นับเป็นชัยชนะของผู้ปกครองที่ต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาที่บ้าน
หลังรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ตอบรับข้อเสนอแนะทั้ง 8 ข้อ จากการทบทวนหน่วยงานหลักสูตรการศึกษาที่บ้าน (Home Education Unit)
รายงานการทบทวนที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายน 2024 มีที่มาจากเสียงคัดค้านอย่างกว้างขวางต่อร่างกฎหมายของรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ชุดก่อน ที่พยายามจะบังคับให้นักเรียนโฮมสคูลต้องเรียนตามหลักสูตรออสเตรเลีย
ผู้ปกครองอย่างดานิกา ผู้สอนหนังสือให้กับลูกชายวัย 8 ขวบ ซึ่งมีความต้องการพิเศษ เป็นหนึ่งในผู้คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว
ดานิกากล่าวว่า ข้อเสนอที่เธอรู้สึกตื่นเต้นที่สุด คือการทดลองระบบรายงานผลการเรียนแบบย่อที่สามารถส่งออนไลน์ พร้อมการสัมภาษณ์แบบพบหน้าผ่านระบบวิดีโอ
“ในควีนส์แลนด์ กระบวนการมันคลุมเครือ รายงานรายปีไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่มีความมั่นใจเลยว่าทำถูกต้องหรือไม่ การได้มีบุคคลที่เราต้องรายงานด้วย มันจะทำให้กระบวนการนี้ดูมีมนุษยธรรมมากขึ้น แค่มี ‘หน้า’ ให้กับเอกสารพวกนั้นก็ดีมากแล้ว”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ผู้ปกครองคนไทยถกประเด็น 'การศึกษาทางเลือก' ในออสเตรเลีย
ดานิกากับโจเอล สามีของเธอ อาศัยบริเวณซันไชน์ โคสต์ เริ่มโฮมสคูล เบน ลูกชายของพวกเขา ในปี 2022 หลังลูกชายเผชิญปัญหาความวิตกกังวลในห้องเรียน
พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของอีกหลายพันครอบครัวในควีนส์แลนด์ที่เลือกทางนี้ หลังปี 2020 ซึ่งรัฐระบุว่าการศึกษาแบบโฮมสคูลเพิ่มขึ้นถึง 230% ภายใน 5 ปี รวมเป็นนักเรียนกว่า 11,000 คน
ที่บริสเบน แพทริเซีย ฟิตซ์เจอรัลด์ ผู้จัดการแคมเปญ Free2Homeschool รวบรวมรายชื่อกว่า 21,000 รายชื่อ เพื่อคัดค้านหลักสูตรบังคับ เธอกล่าวว่าการตอบรับข้อเสนอแนะทั้งหมดคือก้าวสำคัญของชุมชน
มันจะเป็นโอกาสที่ดีให้หน่วยงาน HEU ได้สานสัมพันธ์กับชุมชน และทำหน้าที่สนับสนุน มากกว่าการเป็นฝ่ายกำกับเพียงอย่างเดียว การมีผู้นำด้านการศึกษามาเป็นสะพานเชื่อมจะช่วยให้ครอบครัวต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูลและชุมชนโฮมสคูลได้ง่ายขึ้น
โดยข้อเสนอแรกคือการปฏิรูป Home Education Unit ให้กลายเป็น "Queensland Home Education" พร้อมการแต่งตั้ง ดร.เรเน แอคตัน ผู้นำด้านการศึกษา เพื่อยกระดับกระบวนการและทรัพยากร เช่น แม่แบบรายวิชา และตัวอย่างรายงานประจำปีฟิตซ์เจอรัลด์ ผู้จัดการแคมเปญ Free2Homeschool กล่าว
รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ จอห์น-พอล แลงบรูค ให้สัมภาษณ์กับเอสบีเอสว่า เขาสนับสนุนสิทธิของผู้ปกครอง ในการเลือกการศึกษาที่เหมาะสมสำหรับครอบครัว
“รัฐบาลเราเชื่อในทางเลือก ผมเองก็เคยเรียนทางไกล เพราะเคยอาศัยอยู่ที่ปาปัวนิวกินี ถ้าผู้ปกครองเลือกวิธีนี้ เราก็ต้องสนับสนุนเขา เหมือนที่เราสนับสนุนโรงเรียนรัฐและเอกชน”
การศึกษาแบบโฮมสคูลเพิ่มขึ้น 230% ภายใน 5 ปี ที่ออสเตรเลีย Credit: Unsplash/Sofatutor
และกฎหมายที่เสนอให้ขยายอายุของนักเรียนโฮมสคูลจาก 17 เป็น 18 ปียังอยู่ระหว่างการพิจารณา หลังถูกเสนอเข้าสภาเมื่อเดือนมีนาคม
รัฐมนตรีแลงบรูคยังเผยว่า ข้อเสนอแนะบางข้อเริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และการขยายเวลาการทำงานของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาในบ้านอีก 6 เดือน
“รัฐบาลชุดก่อนถูกวิจารณ์เรื่องจัดเวทีปรึกษาเพียงเพื่อให้ดูดี แต่จริง ๆ แล้วได้ตัดสินใจไว้แล้ว รัฐบาลเราไม่ใช่แบบนั้น เราทำการปรึกษาจริง ๆ และจะไม่ตรากฎหมายใด จนกว่าการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองจะครบถ้วน”
อีกหนึ่งข้อเสนอหลัก คือการพัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือผู้ปกครองให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้ง่ายขึ้น
ดานิกายินดีกับการที่มีเครื่องมืออย่าง โปรแกรมเรียนและแบบฟอร์มรายงาน เพราะเหมาะกับการสอนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
“แผนการเรียนของเบนเป็นแบบยืดหยุ่นตามความสนใจของเขา ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การมีโครงสร้างรายงานออนไลน์จะช่วยให้ฉันจัดการข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นว่าเราเรียนอะไรไปแล้วบ้าง และเรียนอย่างไร”
ผู้ปกครองและเด็กที่เรียนออนไลน์ที่บ้าน Credit: Pexels/August De Richelieu
เราต้องการให้เทศบาลท้องถิ่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกหลานของเราได้เรียนรู้ร่วมกัน ไม่ใช่ถูกปิดกั้น เพราะมีคนร้องเรียนแค่คนเดียว เราต้องการพื้นที่ที่เด็ก ๆ จะได้สร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ถูกรบกวนทุกสองสามเดือนดานิกา ผู้ปกครองที่โฮมสคูลลูกชายที่บ้านกล่าว
คณะกรรมาธิการครอบครัวและเด็กแห่งรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland Family and Child Commission) ได้เผยแพร่รายงานอีกฉบับ เมื่อเดือนธันวาคม 2024 เพื่อตอบข้อกังวลของคณะกรรมการสอบสวนการเสียชีวิตของเด็ก ในรายงานประจำปี 2022–2023
โดยรายงานยืนยันสิทธิของผู้ปกครองในการเลือกการเรียนที่เหมาะสมที่สุด แต่เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
และรัฐมนตรีแลงบรูคยืนยันว่า รัฐบาลของเขากำลังพิจารณาประเด็นนี้อย่างจริงจัง
“มุขมนตรีคริซาฟูลลีสั่งอย่างชัดเจน ให้ผมทำงานใกล้ชิดกับรัฐมนตรีด้านความปลอดภัยเด็ก อแมนดา แคมม์ กับอัยการสูงสุด เด็บ เฟรกลิงตัน และกับกรมตำรวจของรัฐมนตรีแดน เพอร์ดี เพื่อขจัดอุปสรรคทั้งหมดที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ”
