ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะประชุมในวันอังคารนี้ (20 พ.ค. 2025) เพื่อพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 4.1% หรือไม่
แม้อัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มลดลง แต่ RBA อาจจะไม่ด่วนตัดสินใจการปรับลดดอกเบี้ย โดยที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายเตือนว่า การลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจกระตุ้นการใช้จ่ายเกินพอดี หรือที่เรียกว่า “การปลุกพลังเศรษฐกิจให้คึกคักเกินพอดี” (unleash animal spirits)
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา RBA ได้ปรับลดดอกเบี้ยจาก 4.35% ลงมาเหลือ 4.1% แต่ยังคงอัตราเดิมในเดือนเมษายน
การตัดสินใจครั้งนี้ของ RBA จึงต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบจากหลายปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยอะไรที่ RBA จะพิจารณาลดดอกเบี้ย
มีข้อมูลหลายด้านที่ RBA จะพิจารณาก่อนการตัดสินใจว่าจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ในวันอังคารนี้ แม้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักงานสถิติออสเตรเลียจะเพิ่งเผยแพร่ตัวเลขดัชนีราคาค่าจ้างและการเติบโตของแรงงาน แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่มีผลต่อการตัดสินใจของ RBA อย่างมีนัยสำคัญ
แซลลี ทินดอลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกจากเว็บไซต์แคนสตาร์ (Canstar) กล่าวกับ เอสบีเอส (SBS) ว่า สิ่งที่ RBA จะให้ความสำคัญเป็นหลักคือ อัตราเงินเฟ้อ และ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เธอกล่าวว่า
“RBA จะพิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอัตราค่าจ้างล่าสุดและการเติบโตของแรงงาน แต่สิ่งสำคัญคืออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกับความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก”
RBA ตั้งเป้าควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 2–3%
ข้อมูลล่าสุดในไตรมาสเดือนมีนาคมแสดงให้เห็นว่า "อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ตัดราคาสินค้าที่ขึ้นหรือลงแรงผิดปกติออก เพื่อดูแนวโน้มจริงของค่าครองชีพ” (trimmed mean inflation) อยู่ที่ 2.9%
ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อาจเปิดทางให้ RBA ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันอังคารนี้
เดวีกา ชิวาเดกา นักเศรษฐศาสตร์จาก RSM Australia อธิบายว่าอัตราเงินเฟ้อแบบ trimmed mean นี้ เป็นตัวชี้วัดสำคัญมาก
เพราะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากมาตรการชั่วคราวของรัฐ
เธอยังเตือนว่า RBA อาจต้องพิจารณาความเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา อาจทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตั้งใจไว้
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดอยู่ที่ 2.4% ก็ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของ RBA เช่นกัน
ด้านเดวิด บาสซาเนส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเบตาแชร์ (Betashares) เสริมว่า ตัวเลขการว่างงานที่คงที่อยู่ที่ 4.1% และการจ้างงานที่เติบโตอย่างแข็งแรง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า RBA อาจยังเลือกที่จะ “ไม่รีบ” และคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ก่อน เหมือนในมีนาคมที่ผ่านมา

แผนภูมิแสดงการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในออสเตรเลียตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอยู่ที่ 4.10% Source: SBS
ถ้าลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป เงินเฟ้ออาจกลับมาสูงอีก
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า แม้อัตราเงินเฟ้อแบบ trimmed mean จะอยู่ในกรอบเป้าหมายของ RBA แต่ก็แค่เฉียด ๆ เท่านั้น คืออยู่ที่ 2.9% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำเพียง 0.1%
เขาระบุว่า หาก RBA รีบลดดอกเบี้ยตอนนี้ อาจกระตุ้นความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจเร็วเกินไป ส่งผลให้ผู้บริโภคและตลาดที่อยู่อาศัยกลับมาร้อนแรง และทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อที่กำลังลดลงสะดุดลง
“เงินเฟ้อเพิ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างฉิวเฉียด ดังนั้น RBA อาจมองว่าเศรษฐกิจยังไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยตอนนี้ และการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป อาจทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อกลับมาอีกครั้ง” เขากล่าว
“เราอาจเห็นราคาบ้านพุ่ง การใช้จ่ายผู้บริโภคฟื้นตัวแรง และสิ่งเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคคต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่กำลังลดลงอย่างน่าพอใจ”
นอกจากอัตราเงินเฟ้อ เขาเสริมว่า ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ RBA ต้องชั่งน้ำหนักในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก
เดวิด บาสซาเนส ระบุว่า แม้ตลาดจะคลายกังวลเรื่องภาษีนำเข้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงบ้าง แต่ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคงเป็น "ปัจจัยใหญ่" ในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า
หลังสหรัฐฯ และจีนตกลงลดภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 90 วันก็ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้น
“RBA ยังต้องคำนึงถึงความไม่แน่นอนเรื่องภาษีอยู่ เพราะยังมีความเสี่ยงจากนโยบายของทรัมป์อยู่ และยังสูงกว่าช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้” เขากล่าว
เดวีกา ชิวาเดกา กล่าวว่า ผลกระทบต่อเนื่องจากนโยบายของทรัมป์เป็นสิ่งที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด และสิ่งที่ควรระวังไม่ใช่แค่นโยบายของทรัมป์แต่อยู่ที่ "การตอบโต้ของประเทศอื่น" ด้วย
“ภาษีที่ประกาศแล้วก็ยกเลิกวนไปมาแบบนี้ อาจทำให้ RBA เลือกที่จะรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ” เธอกล่าว
ธนาคารและผู้เชี่ยวชาญคาดลดดอกเบี้ย 0.25%
แม้จะมีความเสี่ยงจากต่างประเทศ แต่ชิวาเดกาเชื่อว่าในประเทศมีปัจจัยอื่นๆ ที่เอื้อต่อการลดดอกเบี้ย
“ตราบใดที่ออสเตรเลียไม่ถูกกระทบโดยตรงจากความขัดแย้งทางการค้าโลก เราก็น่าจะสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศได้ พร้อมๆ กับจับตาสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด”

Source: SBS
ส่วน เดวิด บาสซาเนสกล่าวว่า แม้ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ จะเริ่มถอยท่าทีเรื่องภาษีนำเข้า แต่ยังมีความเสี่ยงอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่รุนแรงเท่าที่เคยกังวล
ด้านธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของออสเตรเลีย ทั้ง Commonwealth Bank, Westpac และ ANZ ต่างก็ประเมินตรงกันว่า RBA จะลดดอกเบี้ย 0.25%
ส่วน NAB คาดว่าอาจมีการลดถึง 0.5% หรือ "ดับเบิลคัต" หาก RBA มองว่าเศรษฐกิจจำเป็นต้องกระตุ้นอย่างเร่งด่วน