เจาะงบประมาณออสเตรเลียปีล่าสุด: บรรเทาค่าครองชีพ-หนุนเศรษฐกิจ พร้อมเสียงสะท้อนจากนักวิชาการไทย

FEDERAL BUDGET 2025

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จิม ชาลเมอร์ส แถลงงบประมาณกลางปี 2025–26 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา กรุงแคนเบอร์รา เมื่อวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 (AAP Image/Mick Tsikas) NO ARCHIVING Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

รัฐบาลกลางออสเตรเลียได้แถลงรายงานงบประมาณกลางปี 2025–26 ที่รัฐสภาในวันอังคารที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เอสบีเอสไทยมีรายงานเนื้อหาสาระหลักของรายงานงบประมาณฉบับนี้พร้อมการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจากนักวิชาการคนไทยในออสเตรเลีย


รัฐบาลพรรคแรงงานประกาศงบประมาณงบประมาณกลางปี 2025–26 ก่อนครบวาระแรกในวานนี้ (25 มี.ค.) โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จิม ชาลเมอร์ส กล่าวว่าหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการลดหย่อนภาษีเงินได้   ซึ่งเขาแถลงว่า

“ผู้เสียภาษีทุกคนในออสเตรเลียจะได้ลดหย่อนภาษีต่อเนื่องในปีหน้าและปีถัดไปนโยบายนี้เสริมจากการลดภาษีที่เริ่มไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม และจะทำให้อัตราภาษีขั้นแรกต่ำที่สุดในรอบกว่า 50 ปี”

สำหรับผู้มีรายได้ระหว่าง 18,201 ถึง 45,000 ดอลลาร์ ส่วนปีหน้าอัตราภาษีจะลดจาก 16% เหลือ 15% และในปีถัดไปจะลดลงอีกเหลือ 14%

และสำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน 45,000 ดอลลาร์ต่อปี จะได้รับเงินคืนภาษีเพิ่มขึ้นปีละ 268 ดอลลาร์ และเพิ่มเป็น 536 ดอลลาร์ ในปีถัดไป
รัฐมนตรีคลัง ยังระบุว่า นี่เป็นการต่อยอดจากมาตรการลดค่าครองชีพที่เริ่มใช้ไปแล้ว เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับทุกครัวเรือน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังทุ่มงบ 8.5 พันล้านดอลลาร์ เสริมบริการ bulk billing หรือการรักษาฟรีผ่าน Medicare และ ลดราคายา ภายใต้โครงการสิทธิประโยชน์ด้านเวชกรรม (PBS) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของประชาชน

แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือหลายด้าน แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากปัจจัยภายนอก เช่นสงครามในต่างประเทศ ดร.จิม ชาลเมอร์ส กล่าวว่า

“เรายังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจระดับโลก ทั้งสงครามในยุโรปตะวันออก ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความเสี่ยงของสงครามการค้าโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น"

พร้อมชี้ว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเหมือนในอดีต แต่เป็นความท้าทายที่ต่อเนื่องมาตลอดยุค 2020 ตั้งแต่โควิด-19 ไปจนถึงวิกฤตเงินเฟ้อและสถานการณ์โลกในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามรัฐบาลคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือ 2.5% ในปีนี้ ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นราว 3% ด้านงบประมาณที่มีการรายงานว่ายังคงขาดดุล โดยปีนี้คาดว่าจะติดลบกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์และอาจยังอยู่ในภาวะขาดดุลต่อเนื่องไปอีกนานนับสิบปี

มุมมองจากนักวิชาการ

เอสบีเอสไทย ยังได้ไปสัมภาษณ์มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและนวัตกรรม ดร.วันนิวัติ ปันสุวงค์ จาก University of South Australia ที่จะมาช่วยวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจของรัฐบาล มาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงนโยบาย Buy Australian ที่ถูกพูดถึงอีกครั้งในเวทีงบประมาณปีนี้

ดร.วันนิวัติ ชี้ว่าการรายงานงบประมาณของรัฐบาลกลางน่าจะมุ่งเน้นการแก้ไขเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย มาตรการภาษี และการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก

“การรายงานงบประมาณของรัฐบาลของอัลบานีซีที่น่าจับตามองคือเรื่องของ Housing Price เป็นเรื่องของ cost ที่จะเกิดขึ้นในเรื่องของภาวะที่เราหาบ้านยาก ทําให้เกิดวิกฤตเรื่องของที่อยู่อาศัย"

"สองคือเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่การเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังไม่ทันเท่ากับของความผันผวนที่เกิดขึ้น รัฐบาลน่าจะมีการใช้มาตรการทางด้านภาษีที่ไปช่วยบรรเทาให้ภาคเอกชนสามารถลดต้นทุนในการผลิตให้ถูกลงเพื่อให้ราคาสินค้าที่จะขายให้ผู้บริโภคถูกลงและจะทำอย่างไรให้ทําให้ธุรกิจเล็กๆ เหล่านี้สามารถขยายตัวและผลิตได้อย่างต่อเนื่อง”

ดร. วันนิวัติยังแนะนำว่ารัฐบาลต้องมีมาตรการที่เข้ามาสนับสนุนให้เรื่องของต้นทุนพลังงานรวมถึงมีนโยบายตั้งรับในการส่งออกสินค้าไม่ยังต่างประเทศ

“เรื่องของexport ที่ อาจจะต้องมีการตั้งรับนิดนึงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติในอนาคต ก็จะส่งผลกระทบทําให้ภาวะเงินเฟ้อหนักขึ้น ค่าครองชีพของประชาชนก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเพราะว่าสินค้าส่งออกไปได้น้อยลง ราคาสินค้าของที่ส่งออกไปต่างประเทศก็จะสูงขึ้น"

"ที่สําคัญคือในเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายทางด้านเรื่องของพลังงาน ซึ่งภาคธุรกิจส่งเสียมาว่าทำให้ต้นทุนพลังงานสูงซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูงตามไปด้วย รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้น”

ในประเด็นการรณรงค์การซื้อสินค้าในประเทศเช่น Buy Australian ที่รัฐบาลจะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศโดยการสนับสนุนให้ประชาชนซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในออสเตรเลียภายใต้แนวคิดปลุกจิตสำนึกรักชาตินั้นคาดว่าจะประสบความสำเร็จเพียงใดในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ดร. วันนิวัติ ให้ความเห็นว่า

“ยุคของคนรุ่นใหม่เนี่ยไม่ได้มีความตระหนักรู้ถึงเรื่องของการรักชาติเหมือนเมื่อก่อน และตัวแปรที่สําคัญที่สุดก็คือการพฤติกรรมสาธารณูปโภคของคนมันขึ้นอยู่กับกําลังการซื้อเป็นหลัก"

"โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ค่าครองชีพ เงินกู้อัตราดอกเบี้ยจ่ายค่าบ้านที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการเอาไปทานข้าว การใช้ชีวิตนอกบ้าน มันมีราคาของดัชนีสินค้าที่คนต้องใช้จ่ายในราคาที่สูงขึ้นมันเลยทําให้การตัดสินใจของคนในการซื้อของจะเน้นไปที่สินค้าที่มีคุณภาพที่รับได้ ราคาที่ถูกกว่า”

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand