ประเด็นสำคัญ
- ร่างกฎหมาย “Payday Superannuation” กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนซูเปอร์แอนนูเอชัน ในวันเดียวกับที่จ่ายเงินเดือน ให้พนักงาน
- กลุ่มองค์กรด้านสิทธิแรงงานและผู้สนับสนุนการปฏิรูป เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ แต่ก็แสดงความกังวลต่อมาตรการบางอย่างที่ถูกตัดออกจากร่างสุดท้าย
- นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การปฏิรูปครั้งนี้ควรมีเป้าหมายครอบคลุมด้านอื่นๆ มากกว่าการป้องกัน การจ่ายซูเปอร์ฯ ล่าช้า เท่านั้น
รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้ากองทุนซูเปอร์แอนนูเอชัน ซึ่งหลายฝ่ายชื่นชมว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” สำหรับคนทำงาน แต่ก็มีความกังวลตามมาหลังจากที่ มาตรการคุ้มครองผู้บริโภคบางส่วนถูกตัดออกจากกฎหมายฉบับสุดท้าย
ร่างกฎหมาย Payday Superannuation Bill ที่ผ่านการรับรองโดยรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนซูเปอร์ฯ พร้อมกับวันที่จ่ายเงินเดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2026
ตามกฎหมายปัจจุบัน นายจ้างสามารถจ่ายเงินเข้ากองทุนซูเปอร์ฯ ได้ อย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง
หรือภายในวันครบกำหนดของแต่ละไตรมาส แต่เมื่อกฎหมายใหม่เริ่มใช้ นายจ้างจะต้องจ่ายซูเปอร์ฯ ทุกครั้งที่จ่ายค่าแรงให้ลูกจ้าง
จากคำแถลงร่วมของ นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายแดเนียล มูลิโน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า
ในกรณีทั่วไป หากลูกจ้างวัย 35 ปี ไม่ได้รับการจ่ายเงินซูเปอร์ฯ ครบตามสิทธิ์ แต่สามารถเรียกคืนเงินส่วนนั้นได้สำเร็จ
ยอดเงินออมเพื่อการเกษียณของกลุ่มคนดังกล่าวจะ เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (คิดตามมูลค่าเงินปัจจุบัน)
“การเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่”
กลุ่มองค์กรด้านซูเปอร์แอนนูเอชันหลายแห่ง เช่น สมาคมกองทุนซูเปอร์แอนนูเอชันแห่งออสเตรเลีย (Association of Superannuation Funds of Australia), Super Members Council (SMC) และ Super Consumers Australia ต่างออกมาแสดงการสนับสนุนต่อร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้โดยส่วนใหญ่
มีชา ชูเบิร์ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SMC กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ว่า
“นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคนทำงานทั่วประเทศจะได้รับเงินซูเปอร์ฯ ครบทุกดอลลาร์ที่พวกเขามีสิทธิ์ได้รับ ไม่ถูกค้างจ่ายหรือสูญหายไปอีกต่อไป”
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า
“กฎหมายฉบับนี้จะทำให้การติดตาม การจ่ายเงินซูเปอร์ฯ ที่ค้างชำระหรือขาดหาย เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก” และยังเสริมว่า
“ยิ่งเงินเข้ากองทุนซูเปอร์ฯ เร็วเท่าไร และถูกนำไปลงทุนแทนคุณได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้คุณได้เร็วขึ้นเท่านั้น”
อ่านเพิ่มเติม

ผู้หญิงส่วนใหญ่มีเงินซูเปอร์น้อยกว่าผู้ชายถึง 1 ใน 3
อย่างไรก็ตามก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับ ข้อเสนอด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะถูกบรรจุไว้ในร่างกฎหมายฉบับนี้ แต่สุดท้ายกลับ ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกฎหมายฉบับที่ผ่านรัฐสภา
มาตรการอะไรที่ถูกตัดออกจากร่างกฎหมาย?
จากรายงานของกระทรวงการคลังออสเตรเลีย เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับมาตรการ Payday Super
ได้เสนอแนะให้ จำกัดการโฆษณาของกองทุนซูเปอร์แอนนูเอชัน (super funds) ในขั้นตอนการรับพนักงานใหม่ (employee onboarding)
โดยประเมินว่ามาตรการนี้จะสร้างประโยชน์สุทธิให้กับเศรษฐกิจปีละประมาณ 20 ล้าน–167 ล้านดอลลาร์
รายงานฉบับเดียวกันยังเสนอให้ปรับปรุงขั้นตอน onboarding เพื่อให้ลูกจ้างได้รับข้อมูลว่า
พวกเขามี กองทุนซูเปอร์ฯ เดิม (existing stapled fund) อยู่แล้วหรือไม่ โดยประมาณว่ามีลูกจ้างใหม่ราว 325,000 คนต่อปี ที่เข้าร่วมกองทุนซูเปอร์ฯ ใหม่จากการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสมัครงาน
แบบจำลองในรายงานระบุว่า หากมีการห้ามโฆษณา จะช่วย ลดจำนวนบัญชีกองทุนซูเปอร์ฯ ซ้ำซ้อน และทำให้ลูกจ้างมียอดเงินออมเพิ่มขึ้นรวมระหว่าง 16 ล้านถึง 280 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายบัญชี
แต่ในอีกด้านหนึ่ง รายงานก็ชี้ว่าการห้ามดังกล่าวอาจทำให้ นายจ้างมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 234 ล้านดอลลาร์ต่อปี
กลุ่มผู้สนับสนุนด้านสิทธิผู้บริโภคให้เหตุผลว่า ข้อเสนอนี้ หากถูกรวมไว้ในกฎหมาย จะช่วยลดจำนวนผู้ที่ถือหลายบัญชีซูเปอร์ฯ และช่วยให้ประชาชนออมเพื่อวัยเกษียณได้มากขึ้น
จากข้อมูลจาก สำนักงานภาษีออสเตรเลีย (Australian Taxation Office) ระบุว่า ณ เดือนมิถุนายน 2025 มีชาวออสเตรเลียราว 21% ที่ถือบัญชีซูเปอร์แอนนูเอชันมากกว่าหนึ่งบัญชี
อ่านเพิ่มเติม

ATO Tax Talk: เงินเกษียณ (ซูเปอร์แอนนูเอชัน)
ซาเวียร์ โอ’ฮัลโลแรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กร Super Consumers Australia กล่าวว่า การปฏิรูปซูเปอร์แอนนูเอชันครั้งนี้ มีเป้าหมายมากกว่าการป้องกันการจ่ายเงินล่าช้า
“กฎหมายนี้ตั้งใจจะหยุดไม่ให้คนถูกชักจูงให้เปิดบัญชีซูเปอร์ฯ ซ้ำโดยไม่รู้ตัว แต่ส่วนสำคัญตรงนั้นกลับถูกตัดออกไป” เขากล่าว
เขาเสริมว่า
“ตอนนี้เรามีการปฏิรูปที่ยังไม่สมบูรณ์ แม้คนทำงานจะได้รับเงินซูเปอร์ฯ เร็วขึ้น แต่หลายคนก็ยังคงถูกชักจูงให้เปิดหลายบัญชี ซึ่งจะทำให้พวกเขา สูญเสียเงินเกษียณไปหลายหมื่นดอลลาร์ในระยะยาว”
ชูเบิร์ต กล่าวว่า เธออยากเห็นมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในขั้นตอนการรับพนักงานใหม่ (onboarding protections) เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 พร้อมกับมาตรการอื่น ๆ ที่อยู่ในร่างกฎหมายฉบับเดียวกัน
“มาตรการนี้สำคัญต่อทั้งผู้บริโภคและนายจ้าง เพราะการมีระบบคุ้มครองตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้กฎใหม่ที่เรียกว่า payday super” เธอกล่าว ชูเบิรต์ยังเสริมว่า
“สิ่งสำคัญคือ ผู้คนต้องเข้าใจว่าเมื่อเปลี่ยนงานใหม่พวกเขามีสิทธิ์ที่จะใช้กองทุนซูเปอร์ฯ เดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้พนักงานเปิดบัญชีใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนงาน และสุดท้ายต้องเสียค่าธรรมเนียมมากขึ้นจากการถือหลายบัญชีพร้อมกัน”
ขณะเดียวกัน แมรี เดลาฮันตี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ สมาคมกองทุนซูเปอร์แอนนูเอชันแห่งออสเตรเลีย (Association of Superannuation Funds of Australia) กล่าวเพิ่มเติมว่า
“ในระบบซูเปอร์ฯ ยังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงอีกมาก เราไม่สามารถดำเนินการทุกอย่างได้ครบถ้วนในการปฎิรูปครั้งเดียว”
เธอกล่าวว่า
“เราจะยังคงทำงานร่วมกับผู้กำหนดนโยบาย เพื่อเสริมสร้างกรอบการเปิดเผยข้อมูล (disclosure frameworks) และปรับปรุงผลลัพธ์ด้านการเกษียณให้ดียิ่งขึ้นสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคน”
เอสบีเอสนิวส์ ได้ติดต่อไปยังกระทรวงการคลังเพื่อขอความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว




