้าสำหรับจัดงานเลี้ยง เข้ากับ ตะกร้าสินค้าพื้นฐาน โดยไม่คิดราคาพิเศษ พบว่า
  • Woolworths มีค่าใช้จ่ายรวม 98.98 ดอลลาร์
  •  Coles สูงกว่าเล็กน้อยที่ 100.04 ดอลลาร์
  • IGA แพงที่สุด อยู่ที่ 109.25 ดอลลาร์
  • Aldi มีราคาถูกที่สุดที่ 72.41 ดอลลาร์
ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์ระบุว่า Aldi ยังคงเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ราคาถูกที่สุดอย่างสม่ำเสมอ

แต่ด้วยจำนวนสินค้าที่มีให้เลือกน้อยกว่า ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากเลือกใช้วิธี แบ่งซื้อจากหลายซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้ได้ทั้งความคุ้มค่าและของครบตามต้องการ
ศาสตราจารย์มอร์ติเมอร์กล่าวว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดในพฤติกรรมผู้บริโภคช่วงหลังมานี้ คือผู้คน ยินดีซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง รวมถึงร้านอิสระ เพื่อประหยัดเงินและมีตัวเลือกมากขึ้น

“คุณอาจไปซื้อของพื้นฐานที่ Aldi ก่อน จากนั้นไปตลาดผักผลไม้เพื่อหาผลไม้และผักที่ราคาถูกที่สุด แล้วค่อยแวะซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่เพื่อซื้อของที่ต้องการเพิ่มเติมให้ครบสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นวันคริสต์มาส” เขากล่าว

แนวคิดคือ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับร้านเดียว การแบ่งซื้อให้เหมาะกับแต่ละร้าน อาจช่วยให้ได้ทั้งของครบ โต๊ะอาหารยังดูดี และค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

3 min read

Published

Updated

By Alexandra Koster

Presented by Chayada Powell

Source: SBS




Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand