สารหนูปนเปื้อนจากเหมืองแร่หายาก: วิกฤตสายน้ำจากรัฐฉานถึงลุ่มน้ำโขง

Thaton River edited.jpg

แม่น้ำกกที่ไหลผ่านสะพานท่าเรือบ้านท่าตอน จ. เชียงใหม่ Credit: SBS Thai/Chayada Powell

วิกฤตสิ่งแวดล้อมชายแดนไทย–เมียนมา ที่แม่น้ำหลายสายตรวจพบการปนเปื้อนสารหนู ซึ่งเชื่อมโยงการทำเหมืองแร่หายากไร้การควบคุมในรัฐฉานตอนใต้ ล่าสุดลุกลามถึงแม่น้ำโขง นักสิ่งแวดล้อมเตือนอาจกระทบวิถีชีวิตผู้คนทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


มีรายงานว่ากำลังเกิดวิกฤตสิ่งแวดล้อมตามแนวชายแดนไทย–เมียนมา หลังตรวจพบสารหนูปริมาณสูงอันตรายในแม่น้ำสายสำคัญหลายสาย

ขณะนี้มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการขยายตัวของเหมืองแร่หายากที่ไม่ได้รับการควบคุมในรัฐฉานตอนใต้ของเมียนมา คือสาเหตุของปัญหา

และล่าสุด พบการปนเปื้อนลามเข้าสู่แม่น้ำโขง ด้านนักสิ่งแวดล้อมเตือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอาจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่หมู่บ้านท่าตอน พื้นที่ที่ห่างจากชายแดนไทย–เมียนมาเพียง 3 กิโลเมตร ชีวิตผู้คนที่นี่ผูกพันกับแม่น้ำกกมาตลอดหลายร้อยปี ทั้งเป็นแหล่งจับปลา น้ำเพื่อการเกษตร และเป็นสถานที่เล่นน้ำ คลายร้อนในหน้าร้อน

สำหรับ กบ โกเตคำ นี่คือแม่น้ำที่เขาผูกแพมาตลอดชีวิต โดยที่ผ่านมาเขาไม่เคยล้มป่วยเลย จนกระทั่งถึงตอนนี้
GOB KOTEKHAM .jpg
กบ โกเตคำ ชาวบ้านบ้านท่าตอนที่มีอาชีพทำแพ Credit: SBS

“ทุกปีเวลาผมลงไปทำแพ อาจจะมีผื่นขึ้นบ้าง แต่สักอาทิตย์หนึ่งก็จะหายไปเอง แต่คราวนี้ผื่นขึ้นเต็มไปหมด และยังลามต่อเนื่อง คันมาก แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนแรกผมนึกว่าแพ้อะไรสักอย่าง คนที่มาช่วยทำแพก็เริ่มป่วยเหมือนกัน เพื่อนคนหนึ่งเป็นแผลแล้วไม่ยอมหาย อีกคนลงน้ำแล้วมีไข้ หลังจากผ่านไปสองเดือนอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ผมเลยไปหาหมอครับ”

ถึงตอนนี้ แม่น้ำกกก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นส้มผิดปกติ และมีรายงานจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจนไม่สามารถเพิกเฉยได้

เด็กสองคน อายุเพียง 2 และ 6 ขวบ ป่วย หลังจากกินปลาจากแม่น้ำ ผลตรวจพบสารหนูในร่างกายสูงผิดปกติ ชาวประมงพบปลาตายลอยเกลื่อน และระบุว่าเจอปลามีรูปร่างผิดเพี้ยนไปจากเดิม แม้แต่ช้างที่เคยอาบน้ำในแม่น้ำก็มีอาการผิวหนังเป็นผื่นและตุ่มหนอง

เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษของไทยเข้ามาตรวจน้ำ และพบปริมาณสารหนูสูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 3 เท่า

จากนั้นเทศบาลท้องถิ่นสั่งห้ามชาวบ้านลงไปในน้ำทันที ทำให้แหล่งรายได้หลักของหมู่บ้านต้องหยุดชะงัก และทำให้กบ โกเตคำ ต้องแบกหนี้สินตามมา

“ตอนทำแพ ผมต้องซื้อไม้ ลงทุนไปห้าหมื่นถึงหกหมื่นบาท แต่ปีนี้ไม่มีลูกค้าเลยสักคน ทุกคนเลยเป็นหนี้ ไม่ใช่แค่ผม แต่ทั้งหมู่บ้าน”

ตลอดการตรวจคุณภาพน้ำ 8 ครั้งล่าสุด ยืนยันตรงกันว่าแม่น้ำกกมีสารหนูเกินระดับอันตราย

Image.jfif
นักวิจัยจากมูลนิธิสิทธิมนุษยชนจากรัฐฉาน ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม และพบเหมืองแร่หายาก 2 แห่งในรัฐฉานตอนใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำกก Credit: SBS

แรกเริ่มหลายฝ่ายเชื่อว่า มาจากเหมืองทองในฝั่งเมียนมา ซึ่งมักเป็นต้นเหตุการปนเปื้อนสารหนู แต่ต่อมานักวิจัยจากมูลนิธิสิทธิมนุษยชนจากรัฐฉาน ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม และพบเหมืองแร่หายาก 2 แห่งในรัฐฉานตอนใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำกก

โฆษกกลุ่ม ไซ ฮาร์ก เจต ระบุว่า เหมืองเหล่านี้ตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำเพียง 2-3 กิโลเมตร และพื้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพว้า กองกำลังติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรัฐฉาน

“เรายังเปรียบเทียบกับเหมืองแร่หายากในรัฐคะฉิ่น พบว่ามีลักษณะบ่อชะล้างเหมือนกัน จึงมั่นใจว่านี่ไม่ใช่การทำเหมืองแร่ธรรมดา แต่เชื่อมโยงกับเหมืองแร่หายากในคะฉิ่นแน่นอน ชาวบ้านเล่าว่าน้ำกลายเป็นสีน้ำตาล และไม่สามารถใช้ได้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกใช้จากแหล่งน้ำอื่น และในรัฐฉานเองก็ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะเกรงอำนาจท้องถิ่น”

กองทัพสหรัฐว้า ไม่ได้ตอบกลับคำขอสัมภาษณ์ของ SBS
การทำเหมืองแร่หายากใช้สารเคมีเพื่อแยกแร่มีค่าจากหิน ซึ่งจะทิ้งของเหลวปนเปื้อนสูง หากไม่ควบคุมก็จะไหลกลับสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทางการไทยระบุว่า กำลังเร่งวางแผนติดตั้งบ่อดักตะกอนในแม่น้ำกก เพื่อสกัดสารหนูไม่ให้ไหลลงไปท้ายน้ำ

แต่ผู้นำท้องถิ่นในบ้านท่าตอนกังวลว่า มาตรการนี้อาจไม่เพียงพอ พระมหานิกรม พระในหมู่บ้าน เรียกร้องให้รัฐบาลกลางในกรุงเทพฯ เจรจากับผู้นำทหารเมียนมาโดยตรง เพื่อยุติการทำเหมืองที่ไร้การควบคุมตามแนวชายแดน
ถ้าเราพยายามแก้ปัญหาแค่ฟื้นฟูแม่น้ำแต่ไม่ปิดเหมือง ปัญหาจะไม่หมดไป และถ้ามันแก้ไขไม่ได้ ชุมชนและวิถีชีวิตเราก็จะเปลี่ยน
พระมหานิกรม เจ้าอาวาสวัดท่าตอน
พระมหานิกรม เกิดและเติบโตที่บ้านท่าตอน หลังจากย้ายไปศึกษาต่อ ท่านก็กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าตอน วัดบนเนินเขาที่มองเห็นหมู่บ้านและแม่น้ำสายชีวิตของผู้คนที่นี่
Image (1).jfif
พระมหานิกรม เจ้าอาวาสวัดท่าตอน Credit: SBS

“ผมอาบน้ำในแม่น้ำกกตั้งแต่ผมเกิด พอวันที่ได้ยินข่าว ผมขึ้นไปที่สะพานแล้วมองลงไปในน้ำ มันขุ่นมาก ขุ่นจนใจหาย วันนั้นผมรู้สึกเหมือนแม่กำลังนอนอยู่ในห้องไอซียู ส่วนผมยืนอยู่หลังประตู ไม่สามารถพูด ไม่สามารถแตะ ไม่สามารถให้กำลังใจแม่ได้เลย นั่นแหละคือความรู้สึกของผม”

ท่าตอนเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีประชากรไม่ถึง 20,000 คน เกือบทุกครอบครัวต้องพึ่งพาแม่น้ำสายนี้ในการดำรงชีวิต

ช่วงหน้าฝนยังพอมีน้ำจากภูเขามาหล่อเลี้ยงพืชผล แต่ไม่นานหมู่บ้านก็ต้องหันกลับมาใช้น้ำจากแม่น้ำอีกครั้ง

ละ บุญเรือง เป็นชาวบ้านท่าตอนอีกคนหนึ่ง อาศัยอยู่บ้านริมน้ำหลังเดิมมากว่า 50 ปี เขาบอกว่าทั้งชีวิตของเขาต้องพึ่งพา การทำไร่ทำนาและหาปลาในแม่น้ำ

“เมื่อก่อนถ้าน้ำไม่พอ เราก็ไปตักน้ำจากแม่น้ำกก มารดนาได้ แต่ตอนนี้มันอันตรายเกินไป กระทบทุกคน ไม่ใช่แค่คนเดียว ไม่ใช่แค่ทั้งหมู่บ้าน แต่ทั้งเป็นแม่น้ำทั้งสาย ไม่ว่าจะยาวกี่กิโลเมตรก็ตาม”

และตอนนี้การปนเปื้อนลุกลามไกลกว่านั้นแล้ว เพราะแม่น้ำกกเป็นแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง แหล่งน้ำสำคัญที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขณะนี้ตรวจพบสารหนูเกินมาตรฐานเช่นกัน

จนถึงตอนนี้ ทางการไทยได้เก็บตัวอย่างน้ำจาก 3 จุด ครอบคลุมระยะทางราว 20 กิโลเมตรตามลำน้ำโขง ผลที่ได้ทุกจุดพบสารหนูเกินค่าปลอดภัย

ที่บ้านสบกก หมู่บ้านเล็ก ๆ ห่างจากชายแดนเมียนมาราว 15 กิโลเมตร สมเดช ธนาธุระยกุล ชาวประมงท้องถิ่น บอกว่า เริ่มพบปลามีความผิดปกติในอวนทุกวัน
LA BOONRUANG .jpg
ละ บุญเรือง ชาวบ้านท่าตอนบอกว่าทั้งชีวิตของเขาต้องพึ่งพา การทำไร่ทำนาและหาปลาในแม่น้ำ Credit: SBS

“พอเราเห็นมีปลาที่มีรอยแผล เราก็ไม่กล้ากิน เลยเอาไปตรวจ ผลออกมาว่ามีสารหนู คนซื้อก็ไม่กล้ากินปลาเพราะข่าวที่ออกมา เมื่อก่อนผมหาเงินได้วันละพันกว่าบาท แต่ตอนนี้ทั้งสัปดาห์ยังไม่ถึงสามร้อย”

หลักฐานชี้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าวิกฤตครั้งนี้มีต้นตอมาจากเหมืองแร่หายาก

รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้ รองศาสตราจารย์ ดร.ฐานพล เพ็ญรัตน์ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ศึกษาตรวจสอบคุณภาพน้ำ

“เรานำตัวอย่างน้ำ ดิน ตะกอน รวมทั้งพืชกินได้และปลา จาก 5 สถานีในจังหวัดเชียงราย มาวิเคราะห์ พบธาตุหรือไอออนประมาณ 15 ชนิด จากนั้นเรานำ ‘ลายนิ้วมือทางเคมี’ หรืออัตราส่วนของธาตุแต่ละชนิด ไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างน้ำจากเหมืองแร่หายากในรัฐคะฉิ่น แม้ความเข้มข้นในไทยจะต่ำกว่า แต่สัดส่วนของธาตุกลับใกล้เคียงกันมาก สิ่งนี้ชี้ให้เห็น หรืออย่างน้อยก็ระบุได้ว่า ปัญหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่หายาก”
จากการทำแผนที่ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พบพื้นที่ดินถูกรบกวนจากกิจกรรมที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองในรัฐฉานแล้ว 60 จุด ในจำนวนนี้ 21 จุดเพิ่งเริ่มมีความเคลื่อนไหวในปีนี้

แม้การทำแผนที่จะไม่แยกความต่างระหว่างเหมืองทั่วไปกับเหมืองแร่หายาก แต่มูลนิธิสิทธิมนุษยชนฉานระบุว่า ตรวจพบเหมืองแร่หายากทั้งหมด 47 แห่งในรัฐฉาน

หลายแห่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนจีน ซึ่งในปี 2023 มีการนำเข้าแร่หายากจากเมียนมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกือบ 42,000 เมตริกตัน

รองศาสตราจารย์ฐานพล เพ็ญรัตน์ ระบุว่า ระดับสารหนูที่ตรวจพบในแม่น้ำโขงยังคงต่ำกว่าที่พบในแม่น้ำสาขา 3 สาย ที่ไหลมาจากรัฐฉาน ได้แก่ แม่น้ำกก แม่น้ำทราย และแม่น้ำรวก แต่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ผลกระทบที่แท้จริงยังมาไม่ถึง

“มลพิษต้องใช้เวลาในการเคลื่อนตัว อย่างสารหนูหรือสารตะกั่ว มักอยู่ในอนุภาคเล็ก ๆ หรือตะกอนในแม่น้ำ ซึ่งเคลื่อนที่ช้ากว่าน้ำ มันจะก่อตัวเพิ่มขึ้น เป็นตะกอนมากขึ้น แล้วค่อย ๆ เคลื่อนเป็นระลอก ๆ ผลกระทบจึงจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดคงที่”

แม่น้ำโขงคือจุดบรรจบของแม่น้ำหลายสายทั้งจาก ไทย ลาว และเมียนมา ก่อนจะไหลต่อเข้าสู่กัมพูชาและเวียดนาม หล่อเลี้ยงผู้คนกว่า 60 ล้านชีวิตทั้งการประมง เกษตร และน้ำดื่ม ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้

เปี่ยนพร ดีเทศ นักสิ่งแวดล้อมจากองค์กร International Rivers เตือนว่า การปนเปื้อนอาจลุกลามไปไกลถึงขนาดนั้น หากไม่สามารถควบคุมได้ทันเวลา
นี่คืออาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดที่ฉันเคยพบ มันคือผลกระทบรุนแรงระยะยาว
เปียนพร ดีเทศ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
"ผลกระทบอาจไม่เห็นใน 1-2 ปี แต่อาจปรากฏในอีก 3, 5 หรือ 10 ปีข้างหน้ากับเด็กที่เกิดใหม่ เรื่องที่น่ากังวลที่สุดคือสาธารณสุข เราไม่อยากเห็นคนรุ่นหลังต้องล้มป่วย”
Image (2).jfif
เปียนพร ดีเทศ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่าการปนเปื้อนอาจลุกลามไปไกลมากหากไม่สามารถควบคุมได้ทันเวลา Credit: SBS
นักเคลื่อนไหวชาวไทยผู้นี้เชื่อว่า นักลงทุนจีนอยู่เบื้องหลังการขยายตัวของเหมืองในรัฐฉานเป็นส่วนใหญ่

ปัจจุบัน จีนควบคุมเหมืองแร่หายากราว 70% ของโลก และครองสัดส่วนการถลุงและแปรรูปสูงถึง 90% เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ระบบอาวุธ ไปจนถึงแบตเตอรี่แบบชาร์จได้

เมื่อเดือนมิถุนายน สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงเทพฯ ตอบประเด็นนี้ในรายงานการปนเปื้อน โดยระบุว่า “จีนได้กำชับบริษัทจีนที่ดำเนินงานในต่างประเทศให้ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ และดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเสมอ”

แต่เปี่ยนพร ดีเทศ ชี้ว่า เหมืองจำนวนมากตั้งอยู่นอกพื้นที่ควบคุมของรัฐบาลทหารเมียนมา ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมใด ๆ

“สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีกฎหมายหรือมาตรฐานความปลอดภัยใด ๆ เลย และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหายนะ เราได้บทเรียนจากรัฐคะฉิ่น ที่มีเหมืองถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายกว่า 300 แห่ง โดยมีนักลงทุนจากจีนหรือกลุ่มที่พูดภาษาจีนอยู่เบื้องหลัง ต้นน้ำของเรา ตอนนี้ยังมีไม่กี่แห่ง"

"ถ้าไม่มีการดำเนินการจากรัฐบาล มันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และต้นทุนที่ต้องจ่ายก็คือ แม่น้ำ ป่า ที่ดิน และอนาคตของพวกเรา”

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Recommended for you

Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
สารหนูปนเปื้อนจากเหมืองแร่หายาก: วิกฤตสายน้ำจากรัฐฉานถึงลุ่มน้ำโขง | SBS Thai