คณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวได้ตรวจพบว่า Kmart ได้ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของออสเตรเลียด้วยการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (FRT) กับลูกค้า
ระหว่างเดือนมิถุนายน 2020 ถึงกรกฎาคม 2520 ซึ่งทาง Kmart ได้ใช้ FRT เพื่อบันทึกภาพใบหน้าของทุกคนที่เข้าไปในร้านค้าปลีก 28 แห่ง และทุกคนที่มาขอคืนสินค้าที่เคาน์เตอร์รับคืนสินค้า ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวระบุสิ่งที่ค้าปลีกรายนี้ทำว่าเป็น "ความพยายามในการระบุตัวบุคคลที่กระทำการฉ้อโกงการขอคืนสินค้า"
FRT คือรูปแบบหนึ่งของเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ที่บันทึกภาพใบหน้าดิจิทัลของบุคคลและแปลงเป็นแม่แบบไบโอเมตริกซ์ จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับแม่แบบเดิมสำหรับการระบุใบหน้า
คณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวได้ดำเนินการสอบสวน Kmart ตั้งแต่ปี 2022 และพบว่าบริษัทไม่ได้แจ้งให้ผู้ซื้อทราบหรือขอความยินยอมในการใช้ FRT
FRT ได้รับการคุ้มครองที่สูงกว่าภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองความเป็นส่วนตัว เนื่องจากเป็นการรวบรวม "ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" กฎหมายกำหนดให้การใช้ FRT เป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสม และต้องขอความยินยอมจากบุคคล
คณะกรรมการความเป็นส่วนตัวพบอะไรบ้าง?
คณะกรรมการกล่าวว่ายักษ์ใหญ่ค้าปลีกรายนี้ได้ทำการโต้แย้งว่าไม่มีจำเป็นต้องขอความยินยอม เนื่องจากมีข้อยกเว้นในพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัว ซึ่งบังคับใช้เมื่อองค์กรต่างๆ เชื่อว่าจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจัดการกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือการประพฤติมิชอบร้ายแรง
แต่ คาร์ลี ไคนด์ คณะกรรมการความเป็นส่วนตัว กล่าวว่า Kmart มีวิธีการที่ "รบกวนความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า" ในการจัดการกับการฉ้อโกงการขอคืนสินค้า
ไคนด์กล่าวว่า "ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่ละเอียดอ่อนของทุกคนที่เข้ามาในร้านค้าจะถูกเก็บรวบรวมโดยไม่เลือกด้วยระบบ FRT"
เธอยังสรุปว่าระบบ FRT ที่ใช้ป้องกันการฉ้อโกงนั้น "มีประโยชน์อย่างจำกัด" และขอบเขตการใช้งาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคคลหลายพันคนที่ไม่ถูกสงสัยว่ามีการฉ้อโกงการขอคืนสินค้า ซึ่งถือเป็น "การแทรกแซงความเป็นส่วนตัวอย่างไม่สมส่วน"
ไคนด์กล่าวว่าการประเมินนี้คำนึงถึงมูลค่าโดยประมาณของการขอส่งคืนสินค้าที่ฉ้อโกงและผลกำไรของผู้ค้าปลีก รวมถึง "ประสิทธิภาพที่จำกัด" ของระบบ FRT และขอบเขตของผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ
เธอกล่าวว่า "ฉันไม่คิดว่าผู้โต้แย้ง [Kmart] จะเชื่ออย่างสุดใจ มีเหตุมีผลว่าประโยชน์ของระบบ FRT นั้นจะแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงการคืนเงินมากกว่าที่มันจะมีผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล"
Kmart "ผิดหวัง" กับผลการสอบสวน
โฆษกของ Kmart กล่าวในแถลงการณ์ที่ส่งถึง SBS News ว่า "รู้สึกผิดหวัง" กับคำตัดสินดังกล่าวและกำลังพิจารณาทางเลือกในการอุทธรณ์
โฆษกของ Kmart กล่าวว่า " Kmart รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของคณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการทดลองใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (FRT) แบบจำกัด และกำลังพิจารณาทางเลือกในการอุทธรณ์คำตัดสิน"
เช่นเดียวกับผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ส่วนใหญ่ Kmart กำลังเผชิญกับเหตุการณ์การโจรกรรมในร้านค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งมักมาพร้อมกับพฤติกรรมต่อต้านสังคมหรือการใช้ความรุนแรงต่อพนักงานและลูกค้า
"เพื่อจัดการกับปัญหาการฉ้อโกงการขอเงินคืนที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในร้านค้าของเรา เราได้ทำการทดลอง FRT แบบจำกัด โดยเริ่มต้นในร้านค้าสาขาหนึ่งแห่ง และขยายไปยังอีก 27 สาขาที่มีอัตราการฉ้อโกงการขอเงินคืนสูง ระหว่างเดือนมิถุนายน 2020ถึงกรกฎาคม 2022" โฆษกของ Kmart กล่าว
"เราได้นำมาตรการควบคุมมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า รูปภาพจะถูกเก็บไว้เฉพาะในกรณีที่ตรงกับรูปภาพของบุคคลที่น่าสงสัยหรือทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการขอเงินคืน รูปภาพอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกลบออก และข้อมูลจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อการตลาดหรือวัตถุประสงค์อื่นใด"
โฆษกกล่าวว่า การทดลองยุติลงเมื่อคณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวเริ่มการสอบสวน
พวกเขากล่าวว่า "เหตุการณ์คุกคามที่เกี่ยวข้องกับการขอเงินคืน" เพิ่มขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 ถึงเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งพวกเขาเสริมว่า "เป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของพนักงานในแผนกคืนเงิน"
คดีของ Kmart แตกต่าง 'อย่างมาก' จากคำตัดสินของ Bunnings ก่อนหน้านี้
นี่เป็นครั้งที่สองที่คณะกรรมการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวได้ตัดสินคดีเกี่ยวกับ FRT และความเป็นส่วนตัวของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในออสเตรเลียเมื่อเร็วๆ นี้
ในเดือนตุลาคม 2024 Bunnings ถูกพบว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวจากการใช้ FRT ในร้านค้า 62
ศาลกำลังทบทวนและพิจารณาคำตัดสินของหน่วยงานกำกับดูแล
ไคนด์กล่าวว่าแม้ว่าทั้งสองจะได้ข้อสรุปที่คล้ายคลึงกันกับคำตัดสินของ Bunnings แต่คดีทั้งสองก็ "มีความแตกต่างกันอย่างมาก"
เธอกล่าวว่า "คำตัดสินทั้งสองฉบับนี้ไม่ได้ห้ามการใช้ FRT"
"ความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน รวมถึงการป้องกันและตรวจจับการฉ้อโกง เป็นเหตุผลที่ธุรกิจควรคำนึงถึงเมื่อพิจารณาการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม เหตุผลเหล่านี้ไม่ได้เป็นการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวโดยตัวของมันเอง"
Kmart ถูกสอบสวนโดย สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารออสเตรเลีย (OAIC) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทหยุดใช้ระบบ FRT โดย Kmart ได้ให้ความร่วมมือกับ OAIC ตลอดการสอบสวน