ประเด็นสำคัญ
- Lifeblood เป็นหน่วยงานของสภากาชาดออสเตรเลีย ซึ่งองค์กรบริหารจัดการการบริจาคโลหิตของประเทศ
- เลือดจากการบริจาก สามารถช่วยทุกชีวิตจากทุกภูมิหลัง เพราะออสเตรเลียมีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ
- หากคุณไม่แน่ใจว่าสามารถบริจาคเลือดได้หรือไม่ สอบถามได้ที่หมายเลข 13 14 95
ออสเตรเลียมีคลังโลหิตสำรองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ระดับปริมาณเลือดสำรองมักอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และเราจำเป็นต้องมีการบริจาคเลือดมากกว่า 33,000 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศ
เลือดที่บริจาคนำใช้สำหรับอะไร?
เอมิลี แกรนแลนด์ โฆษกจาก Lifeblood หน่วยงานรัฐบาลที่บริหารจัดการคลังโลหิตของสภากาชาดออสเตรเลียกล่าวว่า เลือดคือทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาลและสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ
“เลือดเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าและสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ สามารถช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉิน ยืดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็ง และช่วยให้ผู้ที่ต้องรับเลือดเป็นประจำมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การบริจาคเลือดจึงช่วยได้หลายกลุ่มมาก ตั้งแต่คนที่ต้องผ่าตัด ผู้ประสบอุบัติเหตุรุนแรง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดหรือภูมิคุ้มกัน คุณแม่คลอดบุตร และแม้แต่ทารกในครรภ์”

Lifeblood ต้องการการบริจาคโลหิตจากผู้บริจาคทุกภูมิหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับประชากรที่มีความหลากหลายของออสเตรเลีย
ใครบริจาคเลือดได้บ้าง
แม้ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถบริจาคเลือดได้ตลอดเวลา แต่คนส่วนใหญ่สามารถบริจาค “ส่วนประกอบของเลือด” ได้ และยังทำได้บ่อยกว่าที่คิด
"ถ้าคุณอายุระหว่าง 18 ถึง 75 ปี น้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป และมีสุขภาพแข็งแรง คุณก็สามารถบริจาคเลือดได้ Lifeblood ยังรับบริจาคพลาสมา (plasma) และเกล็ดเลือด (platelet) ด้วย ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเลือด และคุณสามารถบริจาคเลือดได้ทุก ๆ 12 สัปดาห์ และพลาสมาได้ทุก 2 สัปดาห์"
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์บางอย่างอาจทำให้ไม่สามารถบริจาคได้ เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เคยมีภาวะหลอดเลือดสมอง หรือมีโรคบางชนิด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริจาคเอง
รวมถึงผู้ที่มีโรคเลือดบางประเภท เช่น ฮีโมฟีเลีย หรือธาลัสซีเมีย ก็จะไม่สามารถบริจาคได้เช่นกัน
หากไม่แน่ใจ สามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 13 14 95 ซึ่งจะมีทีมแพทย์ของ Lifeblood พร้อมให้คำแนะนำ หรือทำแบบทดสอบความเหมาะสมแบบทดสอบความเหมาะสมได้ที่เว็บไซต์ Lifeblood
แกรนแลนด์อธิบายว่า ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงสำหรับเลือด และราว 90 นาทีสำหรับพลาสมา โดยจะมีการเจาะแขนเพียงไม่กี่นาที
“เราขอให้ผู้บริจาคเลือดดื่มน้ำประมาณ 12 แก้ว ในวันก่อนบริจาค และดื่มต่อในวันนั้น เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หลายคนอาจรู้สึกกังวลหรือกลัวเข็ม แต่เจ้าหน้าที่ของเราทุกคนเป็นมิตรมาก และจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น หากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลัก เรายังมีล่ามให้บริการ รวมถึงมีฉากบังและผ้าคลุมแขนให้ด้วย”

พลาสมาแช่แข็งในรถเข็น Credit: /
สิ่งที่กระตุ้นให้คนบริจาคเลือด?
เอ็ดบริจาคเลือดเป็นประจำ เขาบริจาคปีละ 3–4 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2009
เขากล่าวว่าหลายคนอาจไม่ค่อยคำนึงความสำคัญของการบริจาคเลือด แต่สำหรับบางคน มันคือเรื่องของ “ความเป็นและความตาย”
แรงจูงใจของผมคืออยากช่วยชีวิตคน มันเป็นสิ่งที่ผมทำได้โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากเวลาและเลือดของตัวเอง อีกอย่างคือ ผมมีเพื่อนและครอบครัวที่เคยต้องรับเลือดในโรงพยาบาล ผมเลยรู้สึกว่าควรตอบแทนสังคมบ้างเอ็ดกล่าว
การไปบริจาคเลือด ต้องทำอะไรบ้าง?
ขั้นตอนแรกของการนัดบริจาคคือกรอกแบบสอบถามเพื่อยืนยันความเหมาะสมในการบริจาคเลือด รวมถึงจะมีการตรวจความดันโลหิตและระดับธาตุเหล็กด้วย
“จากนั้นคุณจะได้ไปนั่งบนเก้าอี้สบาย ๆ เพื่อบริจาคเลือด ซึ่งใช้เวลาเพียง 5–10 นาที หลังจากนั้นสามารถพักผ่อนพร้อมของว่างฟรี เรามีทั้งผลไม้ ช็อกโกแลต พาย มิลก์เชก เพื่อเติมพลังให้คุณก่อนกลับไปทำกิจวัตรประจำวันต่อได้เลย”

O-negative blood - Not everyone can donate blood regularly. But most of us can donate at least some parts of our blood.
ทำไมเราต้องมีเลือดที่หลากหลาย?
การมีผู้บริจาคเลือดจากหลากหลายเชื้อชาติถือว่าสำคัญมากเช่นกัน
ดร.เรเชล ทอร์ป นักวิจัยอาวุโสจาก Lifeblood อธิบายว่า ปัจจุบันผู้บริจาคส่วนใหญ่ในออสเตรเลียมาจากเชื้อสายยุโรป ยิ่งมีเลือดที่หลากหลายด้านชาติพันธุ์มากเท่าไหร่ คลังเลือดสำรองจะยิ่งมั่นคงมากขึ้น
“เมื่อประเทศมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากขึ้น เลือดของเราก็จะหลากหลายตาม เพราะกรุ๊ปเลือดเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้นเราจึงต้องการผู้บริจาคจากทุกภูมิหลัง เพื่อให้มีเลือดที่ตรงกันสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการ” ดร. ทอร์ปกล่าว
ปัจจุบัน มีกลุ่มกรุ๊ปเลือดหลัก 8 ประเภท โดยกรุ๊ปที่พบบ่อยที่สุดในออสเตรเลียคือเลือดกรุ๊ปโอ บวก รองลงมาคือเอ บวก
ดร.ทอร์ปเสริมว่า ที่จริงแล้วกรุ๊ปเลือดมีกว่า 300 รูปแบบย่อย และเลือดบางกรุ๊ปพบได้ยากมาก
“หนึ่งในกรุ๊ปเลือดหายากคือ ‘JK null’ ซึ่งพบได้น้อย แต่จะพบได้ในคนเชื้อสายโพลินีเซีย ชาวเมารีจากนิวซีแลนด์ และชาวฟิลิปปินส์ เราจึงอยากเชิญชวนให้คนจากกลุ่มนี้มาบริจาคเลือด เพื่อช่วยค้นหาผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดที่หายากนี้ได้มากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ดร.ทอร์ปกล่าวว่า ปัจจัยทางวัฒนธรรมอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้บางคนลังเลจะบริจาคเลือด
“บางประเทศใช้ระบบบริจาคแบบ ‘ทดแทนในครอบครัว’ คือคุณจะบริจาคเลือดเพื่อช่วยญาติหรือเพื่อนที่ต้องผ่าตัดเท่านั้น ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่า การบริจาคเลือดเป็นเรื่องสมัครใจในออสเตรเลีย ใคร ๆ ก็สามารถนัดหมายและมาบริจาคได้ และเรายังอยากให้คนเหล่านี้กลับมาบริจาคซ้ำเป็นประจำด้วย”
คุณสามารถบริจาคเลือดเป็นกลุ่มได้หรือไม่?
สำหรับเอ็ดที่บริจาคเลือดเป็นประจำ เขามักจะชวนเพื่อนร่วมงานมาบริจาคร่วมกัน เพราะทำให้การไปศูนย์บริจาคเลือดกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกมากขึ้น
“มันทำให้บรรยากาศสนุกขึ้นจริง ๆ ไปกันเป็นกลุ่มจะรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนทริปเล็ก ๆ ไปบริจาคเลือด และยังช่วยให้คนที่กลัวเข็มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นด้วย”

Australian Red Cross Lifeblood Donor Centre.
คุณบริจาคเลือดได้ที่ไหนในออสเตรเลีย
Lifeblood เปิดรับผู้บริจาคหน้าใหม่จากทุกภูมิหลังเสมอ แกรนแลนด์แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริจาคส่วนใหญ่ยินดีรับคนที่เดินเข้าไปโดยไม่ได้นัดไว้เช่นกัน
“ตอนนี้มีศูนย์บริจาค Lifeblood ถาวรเกือบ 80 แห่งทั่วออสเตรเลีย ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่ และยังมีศูนย์เคลื่อนที่หรือหน่วยบริจาคแบบ Pop-up ที่เดินทางไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ตลอดทั้งปี รวมแล้วกว่า 365 แห่งต่อปี”
หากคุณต้องการบริจาคโลหิต สามารถติดต่อหมายเลข 13 14 95 หรือจองออนไลน์ที่ lifeblood.com.au หรือผ่านแอป Donate Blood
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
- เลือดบริจาคใช้สำหรับอะไร?
- ทุกคนสามารถบริจาคเลือดได้หรือไม่?
- สิ่งที่กระตุ้นให้คนที่จะบริจาคโลหิต?
- ฉันสามารถคาดหวังอะไรในระหว่างการนัดหมายบริจาคโลหิต?
- ทำไมเราต้องมีความหลากหลายของเลือด?
- คุณสามารถบริจาคโลหิตเป็นกลุ่มได้หรือไม่?
- คุณบริจาคเลือดที่ไหน?
Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย