ใหม่ ฮิวจ์ส กับความฝันอยากพลิกโฉมกล่องข้าวกลางวันของเด็กๆ ในออสเตรเลีย

Mai 1.jpg

ใหม่ ฮิวจ์ส คุณแม่ลูกสามจากนครเพิร์ท รณรงค์ให้กล่องข้าวกลางวันของเด็กๆ ในออสเตรเลียมีโภชนาการมากขึ้น Credit: Supplied/ Mai Hughes

ใหม่ ฮิวจ์ส สงสัยว่าบ่อยครั้งในกล่องอาหารกลางวันของเด็กๆ ในออสเตรเลียดูเหมือนจะขาดโภชนาการที่ควรได้รับ และนี่อาจเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพของประชากรจำนวนมากในอนาคต จากความตั้งใจอยากพลิกโฉมกล่องข้าวกลางวันของเด็กๆ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งธุรกิจของเธออย่างไร


ใหม่ ฮิวจ์ส หญิงไทยคุณแม่ลูกสามจากนครเพิร์ท เธอเกิดและเติบโตในประเทศฝรั่งเศส ใหม่มาจากครอบครัวที่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยร้านแรกๆ ในนครปารีส

ด้วยภูมิหลังที่ผูกพันกับอาหารมาตั้งแต่เด็กผนวกกับการได้รับประสบการณ์การประทานอาหารกลางวันที่เต็มไปด้วยโภชนาการที่โรงอาหารในโรงเรียนทั้งที่ไทยและที่ฝรั่งเศส ทำให้เธอซึมซับว่าอาหารเป็นมากกว่าสิ่งที่ทำให้อิ่มท้อง และเข้าใจคำว่าโภชนาการสำคัญอย่างไร

เธอเล่าให้เอสบีเอสไทยฟังว่าแม้ฝรั่งเศสและไทยจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาก แต่มีแนวคิดเกี่ยวกับอาหารคล้ายคลึงกัน ตั้งแต่เด็กเธอถูกสอนว่าควรกินอะไร อย่างไร อะไรดีต่อสุขภาพ และอะไรที่ควรกินแต่พอประมาณ

"พ่อแม่ของฉันแทบไม่ออกไปกินข้าวนอกบ้านเลย แต่ทำเองทุกมื้อ ที่ฝรั่งเศสก็เหมือนกัน เด็ก ๆ จะได้ทานอาหารร่วมกันในโรงอาหารของโรงเรียน นั่งล้อมโต๊ะ และรับประทานอาหารแบบเป็นมื้อเต็มรูปแบบ 3-4 คอร์ส ทั้งสองวัฒนธรรมนอาหารไม่ใช่แค่เรื่องของการทำให้ร่างกายอิ่ม หรือเพียงแค่เติมพลังงานให้ร่างกายเท่านั้น แต่มันมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นมาก”

ใหม่เปิดเผยว่าตอนที่เธอย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลีย เธอรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าชาวออสเตรเลียรับประทานอาหารแปรรูปในปริมาณสูงมาก โดยเฉพาะเด็กๆ

“ฉันรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อพบว่า ในแง่ของโภชนาการ ออสเตรเลียกลับมีความคล้ายคลึงกับอเมริกามากกว่าที่ฉันคาดคิด และนั่นเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะออสเตรเลียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ มีภูมิภาคที่หลากหลาย และสามารถเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพดีได้มากมายแต่กลับรับอิทธิพลด้านโภชนาการจากอเมริกามากกว่าที่ควรจะเป็น”

kid lunch box.jpg
ตัวอย่างอาหารกลางวันที่เต็มไปด้วยโภชนาการประกอบไปด้วยอาหาร 5 หมู่ตามหลักของ Healthy Eating Pyramid Credit: Supplied/Mai Hughes/My Foodie Box

ปัญหาโภชนาการในออสเตรเลีย

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Australian Institute of Health and Welfare ชี้ว่า ปี 2022 จากข้อมูลของสำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ในการสำรวจสุขภาพแห่งชาติพบว่าเด็กและวัยรุ่นอายุ 2–17 ปี ประมาณ 1 ใน 4 คน (ร้อยละ 26 หรือราว 1.3 ล้านคน) ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปร้อยละ 66 มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน

ทำให้ปัญหาโภชนาการและสุขภาพเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ออสเตรเลียต้องมีการรณรงค์ในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและเด็กๆ

การเข้มงวดในเรื่องของกฎหมายฉลากส่วนประกอบของอาหาร หรือการที่รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องมีงบประมาณในการรณรงค์และแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ใหม่เปิดเผยว่าการให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

“สำหรับออสเตรเลียที่มีอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปขายอยู่ทั่วไป เพราะฉะนั้นการให้ความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ควรมีช่องทางสนับสนุนให้ผู้ปกครองที่อาจไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงความรู้ได้ง่ายขึ้น”

การรณรงค์เรื่องโภชนาการในเด็กสำคัญอย่างไร

ใหม่ให้ความเห็นว่าการการรณรงค์เรื่องโภชนาการต้องเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย โดยไม่เพียงต้องมีการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับสารอาหารและอาหารที่ถูกสุขลักษณะ

แต่การกำหนดเวลาพักและรับประทานอาหารกลางวันที่นานขึ้นที่โรงเรียนอาจจะช่วยแก้ปัญหาได้

"ไม่ว่าจะเป็นสถานเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียน ต่างมีบทบาทที่ช่วยส่งเสริมความรู้เรื่องโภชนาการที่ดีแก่เด็กเพื่อที่จะกลายเป็นนิสัยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์เมื่อตอนพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป"

“ช่วงพักกลางวันของนักเรียนในออสเตรเลียแตกต่างกันไป หลายโรงเรียนให้เวลาพักเพียง 30–45 นาที เพื่อทานข้าวและเวลาเล่น โรงเรียนบางแห่งก็ยกเลิกช่วงพักเบรกเช้าและบ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล"

"เมื่อเปรียบเทียบกับระบบของฝรั่งเศส นักเรียนจะมีเวลาพักกลางวัน 1–1.5 ชั่วโมง มันเป็นการเรียนรู้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสำคัญกับมารยาทบนโต๊ะอาหาร การเข้าสังคม และการรับประทานอาหารอย่างมีสติ ซึ่งช่วยให้ร่างกายเรียนรู้การย่อยและโภชนาการโดยธรรมชาติ”

หากออสเตรเลียสามารถปรับระบบให้มีช่วงพักกลางวันที่นานขึ้น โดยแยกเวลารับประทานอาหารและเวลาเล่นออกจากกัน อาจเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ปัญหานี้
ใหม่ ฮิวจ์ส ให้ความเห็น

wine-dharma-7ZU8XLk1yU4-unsplash.jpg
สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ทำการสำรวจด้านสุขภาพพบว่าเด็กและวัยรุ่นอายุ 2–17 ปี ประมาณ 1 ใน 4 คน (ร้อยละ 26 หรือราว 1.3 ล้านคน) มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน Credit: Wine Dharma/unsplash

หากผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาจะทำอย่างไร

ใหม่เปิดเผยว่าตัวเธอเองเป็นแม่ลูกสามซึ่งเข้าใจความท้าทายของผู้ปกครองที่ต่างต้องทำงานและในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงโภชนาการของครอบครัว

เธอให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดี หากโรงเรียน สถานศึกษาหรือรัฐบาลร่วมมือกันทำให้เกิดโครงการอาหารกลางวันอย่างเช่นในไทยที่มีโรงอาหารหรือในฝรั่งเศสที่โรงเรียนจะมีอาหารกลางวันเตรียมให้ (La cantine)

"ฉันอยากเห็นระบบที่คล้ายกับที่เรามีในฝรั่งเศสหรือในประเทศไทย ที่มีอาหารกลางวัน เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มีนักโภชนาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการคอยดูแลว่าอาหารนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอหรือไม่"

