สมาคมกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งออสเตรเลีย (ASFA) ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเกษียณอายุอย่างสุขสบายนั้นสูงกว่าที่เคย
แมรี เดลาฮันตี ผู้อำนวยการของสมาคมฯ กล่าวว่า โชคดีที่ยอดเงินคงเหลือเฉลี่ยในบัญชีซูเปอร์ฯก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ยอดเงินคงเหลือเฉลี่ยอยู่ที่ 172,834 ดอลลาร์ สำหรับผู้ถือบัญชีเงินบำนาญเกือบ 18 ล้านคนที่มีอายุมากกว่า 15 ปี ส่วนผู้ที่มีอายุ 65 ถึง 69 ปี ยอดเงินคงเหลือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 420,934 ดอลลาร์
“ชาวออสเตรเลียจำนวนมากกว่าแต่ก่อนที่กำลังก้าวสู่วัยเกษียณพร้อมกับเงินบำนาญที่เพียงพอ” เธอกล่าว
แต่ชาวออสเตรเลียหลายคนอาจไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เกษียณอย่างไม่ลำบากในออสเตรเลีย ต้องใช้เงินปีละเท่าไหร่ในตอนนี้?
ด้วยค่าครองชีพที่สูงลิ่วสร้างแรงกดดันให้กับครอบครัว และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ทำให้ชาวออสเตรเลียวิตกกังวล คู่มือฉบับใหม่สองเล่มได้สรุปจำนวนเงินที่คุณต้องใช้ในการดำรงชีวิตหลังเกษียณ
แล้วคุณจะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
มีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อจำนวนเงินที่คุณควรมี เช่น สิทธิ์ในการรับเงินบำนาญผู้สูงอายุ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ และสภาพความเป็นอยู่ของคุณ
การคำนวณส่วนใหญ่จะพิจารณาทางเลือกงบประมาณที่พอเหมาะกว่าเมื่อเทียบกับการมีไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายกว่า ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น การเดินทางไปต่างประเทศและการสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่ง
จากข้อมูลของ ASFA เจ้าของบ้านที่แต่งงานแล้วที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะต้องใช้เงิน 76,505 ดอลลาร์ต่อปีเพื่อใช้ชีวิตอย่างสุขสบายหลังเกษียณ
ส่วนคนโสดจะต้องใช้เงินประมาณ 54,240 ดอลลาร์ต่อปี

Source: SBS
ประเมินว่าผู้เกษียณอายุที่อายุมากกว่า 85 ปีและมีบ้านเป็นของตัวเองจะต้องการเงินน้อยลง โดยประมาณการไว้ที่ 71,104 ดอลลาร์สำหรับคู่สมรส และ 47,534 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับบุคคลโสด
ทว่านี่เป็นการประมาณการแยกต่างหากจาก Super Consumers Australia ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานด้านเงินซูเปอร์ฯสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยชี้ให้เห็นว่าเจ้าของบ้านคนเดียวโดยทั่วไปจะต้องมีเงินสะสมเพื่อการเกษียณอายุอย่างสุขสบายประมาณ 322,000 ดอลลาร์
ส่วนคู่สมรสจะต้องมีเงินสะสมรวมกัน 432,000 ดอลลาร์

Source: SBS
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอาจต้องใช้เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพน้อยลงกว่านั้นเพื่อให้มีเงินเกษียณที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีบ้านเป็นของตัวเอง
โจอี้ โมโลนีย์ รองผู้อำนวยการโครงการที่อยู่อาศัยและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสถาบันแกรตตัน เคยให้สัมภาษณ์กับเอสบีเอสนิวส์ว่าค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในการเกษียณอายุอาจต่ำกว่านี้ เนื่องจากผู้เกษียณอายุมักจะใช้จ่ายน้อยลงเมื่อเลิกทำงาน
“เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้คนตั้งแต่ก่อนเกษียณจนถึงหลังเกษียณ คุณจะเห็นได้ว่าผู้คนใช้จ่ายน้อยลงในช่วงเกษียณ และยิ่งใช้จ่ายลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงเกษียณ” เขากล่าว
“ผู้รับบำนาญได้รับประโยชน์จากส่วนลดมากมายสำหรับค่าธรรมเนียมท้องถิ่น ค่าไฟฟ้า ค่ายา และสวัสดิการอื่นๆ ซึ่งรวมกันแล้วมีรายเงินได้แฝงที่ได้คืนกลับมาหลายพันดอลลาร์ต่อปี”
ราคาสินค้าส่วนไหนเพิ่มขึ้นมากที่สุด?
ด้วยดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่3 และเพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ในรอบปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องใช้เงินมากขึ้นกับของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน
เฉพาะในไตรมาส3 เพียงไตรมาสเดียว ราคาค่าไฟก็เพิ่มขึ้นถึง 9%
ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 25%
ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการทานอาหารนอกบ้านก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1.3% ขณะที่ผู้ที่อยู่บ้านจ่ายค่าบริการสื่อเพิ่มขึ้น 9.3%
เดลาฮันตีกล่าวว่าช่วงวันหยุดจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับผู้เกษียณอายุหลายคน เพราะราคาสินค้าที่พวกเขาใช้จ่ายมากที่สุด อย่างเช่น "อาหาร พลังงาน และสุขภาพ" พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เธอกล่าวว่า "ผู้สูงอายุบางคนอาจลดค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อของขวัญ การเดินทางท่องเที่ยว การเข้าสังคมลง เพื่อให้สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายพื้นฐานได้”
เธอชี้ให้เห็นถึงการปฏิรูปล่าสุด รวมถึงการเปลี่ยนไปใช้เงินออมเพื่อการเกษียณที่ 12 เปอร์เซ็นต์และเงินออมเพื่อการเกษียณแบบ Payday Super ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น
ความท้าทายในขณะนี้คือการเสริมสร้างระบบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้ชาวออสเตรเลียทุกคนมีโอกาสที่ดีที่สุดในการเกษียณอายุอย่างสุขสบายและสง่างาม ไม่ใช่แค่ในช่วงคริสต์มาส แต่ตลอดทั้งปี"
Share




