ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวของทุกเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน เด็กไทยชาย–หญิงกลุ่มหนึ่งวิ่งไล่ลูกบอลรูปไข่สีแดงบนสนามในกรุงเทพฯ บางคนเตะ บางคนรับ บางคนวิ่งพร้อมเสียงหัวเราะปนกับเสียงโค้ชที่สลับตะโกนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
นี่คือการซ้อมฟุตบอลออสเตรเลีย (Australian Football League: AFL หรือเรียกย่อๆ ว่า ฟุตตี้) เกมที่กำลังหยั่งรากไกลจากบ้านเกิดและกลายเป็นทั้งโอกาสและอนาคตที่มากไปกว่าการเล่นกีฬา
เกือบ 30 ปีก่อนสโมสร Thailand Tigers เริ่มต้นจากกลุ่มชาวออสเตรเลียไม่กี่คนที่รวมตัวกันเตะบอลในสวนลุมพินีเพื่อความสนุก ไม่มีใครคาดคิดว่าสโมสรเล็ก ๆ นี้จะอยู่รอดและเติบโตมาถึงวันนี้
“มันเริ่มจากกลุ่มชาวออสซีกลุ่มเล็ก ๆ ที่มารวมตัวเล่นฟุตตี้ (Footy) ” เจค แมคอินทอช ประธานสโมสรเล่า “แต่พอเวลาผ่านไปเกือบ 3 ทศวรรษมันกลายเป็นชุมชนย่อมๆ ”
สองทศวรรษแรก Thailand Tigers เป็นพื้นที่ของชาวต่างชาติเป็นหลัก กระทั่งมีการก่อตั้งทีมหญิง และในปี 2017 ได้เปิดตัวโครงการ CUBS ร่วมกับมูลนิธิดวงประทีปในคลองเตย จุดเปลี่ยนที่ทำให้ฟุตตี้ไทยเริ่มหยั่งรากลึกในสังคม

โครงการ CUBS เป็นโครงการที่สโมสร Thailand Tigers ทำงานร่วมกับมูลนิธิดวงประทีปในคลองเตย Credit: Supplied/Thailand Tigers
CUBS: โครงการฟุตตี้เปลี่ยนอนาคต
โครงการ CUBS (Communities United by Sport) มอบทุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ ในคลองเตยราว 18 คนต่อปี สนับสนุนให้พวกเขาเรียนต่อ และได้ลองเล่นกีฬาใหม่ที่ไม่มีใครคุ้นเคยมาก่อน ตุ๊ดตู่ ผู้ประสานงานโครงการและกัปตันทีมหญิง Serpents เล่าให้เอสบีเอสไทยฟังว่าแรงบันดาลใจคือการที่ได้มาทำงานตรงนี้มันเหมือนเป็นการช่วยชุมชนและสังคม
“เราเลี้ยงลูกตัวเองให้เป็นคนดีของสังคมได้แล้ว ก็อยากเลี้ยงลูกของสังคมให้เป็นคนดีเหมือนกัน” นอกเหนือจากความผูกพันที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับเด็กวัยรุ่นที่ขาดโอกาสเหล่านี้ ตุ๊ดตู่บอกว่าเธอดีใจที่อยากน้อยก็เป็นที่พึ่งที่ปรึกษาให้พวกเขาได้
“บางอย่างในสังคมคลองเตยมันเหลือเชื่อ เรามาทำตรงนี้เราได้มีโอกาสใกล้ชิดและช่วยเหลือเขา อย่างน้อยเขาก็ได้มีที่ปรึกษาเรื่องต่างๆ ที่ไม่รู้หันหน้าไปหาใคร”
ส่วน เจคเสริมว่า
“โครงการนี้แรกเริ่มอยากช่วยให้เยาวชนได้เรียนต่อจนจบชั้นอุดมศึกษาโดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลาง แต่โครงการนี้ประสบความสำเร็จมากกว่านั้นคือหลังเรียนจบเด็กในโครงการมีงานทำแล้วก็ยังกลับมาเล่นฟุตตี้”

โครงการ CUBS มอบทุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ ในชุมชนคลองเตยราว 18 คนต่อปี Credit: Supplied/Thailand Tigers
Serpents: ทีมชาติไทยถือกำเนิด
ความสำเร็จของ CUBS ปูทางไปสู่การสร้างทีมชาติ Serpents ทั้งชายและหญิง ซึ่งได้ลงแข่งขัน AFL Asia Cup ที่เวียดนามเป็นครั้งแรก
“ทีมชายของเราอายุน้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์” เจคเล่า “หลายคนไม่เคยออกนอกประเทศมาก่อน และนี่คือพาสปอร์ตเล่มแรกในชีวิตของพวกเขา”
แม้จะเสียเปรียบด้านร่างกาย แต่ทีมชาย Serpents ได้ใจผู้ชมจากความกล้าหาญ ส่วนทีมหญิงกลับสร้างปรากฏการณ์ใหญ่ คว้าแชมป์เอเชียคัพได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงแข่ง
เสียงจากนักกีฬา
เบนซ์ เด็กสาววัย 17 ปี คือหนึ่งในผลผลิตของ CUBS ก่อนก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติSerpents เธอเล่าด้วยรอยยิ้มว่า
“ตอนแรกไม่รู้จัก AFL เลย บอลมันเป็นรูปวงรี เตะยากมาก แล้วยิ่งทําให้อยู่ในทีมชาติไทยคือทีมไทยแลนด์ Serpents หนูยิ่งภูมิใจมากๆเพราะว่าเป็นทีมชาติคนไทยล้วนรุ่นแรกพวกเรามีอายุต่างกันมากเลยค่ะ”
กีฬา AFL ทําให้หนูมีประสบการณ์ชีวิตทางกีฬาที่ดีมากๆ ทําให้มีความอดทน เป็นคนมีไหวพริบมากขึ้น ได้เรียนรู้จากการร่วมทีมกับเพื่อนๆพี่ๆ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติเบนซ์ กล่าว
อีกหนึ่งผู้เล่นที่โดดเด่นในทีมชาติหญิงคือ “ดี” อดีตนักเตะฟุตบอลทีมชาติหญิงไทย ที่ตัดสินใจลองเล่นฟุตตี้ตามคำชวนของเพื่อน ด้วยพื้นฐานจากฟุตบอล เธอพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกำลังหลักของทีม และที่เวียดนาม เธอคว้ารางวัล All-Asia Player
“ก็ดีใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะได้รางวัลนี้ แต่มันเป็นเพราะทุกคนในทีมด้วยค่ะ” ดีเล่าด้วยความถ่อมตน
ส่วนแมนนี่ วัย 19 ปี กัปตันทีมชาย ไม่ได้มีบทบาทเพียงนักกีฬา เขายังทำหน้าที่โค้ชและล่ามให้กับเด็กจากโครงการ CUBS
“ผมรักกีฬานี้ และภูมิใจในสิ่งที่ทำ ผมไม่ใช่โค้ชที่เก่งกว่าใคร แต่ผมพร้อมจะเป็นเพื่อนและพัฒนาไปพร้อมกับพวกเขา ถ้ามีโอกาสได้ไปเล่นในออสเตรเลียก็ดีครับ จะได้กลับมาพัฒนาฟุตตี้ที่นี่”

เบนซ์หนึ่งในผลผลิตของโครงการ CUBS ก่อนก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ Serpents Credit: Apinya Rittipo/Apinya Rittipo
เรื่องเล่าจากเสื้อเกอร์นซีย์
สำหรับ Pez โค้ชของทีมหญิง Serpents จากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เล่าว่าการโค้ชทีมก็มีความท้าทาย โดยเฉพาะเรื่องภาษา แต่เขาเลือกมองว่าเป็นโอกาส
“ในที่สุด มันก็ทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนภาษาอังกฤษไปด้วย” เขากล่าวพร้อมหัวเราะ
และสิ่งที่เขาจำได้แม่นเกิดขึ้นก่อนนัดชิงเอเชียคัพ
“ผมเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถือเสื้อเกอร์นซีย์ (guernsey- เสื้อแข่งใน AFL) แข่งที่ซักสะอาดแขวนไว้บนไม้แขวนเสื้อ ไม่ยอมให้แตะพื้นเลย ผมรู้สึกดีใจที่พวกเขารู้สึกเคารพต่อเสื้อซึ่งเป็นสิ่งล้ำลึกของกีฬาชนิดนี้มันแสดงให้เห็นว่านี่จะเป็นวันของเรา และเป็นห้วงเวลาที่ผมรู้สึกภูมิใจในฐานะโค้ช”
ด้าน มาร์ค ซอนเดอร์ส ผู้จัดการทีม Tigers และ Serpents ต้องรับมือกับการประสานงานทุกอย่าง ตั้งแต่ตารางซ้อม การเดินทาง ไปจนถึงทุนสนับสนุน
“บางทีสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การหาคู่แข่ง แต่คือการหาทรัพยากรให้ทีมเดินต่อ” เขาเล่า
แต่สิ่งที่ทำให้เขายังอยู่ตรงนี้ คือเป้าหมายที่ชัดเจน
สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่การสร้างนักกีฬาดาวเด่นแต่คือการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ในสังคมไทย เพื่อที่วันหนึ่งฟุตตี้ที่นี่จะยืนได้ด้วยตัวเองมาร์ค ซอนเดอร์ส กล่าว
มุมมองของ AFL ต่อทีมชาติฟุตตี้ไทย
การเติบโตของฟุตตี้ในไทยสะท้อนภาพรวมของกีฬาชนิดนี้ในเอเชีย โดยในปี 2024 มีผู้เข้าร่วมโครงการ AFL ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นถึง 42% และในปี 2025 จะมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 15,000 คน โดยประเทศไทยคือหนึ่งในประเทศที่โดดเด่นในสนามของเอเชีย
ไซมอน ไฮฟิลด์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระดับนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย (AFL) บอกกับเอสบีเอสไทยว่า
“ทีมชาติอย่าง Thailand Serpents มีบทบาทสำคัญ เพราะมันเปิดทางให้ผู้คนได้รู้จักกีฬาชนิดนี้ในหลากหลายรูปแบบ งานที่ สโมสร Thailand Tigers ทำในชุมชนนั้นควรได้รับการชื่นชม เราหวังว่าจะได้เห็นทั้งเด็กหญิงและเด็กชายในไทยเล่นกีฬานี้มากขึ้น”
เขาอธิบายว่าโครงการ CUBS คือโมเดลที่สะท้อนพลังของกีฬา

ไซมอน ไฮฟิลด์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระดับนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย (AFL) Credit: Supplied/ AFL Asia
CUBS ไม่เพียงแค่ทำให้ฟุตบอลออสเตรเลียเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทยแต่มันยังเปิดโอกาสด้านการศึกษา การจ้างงาน และการเดินทางไปแข่งขันในเวทีนานาชาติไซมอน ไฮฟิลด์ กล่าว
และชัยชนะของทีมหญิง Serpents ในเอเชียคัพ (Asia Cups) ปี 2024 ก็สร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล คุณ ไฮฟิลด์ ระบุว่า
“ชัยชนะในปีนั้นทำให้มีผู้หญิงไทยเข้ามาเล่นมากขึ้น จนในการแข่งขัน Asian Championships เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทีมไทยสามารถส่งทีมหญิงได้ถึงสองทีม เป็นประเทศแรกที่สร้างประวัติศาสตร์เช่นนี้”
และเหนือสิ่งอื่นใด AFL มองว่านี่คือรูปแบบหนึ่งของ sports diplomacy ที่ฟุตบอลออสเตรเลียไม่ได้เป็นเพียงกีฬา แต่ยังทำหน้าที่เป็น การทูตกีฬา หรือการสร้างสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและออสเตรเลียด้วย
“ฟุตบอลออสเตรเลียเป็นกีฬาสำหรับทุกคน และในทุกย่างก้าวของ AFL บนเวทีโลก หัวใจของมันคือ การทูตกีฬา ที่ใช้เกมนี้เชื่อมผู้คนและวัฒนธรรมเข้าหากัน” ไซมอน ไฮฟิลด์ กล่าว

AFL มองว่าฟุตบอลออสเตรเลียไม่ได้เป็นเพียงกีฬา แต่ยังทำหน้าที่เป็น การทูตกีฬาระหว่างไทยและออสเตรเลีย Credit: Supplied/AFL Asia
ไฮไลต์ประจำปี Grand Final
ทุกปี Thailand Tigers ยังจัดงาน AFL Grand Final ร่วมกับหอการค้าออสเตรเลีย–ไทย เชื่อมสองวัฒนธรรมผ่านเสียงเชียร์ในวันที่สำคัญที่สุดแห่งปีของเกมกีฬาออสซีรูส์ เจค แมคอินทอช บอกว่า
“ในวัน Grand Final เราจะเริ่มตั้งแต่เช้า เรามีอาหารเช้า อาหารกลางวัน เต็มไปด้วยอาหารที่ชาวออสเตรเลียชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังปิ้งทาเวจจีไมต์ พายเนื้อ บาร์บีคิว ไส้กรอก (Sausage sizzle) ขนมเลมิงตัน และอื่นๆ” เป็นวันที่ชุมชนฟุตตี้ของไทยมารวมตัวและพบปะกัน
จากสนามซ้อมในกรุงเทพฯ สู่เวทีระดับเอเชีย เรื่องราวของ Tigers, CUBS และ Serpents ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างทีมกีฬาและเป็นสะพานเชื่อมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันแต่มันคือบทพิสูจน์ว่าจากกีฬาที่ถือกำเนิดจากแดนไกลสามารถเปิดโอกาสให้ชีวิตของเยาวชนจำนวนนับสิบ นับร้อย ได้สานต่อความฝันและอนาคตของพวกเขา