ต่อยอดไอเดียสู่ธุรกิจกล่องข้าวกลางวัน

จากความท้าทายดังกล่าว ใหม่จึงผุดไอเดีย ‘My Foodie Box’ ที่นำมาต่อยอดกับธุรกิจแบบ ready to cook ซึ่งพ่อแม่สามารถทำข้าวกลางวันให้ลูกได้ง่ายๆ แต่มีประโยชน์

โดยมีจุดประสงค์เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองและเป็นกระบอกเสียงที่ช่วยส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้กับเด็กทั่วประเทศออสเตรเลียผ่านธุรกิจกล่องข้าวกลางวัน

“พวกเราเริ่มต้นธุรกิจจากเพิร์ทในปี 2017 โดยจุดเด่นหลักของเราคือ meal kit ซึ่งเป็นชุดอาหารที่มีวัตถุดิบพร้อมสำหรับทำมื้อเย็น พอเวลาผ่านไป ฉันและทีมงานเกือบทั้งหมดก็ตั้งครรภ์ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และตอนนี้ลูก ๆ ของเราก็เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลกันแล้ว"

"พวกเราไม่อยากเจอปัญหาแบบเดียวกับที่พ่อแม่ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเตรียมข้าวกล่องให้ลูกไปโรงเรียน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามารวมตัวกัน ทุกคนก็เริ่มเสนอไอเดียขึ้นมา ทั้งเรื่องของเมนู ต้นทุนที่ไม่สูงเกินไป และวิธีทำที่รวดเร็วและสะดวกที่สุด เพื่อให้พ่อแม่สามารถเตรียมข้าวกล่องให้ลูกได้ง่ายขึ้น”

Untitled design (1).jpg
ใหม่ ฮิวจ์ส เจ้าของธุรกิจอาหารกลางวันชี้ปัญหาโภชนาการเป็นปัญหาระดับชาติและต้องได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน Credit: Supplied/Mai Hughes

ทำไมปัญหาโภชนาการเป็นประเด็นระดับชาติ

ใหม่ฝากข้อคิดไว้ว่าทำไมเราจึงต้องใส่ใจกับโภชนาการของเด็ก ที่ไม่เพียงแต่การเริ่มต้นจากที่บ้าน ที่ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องโภชนาการผ่านอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาระดับชาตินั้น ต้องได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน และภาครัฐ
สิ่งแรกที่เราควรตระหนักคืออาหารที่เด็กๆ รับประทานในวันนี้จะมีผลต่อพฤติกรรมการกินของพวกเขาเมื่อโตขึ้น
ใหม่ ฮิวจ์ส กล่าว

"เรื่องที่ 2 คือ ออสเตรเลียถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 53 ของโลกในด้านภาวะโรคอ้วนในเด็ก ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และหากพูดกันตามตรง ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องโภชนาการและการให้ความรู้ด้านอาหาร"

"ฉันเชื่อว่าถ้ามีโครงการที่ให้ความรู้แก่เด็ก ๆ เกี่ยวกับการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รู้จักประเภทของอาหาร เข้าใจโภชนาการ และตระหนักว่าทำไมสารอาหารเหล่านี้จึงสำคัญต่อร่างกาย มันจะช่วยให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีและสามารถตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีได้เมื่อโตขึ้น

แต่ประเด็นนี้ผู้ปกครองหรือโรงเรียนไม่สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้กำหนดนโยบายและรัฐบาล

"พ่อแม่มีบทบาทสำคัญมากในเรื่องนี้ แต่เราก็มีขีดจำกัด เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เราต้องการ ความช่วยเหลือจากโรงเรียน ต้องการ การสนับสนุนจากรัฐบาล ในการผลักดันโครงการแบบนี้ และที่สำคัญ เราทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”

หากคุณต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการจากรัฐบาลออสเตรเลียไปได้ที่ Department of Health and Aged Care


หรือคุณต้องการหาไอเดียการเตรียมอาหารกลางวันที่ถูกหลักโภชนาการสามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Nutrition Australia


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram


Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand