สุลี ดาวน์ สมาชิกชุมชนไทยที่อาศัยอยู่ในนครเมลเบิร์น ใช้กีฬาลอนโบวล์เป็นกิจกรรมหลักที่ช่วยให้เธอสร้างเครือข่ายทางสังคม เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น และปรับตัวเข้ากับชีวิตในออสเตรเลีย
หลังจากเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้เมื่อปี 2010 ขณะกำลังเรียนปริญญาเอกและทำหน้าที่แม่บ้าน เธอพัฒนาทักษะจนสามารถขึ้นมาแข่งขันในดิวิชัน 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในระดับสูงของลีกลอนโบวล์รัฐวิกตอเรีย
ลอนโบวล์ (Lawn bowl) เล่นยังไง
สุลี เล่าว่า ลอนโบวล์เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในประเทศเครือจักรภพอังกฤษ มีต้นกำเนิดจากสหราอาณาจักรและแพร่กระจายสู่ประเทศอาณานิคม กีฬานี้เล่นบนสนามหญ้าขนาดโดยประมาณความยาว 35 เมตร และกว้างประมาณ 30 เมตร ผู้เล่นหนึ่งคนใช้ลูกโบวล์ 4 ลูกที่มีน้ำหนักเกือบหนึ่งกิโลกรัม ลูกทำจากเมลามีนคุณภาพสูงและมีหลายขนาด ราคาโดยเฉลี่ยชุดละ 650–950 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
หัวใจของการแข่งขันคือการโยนลูกให้ใกล้ “ลูกแจ็ค” ซึ่งเป็นลูกสีขาวขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เป็นเป้าหมาย ลูกโบวล์มีน้ำหนักด้านหนึ่ง ทำให้เมื่อโยนออกไป ลูกจะโค้งก่อนแล้วจึงค่อยอ้อมกลับมาที่แจ็ค ผู้เล่นต้องกะทิศทาง ระยะ และความแรงให้แม่นยำ โดยเฉพาะในสภาพสนามที่ต่างกัน เช่น ลม แสงแดด หรือพื้นหญ้าที่แข็งนิ่มไม่เท่ากัน
สุลีกล่าวว่าในช่วงแรกเธอไม่เข้าใจกติกาและเทคนิคใด ๆ
“ตอนเริ่มเล่นเราไม่มีความรู้เลยค่ะ ทีมขาดคนก็โทรมาชวนให้ไปช่วย พอโยนครั้งแรกถึงรู้ว่าลูกมันไม่ได้ไปตรง ๆ มันโค้งออกไปแล้วค่อยกลับมา การกะระยะค่อนข้างยากมาก”
คลับแรกที่เธอเข้าร่วมเป็นคลับขนาดเล็กในย่าน Fairfield ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่มีโค้ชประจำ ทุกอย่างอาศัยอาสาสมัครของชุมชน เธอเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งการดูผู้เล่นอื่น การถามคำแนะนำจากสมาชิกอาวุโส รวมถึงอ่านหนังสือเทคนิคต่าง ๆ

ปัจจุบัน สุลี ดาวน์พัฒนาทักษะจนสามารถขึ้นมาเป็นนักกีฬาที่แข่งขันในดิวิชัน 2 Credit: Supplied/Sulee Down
จาก Lower side สู่ top side
สุลีกล่าวถึงแรงบันดาลใจช่วงแรกว่า
“มีคุณยายคนหนึ่งอายุ 95 แล้วยังเล่นอยู่ และเป็นแชมป์ตั้ง 17 สมัย แกสอนเราฟรี เราได้เรียนรู้จากคนรุ่นเก่าที่มีทักษะสูงมาก”
หลังจากเล่นหลายปี เธอไต่ระดับจาก “โลเวอร์ไซต์” ขึ้นสู่ “ท็อปไซต์” ของคลับ ก่อนตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ Stanley Club คลับขนาดใหญ่ที่มีสนามสามสนาม และมีทั้งโค้ชอาชีพและโค้ชอาสาสมัคร ซึ่งช่วยให้เธอได้เห็นรูปแบบการแข่งขันระดับสูงของพรีเมียร์ดิวิชันและพัฒนาทักษะของตนเองอย่างต่อเนื่อง
สุลีกล่าวว่า
“พอมาอยู่คลับใหญ่ ได้เห็นผู้เล่นระดับพรีเมียร์ดิวิชันว่าเขาเล่นกันยังไง ทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น จนตอนนี้เราเล่นทุกอังคาร พุธ เสาร์ และซ้อมวันพฤหัสแทบทุกสัปดาห์”
ฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมของสุลีลงแข่งขันในดิวิชัน 3 และผ่านเข้าสู่รอบไฟนอล ก่อนชนะเลิศและเลื่อนขึ้นสู่ดิวิชัน 2 ในปีนี้
“ปีที่แล้วเราได้แชมป์ดิวิชันทรีค่ะ ปีนี้ก็เลยขึ้นมาอยู่ดิวิชันทู ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราในฐานะคนต่างชาติที่เริ่มจากศูนย์”
การแข่งขันที่นิยมที่สุดในออสเตรเลียคือ “เพนแนนท์” ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอังคารและวันเสาร์นานกว่า 5 เดือนในหนึ่งฤดูกาล ทีมนึงมีผู้เล่น 16 คน แบ่งเป็น 4 ทีมย่อย โดยแต่ละทีมจะมีบทบาทต่างกัน เช่น ผู้โยนนำ มือสอง มือสาม และกัปตันที่รับหน้าที่สรุปคะแนน การรวมคะแนนทั้งสี่ทีมจะเป็นคะแนนของดิวิชันนั้น
ลอนโบลส์กับการเชื่อมสังคมออสเตรเลีย
นอกจากการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือพัฒนาทักษะ สุลีกล่าวว่าลอนโบวล์ยังช่วยให้เธอเข้าถึงสังคมออสเตรเลียมากขึ้น
“คนที่นี่จะเริ่มคุยกันเรื่องกีฬาเป็นหลักก่อน กว่าที่จะเริ่มสนิทและคุยเรื่องส่วนตัวมันค่อนข้างใช้เวลา แต่พอรู้จักกันแล้ว ทุกคนค่อนข้างน่ารักค่ะ”
สุลีระบุว่าการแข่งขันในดิวิชันสูงส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและแทบไม่มีผู้เล่นเชื้อสายเอเชีย
“อยู่ที่นี่ห้าปีแทบไม่เห็นคนเอเชียเลยค่ะ มีคนอินเดียแต่เขาเกิดที่นี่ ส่วนผู้เล่นไทยก็มีเราอยู่คนเดียว”
ในด้านประโยชน์ส่วนตัว ลอนโบวล์ช่วยให้เธอพัฒนาความนิ่งและสมาธิในการแข่งขัน
“สมาธิเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้ไหวไปตามลมหรือฝน การแข่งลอนโบวล์จริง ๆ แล้วเหมือนแข่งกับตัวเองมากกว่า”
กีฬาช่วยผู้ย้ายมาใหม่เชื่อมสังคมออสเตรเลียได้อย่างไร
สุลีกล่าวว่ากีฬานี้เหมาะสำหรับคนไทยที่ต้องการทั้งการออกกำลังกายและการเข้าสังคม โดยเฉพาะผู้ที่ย้ายมาใหม่
“คลับลอนโบวล์อยู่แทบทุกชุมชนค่ะ ประมาณสองพันกว่าคลับทั่วออสเตรเลีย คนเล่นแบบลงทะเบียนจริงจังราวสองแสนห้าหมื่น และคนเล่นแบบโซเชียลประมาณห้าแสน”
ภาพจำว่าลอนโบวล์เป็นกีฬาผู้สูงอายุเริ่มไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน
“ตอนนี้เด็กเล็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 เข้ามาเล่นเยอะมากค่ะ หลายคนเล่นเก่งมาก กีฬาไม่ได้จำกัดแค่ผู้สูงอายุอีกต่อไป”
นอกจากการออกกำลังกายแบบไม่ใช้แรงสูง หนึ่งเกมใช้เวลาราวสามชั่วโมงและช่วยบริหารข้อต่อต่าง ๆ ผู้เล่นยังได้ประโยชน์ทางสังคมจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในคลับ เช่น ร้านอาหาร บาร์ และงานชุมชน
สุลีกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ถ้าใครรู้สึกโดดเดี่ยวหรือหาเพื่อนไม่ได้ กีฬาเป็นทางเลือกที่ดีมากค่ะ ลองเดินเข้าไปที่คลับใกล้บ้านดู จะได้ทั้งเพื่อนใหม่และสังคมใหม่ไปพร้อมกัน”





