เมื่อความรักกลายเป็นกับดัก และ 'โทรศัพท์ลับ' คือทางรอด

Photo-A woman using a mobile phone-pexels-mart-production.jpg

“โทรศัพท์มักเป็นสิ่งแรกที่ถูกทำลายหรือยึดไปจากเหยื่อ การมีโทรศัพท์สำรองจึงสำคัญมาก" รักษาการสารวัตรแมคไบร์ดกล่าว Credit: Pexels/Mart Production

รัฐนิวเซาท์เวลส์ออกกฎหมายเพื่อเอาผิดกับพฤติกรรมควบคุมทางจิตใจ (coercive control) ซึ่งมักเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างคู่ครอง และมักมาคู่กับการล่วงละเมิดทางดิจิทัล ตำรวจระบุว่าโทรศัพท์สำรองที่ปลอดภัยอาจช่วยชีวิตเหยื่อได้


ลอเรนเป็นอาสาสมัครขององค์กรการกุศลในออสเตรเลีย องค์กรนี้แจกโทรศัพท์ฟรีให้กับผู้ประสบความรุนแรงในครอบครัว
และลอเรนทราบดีว่าการมี ‘โทรศัพท์ลับ’ สักเครื่องสำคัญเพียงใด

“ฉันเคยรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์นั้นมันไม่มีทางออก ถ้ามีโทรศัพท์อีกเครื่องที่เขาไม่รู้ คงทำให้ฉันกล้าติดต่อใครได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรู้”
 แม่ลูกสองจากซันไชน์ โคสต์ ต้องทนอยู่กับการถูกควบคุมจากอดีตสามีมานานถึง 15 ปี รวมถึงการเฝ้าตามดูพฤติกรรมและการข่มขู่ด้วย

“ฉันใช้ชีวิตแบบระแวดระวังตลอดเวลา อยู่ในสภาพตื่นกลัวไม่มีหยุด ฉันกลัวว่าถ้ายุติความสัมพันธ์ไป เขาจะทำอะไรกับฉันบ้าง”

สิ่งนี้ทำให้ลอเรนไม่เคยแจ้งความ เพราะเธอไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย

“ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่ามีหน่วยงานที่ช่วยเหลือคนแบบฉันได้ ฉันเคยเข้าใจว่าความรุนแรงในครอบครัวต้องเป็นเรื่องของการลงไม้ลงมือเท่านั้น”
Lauren volunteers at a Queensland charity (SBS-Sandra Fulloon).jpg
Lauren volunteers at a Queensland charity ลอเรนรอดจากความรุนแรงในครอบครัวได้ด้วย 'โทรศัพท์ลับ' Source: SBS / Sandra Fulloon
 สิ่งที่ลอเรนเผชิญคือ “การควบคุมทางจิตใจ (coercive control)” ซึ่งหมายถึงพฤติกรรมทำร้ายทั้งแบบใช้กำลังและไม่ใช้กำลัง เพื่อข่มขู่ ควบคุม หรือทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว

และโทรศัพท์มือถือมักกลายเป็นเครื่องมือที่คนกระทำผิดใช้ในการควบคุม

“ตอนเขาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ฉันและตั้งค่าให้ ฉันคิดว่าเขาแค่หวังดี แต่สุดท้ายก็พบว่าเขาแอบอ่านข้อความฉัน แม้แต่อีเมลก็ไม่เว้น”

พฤติกรรมนี้เรียกว่า "การล่วงละเมิดผ่านเทคโนโลยี" (Technology Facilitated Abuse หรือ TFA) และเป็นเรื่องที่หน่วยงานต่างๆ และกรมตำรวจให้ความสนใจ

รักษาการสารวัตร โจนาธาน แมคไบรด์ จากหน่วยดูแลเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวที่ซันไชน์ โคสต์อธิบายว่า

“มีแอปจำนวนมากที่ใช้ติดตามตัวเหยื่อได้ และคนกระทำผิดก็มักใช้สิ่งนี้เพื่อควบคุม เช่น ส่งข้อความกล่าวหาเหยื่อให้เพื่อนและครอบครัว ใส่ร้ายเหยื่อว่าเป็นคนไม่ดี แม้มันจะไม่เป็นความจริง แต่มันคือวิธีการควบคุมอีกแบบหนึ่ง”
Coercive Control
การควบคุมทางจิตใจเป็นพฤติกรรมทำร้ายในรูปแบบการข่มขู่ ควบคุม และทำให้หวาดกลัว Source: Getty / Getty Images
นี่คือเหตุผลที่ลอเรนตัดสินใจร่วมงานกับมูลนิธิ DV Safe Phone ในรัฐควีนส์แลนด์ โดยองค์กรนี้แจกโทรศัพท์ที่ผ่านการซ่อมแซมให้กับผู้ประสบความรุนแรง เพื่อให้พวกเขาได้ “เสรีภาพทางดิจิทัล”

“โทรศัพท์มักเป็นสิ่งแรกที่ถูกทำลายหรือยึดไปจากเหยื่อ การมีโทรศัพท์สำรองจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่ต้องติดต่อขอความช่วยเหลือ”

ตั้งแต่เริ่มโครงการ DV Safe Phone ได้แจกโทรศัพท์ไปแล้วเกือบ 9,000 เครื่องให้กับองค์กรช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงทั่วประเทศ แอชตัน วูด ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกล่าวว่า

“เราได้รับบริจาคโทรศัพท์มากกว่า 25,000 เครื่องจากประชาชนและบริษัททั่วออสเตรเลีย เราตรวจสอบและซ่อมแซมให้ใช้การได้ จากนั้นก็ส่งต่อให้เหยื่อ ส่วนเครื่องที่เสีย เรานำไปรีไซเคิล เราจัดหาสายชาร์จใหม่ทุกเครื่อง และใส่ซิมพร้อมเงินโทรออกให้ด้วยในบางกรณี”
Hands holding a mobile phone with a screen displaying an incoming call from an unknown number.
'โทรศัพท์ลับ' เป็นหนทางที่สามารถช่วยให้รอดจากความรุนแรงในครอบครัวได้ Source: Getty / Diy13
สารวัตรแมคไบรด์เน้นว่า โทรศัพท์สำรองสามารถช่วยชีวิตเหยื่อที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกได้จริง
มันอาจช่วยชีวิตคนได้เลยทีเดียว แค่มีโทรศัพท์ใช้งานได้ ฟังดูง่าย แต่ในสถานการณ์ที่เหยื่อถูกควบคุมการเงินโดยคนกระทำผิด เขาจะไม่มีทางไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ได้ง่าย ๆ แน่นอน
สารวัตรแทคไบรด์กล่าว
แต่ถึงจะมีโทรศัพท์แล้ว ควรซ่อนไว้ให้ปลอดภัย เพราะมันอาจถูกนำมาใช้เล่นงานเหยื่อได้ด้วย

“ซ่อนไว้ในลิ้นชักอาจไม่ปลอดภัยนัก เพราะอาจถูกค้นเจอได้ง่าย แถมยังสามารถติดตั้งแอปที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวได้ ถ้าโทรศัพท์ถูกพบแล้ว จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ดังนั้นต้องเก็บให้ห่างจากคนกระทำผิด”
กฎหมายควบคุมทางจิตใจของรัฐนิวเซาท์เวลส์ขณะนี้ใช้กับความสัมพันธ์แบบคู่รัก(ที่ยังไม่ได้แต่งงาน)ด้วย งานวิจัยพบว่าพฤติกรรมควบคุมมักเป็นจุดเริ่มของความรุนแรงที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น

คาเรน เบแวน ผู้บริหารของ FullStop Australia ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวและทางเพศกล่าวไว้ว่า

“จากคดีฆาตกรรมในครอบครัวช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า พฤติกรรมควบคุมและบีบบังคับเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยก่อนเกิดเหตุ การมีกฎหมายนี้จึงสำคัญมาก เพราะมันสอดคล้องกับสิ่งที่เรารู้ว่า ความรุนแรงมักเริ่มต้นอย่างไร และระบบกฎหมายควรมีคำตอบกับเรื่องนี้อย่างไร”


ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

ฟังพอดคาสต์ของเอสบีเอส ไทยผ่านแอปพลิเคชัน SBS Audio ดาวน์โหลดจาก Apple Store หรือจาก Google Play  

Share

Recommended for you

Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand