นี่คือชานเมืองออสเตรเลียที่โตเร็ว ราคาบ้านพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

รายงานฉบับใหม่ระบุว่าตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาสนี้กลับมาพุ่งแรง มาดูกันว่าชานเมืองใดมีการเติบโตสูงสุด

The roofs of houses and a city skyline.

ซิดนีย์ บริสเบน (ในภาพ) และเมลเบิร์นมีราคาบ้านเฉลี่ยสูงกว่า 1 ล้าน ในขณะที่เพิร์ธและแอดิเลดก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน Source: AAP / Darren England


ราคาบ้านในออสเตรเลียพุ่งสูงสุดในรอบเกือบสี่ปี โดยซิดนีย์ แอดิเลด บริสเบน และเพิร์ธมีอัตราเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่แรงกดดันด้านความสามารถในการซื้อที่เพิ่มขึ้นกำลังเปลี่ยนทิศทางความต้องการของผู้ซื้อ

รายงานราคาบ้านรายไตรมาสล่าสุดของโดเมน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นว่าราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบว่าในซิดนีย์ (1,751,728 ดอลลาร์) บริสเบน (1,101,114 ดอลลาร์) และเมลเบิร์น (1,083,043 ดอลลาร์) แอดิเลด (1,048,773 ดอลลาร์) และเพิร์ธ (981,259 ดอลลาร์)

ในไตรมาสที่สาม บริสเบนเป็นเมืองที่มีราคาบ้านแพงเป็นอันดับสองของออสเตรเลีย หลังจากราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งขึ้น 3.7% แซงหน้าแคนเบอร์รา ที่ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองหลวงที่มีราคาบ้านแพงเป็นอันดับสามของประเทศ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,100,392 ดอลลาร์

ในขณะที่เมืองแอดิเลด ดาร์วิน บริสเบน และเพิร์ธ ราคาต่อหน่วยเติบโตแซงหน้าราคาบ้าน ซึ่งโดเมนระบุว่า ผู้ซื้อบ้านหลังแรกและนักลงทุนมุ่งมั่นที่จะแสวงหาความคุ้มค่าและความสามารถในการซื้อในตลาดที่ตึงตัว

บริสเบนและซิดนีย์พุ่งสูงขึ้น

ราคาอสังหาริมทรัพย์ในบริสเบนพุ่งสูงขึ้น โดยบ้านในเขตชานเมืองชายฝั่งอย่างเบิร์กเดล (Birkdale) และโลตา (Lota) เพิ่มขึ้นมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สู่ระดับ 1 ล้านดอลลาร์

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นยังสะท้อนให้เห็นจากการเติบโตของราคาที่อยู่อาศัยในเขตท้องถิ่นของรัฐควีนส์แลนด์ โดยราคาอสังหาริมทรัพย์ในเซ็นทรัลไฮแลนด์ส (Central Highlands) เพิ่มขึ้น 33.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮินชินบรูค (Hinchinbrook) ชานเมือง Cassowary Coast พุ่งสูงขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์

ชมภาพด้านล่างเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคาบ้านในแต่ละรัฐและเขตปกครอง
A GIF shows the suburbs whose house prices have increased the most over the past quarter, for each capital city.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเมืองหลวงทั่วออสเตรเลีย ตามรายงานราคาบ้านล่าสุดจาก Domain Source: SBS
นิโคลา พาว หัวหน้าฝ่ายวิจัยและเศรษฐศาสตร์ของ Domain กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเกณฑ์ของ "ความสามารถในการซื้อ" ตลาดอย่างบริสเบนและเพิร์ธ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยดึงดูดผู้ซื้อบ้านหลังแรกได้มาก กลับถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีราคาบ้านเฉลี่ยสูงสุดของออสเตรเลีย

“ความสามารถในการซื้อได้ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ เราเคยมองว่าตลาดอย่างบริสเบนเป็นตลาดที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า และตอนนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในลำดับชั้นราคา” พาวกล่าวกับ SBS News

“ความสามารถในการกู้ยืมค่อยๆ ลดลงเมื่อเผชิญกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้น และสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย”

ทว่าพาวชี้ไปที่เมลเบิร์นว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ผู้ซื้อบ้านหลังแรกยังคงได้ประโยชน์จากมูลค่าเพิ่มของตลาด

“เราอาจเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อพยพใหม่ที่มักจะย้ายถิ่นฐานมาที่ซิดนีย์ ฉันคิดว่าสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก เมลเบิร์นน่าจะเริ่มน่าดึงดูดใจมากขึ้น” เธอกล่าว

ราคาขายต่อหน่วยในบริสเบนเพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสนี้ ทำให้ราคาเฉลี่ยมากกว่า 700,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเป็นอันดับสองในออสเตรเลีย แซงหน้าเมลเบิร์นที่มีราคาเกือบ 600,000 ดอลลาร์

ดูภาพด้านล่างเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคาต่อหน่วยในแต่ละรัฐและเขตปกครอง
A GIF displays a chart showing the median unit price in each Australian capital city, along with the annual change in this median price.
ตามรายงานราคาบ้านล่าสุดของโดเมน การเติบโตของราคาของยูนิตกำลังแซงหน้าการเติบโตของราคาบ้านในบริสเบน แอดิเลด เพิร์ธ และดาร์วิน Source: SBS
ซิดนีย์เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในออสเตรเลียมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ราคาบ้านเฉลี่ยกลับพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

แคมเมอเรย์ (Cammeray ) ในนอร์ทซิดนีย์ครองอันดับหนึ่งในด้านการเติบโตของราคาบ้านสำหรับย่านชานเมือง โดยราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งขึ้น 29 เปอร์เซ็นต์ เป็น 3.4 ล้านดอลลาร์ ส่วนลิดคอมบ์ (Lidcombe) เมาท์พริตชาร์ด (Mount Pritchard) และแบงก์สทาวน์ (Bankstown) ต่างก็พุ่งขึ้นเป็นล้านๆ ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 21 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

สำหรับยูนิตในซิดนีย์ ชานเมืองที่มีการเติบโตของราคาอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดคือดาร์ลิงพอยต์ (Darling Point) โดยมีราคาเฉลี่ยเฉลี่ยเกือบ 3 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยบัลโกวลาห์ (Balgowlah) ในแมนลี (Manly) ที่ 1.3 ล้านดอลลาร์ และสแตนมอร์ (Stanmore)ในเขตอินเนอร์เวสต์ของเมือง ที่ 955,000 ดอลลาร์

ราคาบ้านเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดของซิดนีย์อยู่ที่เวอร์ริงตัน(Werrington) ซึ่งต่ำกว่า 800,000 ดอลลาร์เล็กน้อย และยูนิตที่ถูกที่สุดอยู่ที่เมาท์ดรูอิตต์ (Mount Druitt ) คาบรามัตตา (Cabramatta) แฟร์ฟิลด์(Fairfield) และวอร์วิกฟาร์ม (Warwick Farm) โดยมีมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 440,000 ดอลลาร์

ราคาบ้านเฉลี่ยที่สูงที่สุดในซิดนีย์อยู่ที่โวคลูส (Vaucluse) ซึ่งอยู่ที่ 7.8 ล้านดอลลาร์ บรอนเต(Bronte) 6 ล้านดอลลาร์ และมอสแมน (Mosman) 5.3 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านชานเมืองเหล่านี้จะสูง แต่การเติบโตด้านราคายังไม่มากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ราคาบ้านในเมลเบิร์นพุ่งสูงขึ้น

ราคาบ้านเฉลี่ยของเมลเบิร์นเพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับ 1.08 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราเติบโตรายไตรมาสที่สูงที่สุดในรอบเกือบสี่ปี

ในขณะที่ย่านชานเมืองราคาแพงบางแห่ง เช่น คาร์ลตันชั้นใน3 (inner-city Carlton) ซอร์เรนโต (Sorrento) และวินด์เซอร์ (Windsor ) ในเขตตอนใน-ใต้ แสดงให้เห็นถึง "ความสามารถในการซื้อที่ดีขึ้น" หรือราคาลดลง แต่ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์ในย่านชานเมือง เช่น ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) และบ็อกซ์ฮิลล์ ( Box Hill ) พุ่งสูงขึ้นเป็นหลายล้าน โดยเพิ่มขึ้น 25.9% และ 20.7% ต่อปีตามลำดับ
รายงานแสดงให้เห็นว่าราคาบ้านทั่วออสเตรเลียกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแรงกดดันด้านค่าครองชีพ ซึ่งตัวเลขล่าสุดจาก Cotality ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เปิดเผยว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของบ้านที่ขายได้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมามีราคา 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป

เคย์ทลิน เอซซี นักเศรษฐศาสตร์ของ Cotality กล่าวว่าราคาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 46.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก

“ครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ย 106,000 ดอลลาร์ และมีเงินฝาก 20 เปอร์เซ็นต์ จะต้องนำรายได้ก่อนหักภาษีมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ไปชำระหนี้สินเชื่อบ้านมูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์ฯ” เธอกล่าวกับ Australian Associated Press

หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ชานเมือง 195 แห่งทั่วออสเตรเลียก็พุ่งสูงขึ้นแตะระดับราคาเฉลี่ยล้านดอลลาร์

ในช่วงเวลาดังกล่าว ชานเมืองบริสเบน 38 แห่ง มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นหลายล้าน ส่งผลให้จำนวนตลาดที่มีมูลค่าเจ็ดหลักทั้งหมดของเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 205 แห่ง
พาวกล่าวว่าราคาที่พุ่งสูงขึ้นนั้นเกิดจากปัจจัยหลายประการรวมกัน

“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) สามครั้งในปีนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ปริมาณอุปทานที่ต่ำ และอัตราการเคลียร์การประมูลที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่าสองปี ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของราคาบ้านและยูนิตในเมืองหลวงต่างๆ ของออสเตรเลีย” เธอกล่าวในแถลงการณ์

“ด้วยโครงการค้ำประกันที่อยู่อาศัย 5 เปอร์เซ็นต์ของรัฐบาลออสเตรเลียที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ เราคาดว่าโมเมนตัมนี้จะเร่งตัวขึ้นอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะหนุนทั้งบ้านและยูนิต เนื่องจากผู้ซื้อต้องการซื้อบ้านในราคาที่ดีกว่าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง”

แต่พาวกล่าวกับ SBS News ว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดเกิดจากอำนาจการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและตลาดงานที่ “ค่อนข้างตึงตัว” ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

“เมื่อคุณเห็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น มันก็ส่งผลดีต่อหลายตลาด” เธอกล่าว


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Arielle Richards
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand