หลงป่าออสเตรเลีย 11 คืน แบ็กแพกเกอร์เยอรมันรอดด้วยการนอนถ้ำ และดื่มน้ำฝน

Carolina Wilga's abandoned van (AAP)

ภาพรถตู้ที่แคโรไลนา วิลกา ทิ้งไว้ Source: AAP / SUPPLIED BY WESTERN AUSTRALIA POLICE FORCE/PR IMAGE

เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเตือนนักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินป่าในออสเตรเลียให้ปฏิบัติตามแนวทางรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หลังแบ็กแพ็กเกอร์สาวชาวเยอรมันวัย 26 ปี หลงทางในพื้นที่ห่างไกล ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นานถึง 11 คืน


เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คาโรลีนา วิลกา นักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กชาวเยอรมันได้รับความช่วยเหลือ หลังเกิดอุบัติเหตุเสียการควบคุมรถตู้ จากนั้นเธอเดินออกจากรถ และหลงทาง เผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน 11 คืน

สารวัตรนักสืบหญิง เจสสิกา เซคูโร ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่วิลกาต้องเอาชีวิตรอดตามลำพังในป่าเป็นเวลาเกือบ 12 วัน

“เธออยู่กับรถที่ติดหล่มอยู่ 1 วัน จากนั้นตัดสินใจเดินออกจากรถ นั่นหมายความว่าเธอใช้ชีวิตอยู่กลางป่าเป็นเวลา 11 คืน ซึ่งถือว่านานมาก และทำให้เราตระหนักว่าโชคดีแค่ไหนที่สามารถพบเธอได้อย่างปลอดภัย และเราดีใจมากที่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ เธอใช้วิธีดูทิศทางพระอาทิตย์ และพยายามเดินไปทางตะวันตก เพราะคิดว่านั่นน่าจะมีโอกาสเจอคนหรือถนนได้มากที่สุด”
ล่าสุด วิลกาได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในเมืองเพิร์ธแล้ว หลังหลงทางอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของรัฐเกือบสองสัปดาห์

โดยเธอมีอาการขาดน้ำและมีบาดแผลเล็กน้อย แต่ยังสามารถเดินได้ และได้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านของเธอ ในช่วงสุดสัปดาห์

สารวัตรเซคูโรระบุว่า ครอบครัวของเธอในเยอรมนีแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“พวกเขาแทบไม่เชื่อเลยว่า ทุกคนในชุมชนจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการตามหาลูกสาวของพวกเขา”

โดยวิลกาเผยถึงสาเหตุที่เธอเดินออกจากรถ เพราะเธอได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและสับสน ก่อนจะเดินหลงทิศทาง

จากแถลงการณ์ของกรมตำรวจ วิลกาได้กล่าวขอบคุณผู้ที่ขับรถผ่านและพบเธอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมค้นหา และทีมแพทย์ที่ให้การช่วยเหลือ

ทาเนียเป็นผู้ที่พบวิลกา เธอให้สัมภาษณ์กับเอบีซี นิวส์ ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

“ฉันรู้ว่าเป็นเธอทันที ฉันกำลังขับรถกลับจากเมืองบีคอน หลังจากไปรับรถเทรลเลอร์ และเห็นเธอโบกมือเรียกรถอยู่ข้างถนน”
hitch-hiking
วิลกาหลงป่า และพยายามเดินไปในทิศตะวันตก หวังเจอคนหรือถนน Source: Getty / Getty Images
สำหรับวิลกา เธอออกเดินทางจากบ้านเกิดในเมืองคัสทรอป-เราก์เซล ประเทศเยอรมนี พร้อมความฝันที่จะเดินทางท่องเที่ยวให้ทั่วทุกมุมในออสเตรเลีย

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ วิลกาเดินเท้าติดต่อกันถึง 11 วัน นอนในถ้ำ และรอดชีวิตด้วยการดื่มน้ำฝนและน้ำในแอ่งดิน

คาโร ไรอัน รองผู้บัญชาการหน่วยกู้ภัยป่า ของหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเอสอีเอส ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ แนะนำแนวทาง “TREK” สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในพื้นที่ห่างไกล ในออสเตรเลีย

“คำว่า TREK ย่อมาจาก T – Take everything you need คือให้พกทุกอย่างที่จำเป็น เช่น น้ำ อาหาร ชุดกันหนาว ชุดปฐมพยาบาล แผนที่ เข็มทิศ หรือแอปพลิเคชันนำทาง อย่าลืมแบตสำรองหรือพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไว้ด้วย”

ไรอันแนะนำว่า ควรพกแผนที่กระดาษ และตรวจสอบรายการสิ่งของที่ควรเตรียมทางออนไลน์ ก่อนออกเดินทาง

“R คือ Register your intention – บอกใครบางคนให้รู้ว่าคุณจะไปที่ไหน อย่างไร เจาะจงสถานที่โดยละเอียด ไปกี่วัน ทิ้งรถไว้ตรงไหน และบอกพวกเขาเมื่อคุณกลับถึงแล้วด้วย”
Woman exploring the rainforest on the scenic circuit walk in the Bunya Mountains National Park
นักเดินป่าในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบุนยา Source: Getty / Getty Images
 การมีอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง (personal locator beacon) หรือ PLB อาจช่วยชีวิตคุณได้เช่นกัน

“E ย่อมาจาก Emergency communications – สื่อสารในยามฉุกเฉิน เพราะหลายพื้นที่ในออสเตรเลียไม่มีสัญญาณมือถือ ดังนั้นการมีอุปกรณ์ PLB จึงสำคัญมาก มันเล็ก พกง่าย และสามารถซื้อหรือเช่าได้”

และสุดท้ายคือการวางแผนการเดินทางให้เหมาะกับความสามารถของคุณ

“K – Know your route and stick to it คือ วางแผนให้เหมาะกับความสามารถ ร่างกาย และประสบการณ์ของคุณ โดยใช้ระบบวัดระดับความยากของเส้นทางเดินป่าในออสเตรเลียที่แบ่งไว้ 5 ระดับ และระดับ 5 คือยากที่สุด”
SBS
หลักการ TREK แนวทางในการเดินป่า การเตรียมตัวไม่ให้หลงทาง Source: SBS
 เจ้าหน้าที่ตำรวจจิม อาร์มสตรอง จากหน่วยตำรวจปฏิบัติการฉุกเฉินของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์ ไปจนถึงการแจ้งคนใกล้ชิดก่อนเดินทาง

“เราขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะบน Google Maps เพราะจะยังใช้งานได้ แม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์”

เจ้าหน้าที่อาร์มสตรองเตือนว่า บางคนอาจพยายามทำสิ่งที่เกินความสามารถหรือเกินขีดความพร้อม

“เรามักเห็นคนขับรถธรรมดาทั่วไป ไปลุยเส้นทางออฟโรดที่โหดมาก ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพเลย ดังนั้นควรตรวจเช็กสภาพรถ และมีแผนสำรองหรือแผนช่วยตัวเองในกรณีที่อาจเกิดเหตุฉุกเฉิน”
ในกรณีที่ไม่สามารถอยู่ในรถได้ เจ้าหน้าที่อาร์มสตรองแนะนำให้ทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจน
ถ้าเจอทางแยก ให้เอาหินมากองวางไว้เป็นลูกศรชี้ทิศทางที่เดินไป จะช่วยให้ทีมค้นหาทำงานได้ง่ายขึ้น และหากตั้งแคมป์ ควรก่อไฟเล็ก ๆ เพื่อให้มองเห็นควันจากทางอากาศ เช่น จากเฮลิคอปเตอร์
เจ้าหน้าที่อาร์มสตรองกล่าว
เจ้าหน้าที่อาร์มสตรองยังแนะนำว่า การใช้อุปกรณ์สะท้อนแสง เช่น กระจก อาจช่วยให้ทีมค้นหาพบตำแหน่งได้เร็วขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า วิลกายังคงรักออสเตรเลีย แม้ต้องเผชิญเหตุการณ์สุดหฤโหด และมีแผนเดินทางไปยังชายฝั่งตะวันออกต่อไป

ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand