AI ในระบบจัดหางาน เทคโนโลยีล้ำหน้าหรือว่าอคติรูปแบบใหม่?

Portrait of a Humanoid Robot-pexels-igovar-igovar.jpg

"หุ่นยนต์สัมภาษณ์" อาจเป็นแนวทางใหม่ในการหาคนทำงาน Credit: Pexels/Igovar Igovar

มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในกระบวนการสรรหาบุคลากรเพิ่มมากขึ้น โดยเชื่อว่าเกือบ 2 ใน 3 ขององค์กรในออสเตรเลียใช้ AI ในการคัดเลือกพนักงาน ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเลือกปฏิบัติก็มีมากขึ้นเช่นกัน


องค์กรเพื่อสังคม Sisterworks ในเมลเบิร์นได้ช่วยให้ผู้หญิงที่เป็นผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเข้าถึงตลาดแรงงานมานานกว่าทศวรรษ

หลักสูตรฝึกอบรมที่นี่เน้นทั้งทักษะด้านบริการลูกค้า งานบริการ การเข้าสังคม รวมถึงการเขียนเรซูเม่ การสัมภาษณ์ และการสร้างเครือข่าย เพื่อให้ผู้หญิงพร้อมเข้าสู่โลกการทำงาน

อิฟริน ฟิตท็อก ผู้บริหารของ Sisterworks เล่าว่า ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผู้เข้าฝึกอบรม 9 คนต้องเจอกับรูปแบบการสัมภาษณ์ที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน

“เราค่อนข้างตกใจ ตอนที่ส่งพวกเธอไปสัมภาษณ์งาน แต่กลับไม่มีใครผ่านเลย พอตรวจสอบดูจึงพบว่า การสัมภาษณ์ไม่ได้เป็นแบบตัวต่อตัว แต่เป็นการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอหรือระบบ AI ซึ่งพวกเธอไม่เคยเจอมาก่อน เลยไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไง”
และผู้สมัครงานจำนวนมากแชร์ประสบการณ์ “หุ่นยนต์สัมภาษณ์” ลงโซเชียลมีเดียเช่นกัน

การสัมภาษณ์กับหุ่นยนต์หมายความว่าผู้สมัครต้องตอบคำถามกับระบบอัตโนมัติ แทนการพูดคุยกับมนุษย์

ฟิตท็อกระบุว่า การสัมภาษณ์แบบนี้อาจกลายเป็นอุปสรรคที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัย

“อุปสรรคมีทั้งเรื่องภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของพวกเธอ และทักษะดิจิทัลที่บางคนอาจยังไม่ถนัด ต้องคอยกดปุ่ม คอยดูเวลานับถอยหลัง สิ่งเหล่านี้เพิ่มแรงกดดันให้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นเวลานับถอยหลังตรงหน้า มันทำให้เครียดและตื่นตระหนก”

ข้อมูลจากรายงานของแนวทางการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างรับผิดชอบในออสเตรเลีย (Australian Responsible AI) ระบุว่า ในปี 2024 องค์กรร้อยละ 43 ใช้ AI ในกระบวนการสรรหาบุคลากร (recruitment) ในระดับ “ปานกลาง” และอีกร้อยละ 19 ใช้ AI อย่าง “เข้มข้น”

Sisterworks จึงได้นำการฝึกสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอมาใส่ในหลักสูตรด้วย

ฟาเตเมห์ ซาห์รา ฮาซราติ ผู้อพยพจากอิหร่าน เป็นหนึ่งในผู้เข้าอบรมรุ่นล่าสุด
AI เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้นทุกวัน เราทุกคนจึงต้องเรียนรู้ ปรับตัว และเปิดใจรับความท้าทายเพื่อพัฒนาตัวเอง
ฟาเตเมห์กล่าว
Robots standing at a blackboard.
หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ยืนหน้ากระดานดำ Source: Getty / Donald Iain Smith
AI มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน แต่ความกังวลเรื่องความเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติก็มีมากขึ้นเช่นกัน

ดร.นาตาลี เชียร์ด จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เป็นผู้นำทีมวิจัยที่ตีพิมพ์ผลการศึกษาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า AI อาจกลายเป็นอุปสรรค สำหรับผู้สมัครหลายกลุ่ม

“ระบบ AI บางตัวไม่เอื้อต่อผู้สมัครที่มีอายุมาก ผู้หญิง ผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง หรือผู้มีความพิการ บางระบบยังใช้ข้อมูลอย่างช่องว่างระหว่างการทำงานเพื่อคัดกรอง ซึ่งอาจเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่รู้ตัว เพราะผู้หญิงจำนวนมากมีช่องว่างนั้นจากการลางานเพื่อดูแลครอบครัว”

ดร. เชียร์ดยังอธิบายว่า การประเมินผลด้วย AI ในวิดีโอสัมภาษณ์มักใช้การถอดเสียง ซึ่งระบบถอดเสียงอัตโนมัติมักมีปัญหาเมื่อผู้พูดมีสำเนียงหรือใช้ภาษาอังกฤษไม่คล่อง

“AI ไม่ได้ประเมินจากวิดีโอโดยตรง แต่จะถอดเสียงออกมาเป็นข้อความ แล้วใช้ระบบประเมินคำตอบ ซึ่งระบบถอดเสียงมักทำงานได้ไม่ดีนักกับผู้ที่มีสำเนียงหรือใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง”
ai-generated-Alexandra_Koch.jpg
AI มักเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งหากไม่ได้รับข้อมูลเพียงพอ อาจเกิดการเลือกปฏิบัติได้ Source: Pixabay / Alexandra Koch from Pixabay
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์แอนเดรียส ไลบ์บรันดท์ จากมหาวิทยาลัยโมนาชกล่าวว่าหากออกแบบระบบอย่างเหมาะสม AI อาจมีอคติน้อยกว่ามนุษย์

เขายกตัวอย่างการศึกษาจากสหรัฐฯ ที่พบว่า ผู้หญิงและผู้สมัครที่ไม่ใช่เชื้อสายแองโกลมีแนวโน้มที่จะสมัครงานมากขึ้น หากทราบว่าองค์กรใช้ AI คัดเลือก

“ผู้หญิงหรือชนกลุ่มน้อยไม่ได้คิดว่า AI มีอคติเสมอไป บางคนกลับรู้สึกว่ามีอคติน้อยกว่าการเจอกับคนสัมภาษณ์จริง ๆ เสียอีก”

อย่างไรก็ตาม เขากังวลเรื่องความไม่โปร่งใสและอคติที่อาจแฝงอยู่ในข้อมูลที่ใช้ฝึกระบบ

“AI เรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งหากข้อมูลนั้นมีอคติ เช่น มาจากองค์กรที่มีความลำเอียงต่อผู้หญิง ก็อาจสะท้อนอคติเหล่านั้นออกมาในระบบ”
และประเด็นเรื่องชุดข้อมูลที่ลำเอียงนี้ยังพบในงานวิจัยของเชียร์ดเช่นกัน

“ระบบ AI ประเภทนี้มักถูกพัฒนาในต่างประเทศ โดยใช้ข้อมูลจากประชากรที่ไม่สอดคล้องกับของออสเตรเลีย จึงอาจใช้งานได้ไม่ดีนักกับบางกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้ลี้ภัย ผู้อพยพเพศหญิง หรือชาวอะบอริจิน”

ขณะนี้ มีการเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียกำกับดูแลการใช้ AI ในการสรรหาบุคลากรอย่างจริงจัง

แคทเธอรีน ฮันเตอร์ ผู้บริหารของ Diversity Council Australia กล่าวว่า

“ด้วยอัตราการใช้งานที่สูงและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เรากังวลว่าองค์กรที่ใช้ AI ยังไม่ได้พิจารณาประเด็นจริยธรรมอย่างรอบด้าน”

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่านายจ้างควรมีความรับผิดชอบ และเปิดเผยกระบวนการอย่างโปร่งใส และควรมั่นใจว่าอัลกอริทึมของตนจะไม่ก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการจ้างงาน

ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

ฟังพอดคาสต์ของเอสบีเอส ไทยผ่านแอปพลิเคชัน SBS Audio ดาวน์โหลดจาก Apple Store หรือจาก Google Play  

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
AI ในระบบจัดหางาน เทคโนโลยีล้ำหน้าหรือว่าอคติรูปแบบใหม่? | SBS Thai