มิตช์ เคนนี นักรักบี้ลีกเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ชิพ 3 สมัย บอกกับเอสบีเอส ว่าเขาชอบออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและการดูนกเป็นกิจกรรมระหว่างทางในขณะที่เขาออกไปเดิน
นักกีฬาวัย 27 ปี ผู้นี้ เล่นในตำแหน่งฮุคเกอร์ของทีมเพนริธ แพนเธอร์ส เขาเริ่มหันมาสนใจการดูนก มาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขาเริ่มสนใจการดูนกได้อย่างไร เขาตอบว่า
หลักๆ คือเป็นเพราะพี่ชายของเขา ซึ่งชื่นชอบสัตว์ป่าเป็นพิเศษและทำกิจกรรมลักษณะนี้มานานแล้ว หลังจากที่เขาย้ายมาอยู่แถบชานเมือง และพี่ชายอาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาบลูเมาน์เทนส์
พวกเขาจึงเริ่มออกไปสำรวจธรรมชาติ ด้วยกัน ก่อนจะค่อย ๆ สนใจงานอดิเรกนี้มากขึ้น ในปีนี้ เขายังได้ซื้อกล้องส่องทางไกล และเริ่มศึกษาการดูนกอย่างจริงจัง เขากล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้
และที่เทือกเขาบลูเมาน์เทนส์แห่งนั้นเอง เขาได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า “นกจุดประกาย” หรือ spark bird ซึ่งเป็นคำเรียกนกตัวแรกที่ทำให้ใครสักคนหลงใหลและเริ่มจริงจังกับการดูนกอย่างแท้จริง เขากล่าวว่า
"ปกติตัวเองมักจะไปจุดชมวิวแห่งหนึ่งแถว lower mountain อยู่แล้ว และมีป้ายบอกให้สังเกต เหยี่ยวเพเรกริน ซึ่งเป็นนกที่บินเร็วที่สุดในโลก และเป็นนกล่าเหยื่อ ทำให้เขารู้สึกว่าน่าสนใจมาก จากนั้นเขาจึงเริ่มพกกล้องส่องทางไกลไปทุกครั้ง แม้จะต้องไปถึงหกหรือเจ็ดครั้งกว่าจะได้เห็นนกชนิดนี้เป็นครั้งแรก แต่เมื่อได้เห็นจริง ๆ ก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นของการ “ได้เจอเป้าหมาย” อย่างแท้จริง”
มิตช์ เคนนี เป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่หันมาสนใจการดูนก กลุ่มดูนก Sydney Bird Club ซึ่งตั้งอยู่ในย่านอินเนอร์เวสต์ของซิดนีย์ ที่ดำเนินกิจกรรมมาเป็นเวลา 5 ปี พบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 มีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากที่สุดครั้งหนึ่ง
สเตฟานี แชมเบอร์ส ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Sydney Bird Club บอกว่า
“ก่อนเกิดโควิด เรารู้สึกเหมือนว่าการดูนกกำลังจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผู้คนเริ่มอยากรู้อยากเห็น และในช่วงการระบาด ความสนใจนั้นก็กลายเป็นความหลงใหลอย่างจริงจังสำหรับหลายคน”
เขาบอกว่ากลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้การเริ่มต้นดูนกเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มดูนก ดังกล่าวมีสมาชิกที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้านนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพิธีกรพอดแคสต์ Death by Birding ดร. ซีซาร์ พูชมาแร็ง กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาเริ่มดูนก เขาบอกว่า
“ผู้คนได้สัมผัสกับนกมากขึ้น โดยเฉพาะหลังช่วงโควิด-19 เพราะหลายคนต้องอยู่แต่ในบ้าน ไม่สามารถออกไปสำรวจหรือใช้ชีวิตกลางแจ้งได้ ทำให้เริ่มสังเกตเห็นนกในสภาพแวดล้อมใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นในละแวกบ้านหรือแม้แต่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง"
อ่านเพิ่มเติม
เดินป่าฮาเฮ
ดร. พูชมาแร็ง ยังบอกว่า คนรุ่นหนึ่งเติบโตมากับวิดีโอเกม หรือเกมอย่างโปเกมอน ซึ่งทำให้งานอดิเรกอย่างการดูนกเข้ากันได้อย่างลงตัว เพราะเป็นกิจกรรมที่ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีคำว่า “จบเกม” เนื่องจากจะมีนกชนิดใหม่ให้ค้นพบอยู่เสมอ
ขณะที่สเตฟานี แชมเบอร์ส ระบุว่า การดูนกช่วยให้ผู้คนได้เชื่อมต่อกับบางสิ่งที่แทบจะเป็นเหมือนยาถอนพิษจากโลกอินเทอร์เน็ต เขาอธิบายว่า
"เมื่อดูนก ผู้คนไม่ได้แค่มองดูนกเท่านั้น แต่ยังได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล การอพยพของนก และความเคลื่อนไหวของธรรมชาติ ซึ่งช่วยเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับสิ่งที่อาจขาดหายไปหากไม่ได้ทำกิจกรรมนี้ พร้อมระบุว่า การดูนกเข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์"
แชมเบอร์ส มองว่าการดูนกเป็นรูปแบบหนึ่งของการต่อต้านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย ในโลกสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ มนุษย์กำลังสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เคยเป็นการ “ต่อต้าน” โซเชียลมีเดียดังกล่าว กำลังกลับมาอินเทรนด์บนโลกออนไลน์
ฌอน ดูลีย์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์อาวุโสของ BirdLife Australia กล่าวว่า คนดูนกรุ่นใหม่กำลังหันมาใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อ แบ่งปันประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนความสนใจร่วมกัน เขากล่าวว่า
"ในยุคดิจิทัล พวกเขาเคยกังวลว่าผู้คนจะจดจ่ออยู่กับหน้าจอและห่างไกลจากธรรมชาติ แต่ขณะนี้คอนเทนต์เกี่ยวกับธรรมชาติบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram โดยเฉพาะเรื่องนก ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากนกมีความสวยงามและการได้ออกไปดูนกก็เปรียบเสมือนการผจญภัยรูปแบบหนึ่ง"
เขากล่าวว่า กระแสดังกล่าวดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับโลกดิจิทัลให้เข้ามาสนใจการดูนกมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองออสเตรเลีย
ฌอน ดูลีย์ ระบุว่า การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันเป็นสิ่งสำคัญ
"เขากล่าวว่า เมื่อผู้คนเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะรบกวนวงจรชีวิตตามธรรมชาติของนก แต่เมื่อชุมชนคนดูนกได้เชื่อมโยงกัน ก็จะเริ่มมีการเตือนและให้คำแนะนำกันเอง เช่น บอกกันว่าไม่ควรเข้าไปใกล้รังนกมากเกินไป เพราะอาจทำให้นกอินทรีทิ้งลูกได้ ข้อมูลลักษณะนี้จะถูกถ่ายทอดและแบ่งปันกันภายในกลุ่ม"
เขาระบุว่า เมื่อผู้คนสนใจนกมากขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อเนื่องในหลายด้าน
" ระหว่างเส้นทางการดูนกของใครหลายคน ผู้คนจะตระหนักว่า หากต้องการรักษาความหลงใหลที่เกิดจากความหลากหลายของนกในออสเตรเลียเอาไว้ ก็จำเป็นต้องช่วยกันปกป้องและอนุรักษ์ความหลากหลายนั้น เพราะหากไม่มีการลงมือทำ สิ่งที่สร้างความสุขให้กับพวกเขาอาจสูญหายไป"
และนั่นคือสิ่งที่มิตช์ เคนนีกล่าวว่า เขากำลังเริ่มสัมผัสได้ด้วยตัวเอง
"เมื่อคนเราเริ่มสนใจนกอย่างจริงจัง ก็จะเริ่มเรียนรู้ว่านกชนิดใดกำลังเผชิญแรงกดดันหรือความเสี่ยง และตระหนักถึงบทบาทที่ตนเองสามารถมีส่วนช่วยได้ จากจุดนั้นเอง ผู้คนจะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงวิธีปฏิสัมพันธ์กับโลกและความสัมพันธ์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว






