ที่อ่าวชาร์กเบย์ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองในฐานะมรดกโลกและตั้งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ทไปทางเหนือประมาณ 800 กิโลเมตร หญิงสาวชาวมัลกานา (Malgana) คนหนึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
อ่าวแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าทางธรรมชาติของโลก และเธอกำลังแบกรับความรับผิดชอบอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งส่งต่อจากบรรพบุรุษผู้ดูแลแผ่นดินนี้มาก่อน
เนลีชา โอ๊คลีย์ (Neilisha Oakley) หญิงสาวชาวมัลกานา ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลผืนดิน (Ranger) มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
สถานที่ทำงานของเธอคืออ่าวกาธากูดู (Gathaagudu) หรือที่รู้จักในชื่ออ่าวชาร์กเบย์ (Shark Bay)
พื้นที่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และถือเป็นสมบัติแห่งธรรมชาติระดับโลก
"ถ้าคุณมองไปรอบ ๆ ดูทิวทัศน์ สีสันต่าง ๆ ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือนกับอ่าวชาร์กเบย์" เนลีชาเล่า
งานของเธอรวมถึงการใช้กล้องในการติดตามสัตว์ป่าในพื้นที่
"เราทำงานกับทั้งสัตว์และพืชเลยค่ะ กำจัดสัตว์ต่างถิ่น ทำงานกล้องเก็บข้อมูลเยอะมาก โดยฉันได้มีส่วนร่วมในโปรแกรมฟื้นฟูระบบนิเวศที่เกาะเดิร์ก ฮาร์ตอก (Dirk Hartog Island) ด้วย ฉันยังได้ทำงานร่วมกับชุมชนทางทะเลที่เคนซิงตัน และนักวิทยาศาสตร์บางคนที่นั่นด้วย" เธอเล่า
แม้ผืนดินจะกว้างใหญ่ แต่งานที่เธอรักที่สุดคือ “ผู้คน”
"สิ่งที่ฉันชอบที่สุดในงานนี้คือการได้ทำงานร่วมกับคนหลากหลาย ได้เจอสัตว์ป่าหลายชนิด และได้พาเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยมาแผ่นดินของเราได้สัมผัสกับผืนดินนี้" เธอกล่าว
เนลีชายังเล่าเสริมอีกว่า เธอเริ่มทำงานในสายนี้เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผืนดิน และรับหน้าที่ที่ผู้อาวุโสส่งต่อมา
"ฉันสมัครงานนี้เพราะอยากอยู่กับผืนดินให้มากขึ้นค่ะ ฉันรู้สึกว่ามันดีต่อจิตวิญญาณ และฉันก็รู้สึกว่า ถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่อย่างเราต้องลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ผู้อาวุโสเคยทำไว้ ฉันคิดว่าผู้อาวุโสที่ล่วงลับไปแล้ว หรือบางท่านที่สูงอายุจนไม่สามารถมาที่ผืนดินได้อีก คงภูมิใจในตัวฉัน และลูกพี่ลูกน้องของฉันที่ทำงานอยู่ในสำนักงานเหมือนกัน เพราะสิ่งที่พวกเรา ‘ทำอยู่ตอนนี้’ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่พวกเขาทำ" เธอกล่าว
เธอยังเล่าด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงในการจัดการพื้นที่ช่วยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น
"เมื่อก่อนอาจไม่มีโอกาสแบบนี้มากนัก แต่ตอนนี้ได้เปิดโอกาสให้ชาวมัลกานาทุกคนสามารถแสดงความเห็น และมีส่วนร่วมในการดูแลผืนดินกับพวกเราได้" เธอกล่าว
นี่คือการรายงานของ Dan Rennie ผู้สื่อข่าวจาก NITV และ Sam Dover ผู้สื่อข่าวจาก SBS News