ประเด็นสำคัญ
- หน่วยงานสาธารณูปโภคในออสเตรเลียเตือนประชาชน เลี่ยงเทไขมัน น้ำมัน หรือคราบไขมันลงท่อระบายน้ำ โดย Sydney Water ระบุว่า “นม” ก็รวมอยู่ในกลุ่มของเหลวนี้ด้วย
- ไขมันในนมเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิด “fatbergs” หรือก้อนตะกรันไขมันอุดตันในท่อ ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการจัดการ
- โดยเฉพาะในนครซิดนีย์ ซึ่งมีปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันจากสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้เฉลี่ย มากถึง 1,300 ครั้งต่อเดือน
แม้นมจะเป็นของบริโภคประจำบ้าน แต่ด้วยอายุการเก็บรักษาที่สั้น ทำให้หลายคนในออสเตรเลียเคยเจอสถานการณ์ "นมเสีย" แล้วเททิ้งลงอ่างล้างจาน
ด้าน Sydney Water เตือนว่า การเทนมลงท่อเป็นวิธีทิ้งที่ผิด และอาจสร้างความเสียหายต่อระบบระบายน้ำ แม้นมจะดูเป็นของเหลวธรรมดา แต่ในความเป็นจริง ไขมันในนม เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของปัญหา FOG (Fat, Oil, Grease) ซึ่งสามารถจับตัวเป็นก้อนในท่อ และนำไปสู่การอุดตันที่ร้ายแรงได้

Sydney Water's principal manager environment, Ben Armstrong spoke to SBS News about a new campaign that will focus on fats, oils and grease contaminants that should not go into drains. Source: Supplied
อาหารหรือของเหลวทุกชนิดที่มีไขมัน เราไม่อยากให้ประชาชนเทลงท่อ”เบน อาร์มสตรอง
“มันจะสะสมจนกลายเป็นก้อนไขมัน หรือที่เราเรียกว่า ‘fatbergs’ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามากมายในระบบระบายน้ำ”
“Fatbergs” คือก้อนสะสมขนาดใหญ่ของสิ่งที่ ไม่ควรถูกเทลงท่อหรือล้างลงชักโครก เช่น กระดาษทิชชู่เปียก เศษอาหาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไขมัน น้ำมัน และคราบมัน (FOGs) ซึ่งเมื่อรวมกันจะเกาะตัวเป็นก้อนขนาดใหญ่ หนักหลายตัน และตักออกได้ยากมาก
เบน อาร์มสตรอง จาก Sydney Water เปิดเผยว่า จากผลสำรวจล่าสุด พบว่า 69% ของชาวซิดนีย์เข้าใจผิด คิดว่าสามารถเทนมหมดอายุลงท่อได้
“ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมาก เราจึงอยากกระตุ้นให้คนรู้ว่า ของที่ควรลงอ่างล้างจานมีแค่ ‘น้ำ สบู่ และน้ำยาล้างจาน’ เท่านั้น” เขากล่าว
“นี่เป็นเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้ และเผลอทำแบบนี้มานานโดยไม่รู้ตัว”

แม้การเทนมเพียงเล็กน้อยลงท่ออาจดูไม่เป็นอันตราย แต่ไขมันในนมก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของการอุดตัน ซึ่งเฉพาะในซิดนีย์เพียง 9 เดือนที่ผ่านมา ต้องใช้งบหลายล้านดอลลาร์ในการจัดการปัญหานี้ Source: Getty / Caner CIFTCI
เบน อาร์มสตรอง ย้ำว่าและสิ่งที่ควรทิ้งลงชักโครกควรมีเพียง “3P” เท่านั้นที่ควรถูกชำระลงไป ได้แก่ pee (ปัสสาวะ), poo (อุจจาระ), และ paper (กระดาษชำระ)
ส่วนในอ่างล้างจาน ก็ควรมีแค่ น้ำ สบู่ และน้ำยาทำความสะอาด
ก้อนไขมันทำให้ต้องยกเลิกคอนเสิร์ต
ในช่วง 9 เดือนก่อนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Sydney Water ต้องใช้งบกว่า 12 ล้านดอลลาร์ ในการจัดการกับปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันจาก "fatbergs" ถึง 11,805 ครั้ง และหากนับรวมค่าซ่อมแซมท่อที่แตกร้าวหรือเสียหายจากการอุดตัน ค่าใช้จ่ายจริงอาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
กรณีหนึ่งที่ถูกพูดถึงมาก คือเหตุการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ คอนเสิร์ตของศิลปินร็อกชื่อดัง Bryan Adams ต้องถูกยกเลิกกะทันหันที่สนาม Perth Arena เพราะระบบท่ออุดตันอย่างหนักจาก fatberg
หลังการยกเลิก การประปารัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแถลงว่า
“คอนเสิร์ตต้องยกเลิกเพราะมีความเสี่ยงที่ของเสียจะย้อนขึ้นมาภายในห้องน้ำของสถานที่จัดงาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสาธารณสุข”
ผลกระทบที่สะสมโดยไม่รู้ตัว
การเทนมเพียงเล็กน้อยลงอ่างล้างจานอาจดูไม่เป็นอันตราย แต่ในความเป็นจริง ระบบท่อระบายน้ำมีการเชื่อมต่อกันอย่างซับซ้อน
อ่านเพิ่มเติม

ทิ้งขยะอย่างไร ไม่ให้โดนปรับ
ศาสตราจารย์สจวร์ต ข่าน หัวหน้าคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยซิดนีย์ อธิบายกับเอสบีเอส นิวส์ ว่า ในนครใหญ่ ๆ อย่างซิดนีย์ ระบบระบายน้ำมี 2 ประเภทหลัก คือ
- ท่อระบายน้ำฝน (storm water)
- ท่อระบายน้ำเสีย (sewage drains)
โดยท่อระบายน้ำเสียคือระบบที่รับน้ำเสียจากทุกส่วนในบ้าน ทั้งจาก ชักโครก อ่างล้างจาน อ่างอาบน้ำ และฝักบัว แล้วส่งน้ำเสียเหล่านี้ไปยัง โรงบำบัดน้ำเสียผ่านท่อหลักใต้ดิน ที่เชื่อมต่อจากบ้านแต่ละหลังไปยังระบบรวมของเมือง
“มันเป็นเรื่องการสะสมพฤติกรรม ไม่ใช่แค่สิ่งที่คนคนหนึ่งทำ แต่คือพฤติกรรมของคนทั้งเมือง”
ข่านกล่าว พร้อมย้ำว่า
“ซิดนีย์มีคน 5.5 ล้านคน ถ้าทุกคนเทไขมันรวมถึงไขมันจากนมลงท่อ มันจะสะสมรวมกันและกลายเป็นปัญหาใหญ่ในจุดที่ท่อน้ำเสียไหลไปรวมกัน”
เขาจึงเน้นย้ำว่า แม้การกระทำเล็กน้อยอย่างการเทนมลงท่อจะดูไม่สำคัญ แต่หากทุกคนทำแบบเดียวกันกับระบบท่อระบายน้ำของเมืองทั้งเมืองก็จะต้องรับผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คนออสเตรเลียจำนวนมากอาจเคยเทนมเสียลงอ่างล้างจานโดยไม่ทันคิด แต่ไขมันในนมนั้นสามารถรวมตัวกับสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ในน้ำเสีย จนกลายเป็นก้อนอุดตันในระบบท่อระบายน้ำได้ Source: Getty / Robin Gentry
เมืองใหญ่ทั่วโลกเผชิญปัญหานี้
ศาสตราจารย์สจวร์ต ข่าน จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียอุดตันจากไขมัน ไม่ได้เกิดเฉพาะในออสเตรเลีย แต่เป็นปัญหาทั่วไปของเมืองใหญ่ทั่วโลก
“ทุกเมืองใหญ่ต่างก็ต้องรับมือกับปัญหานี้ มันส่งผลต่อค่าบำรุงรักษาระบบท่อ ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนกลับมาที่บิลค่าน้ำของผู้ใช้บริการ”
“ดังนั้น การช่วยกันลดการอุดตันในระบบ ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษา แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของน้ำเสียล้นและการรั่วไหลด้วย”
ส่งเสริมความเข้าใจต่อสาธารณะ
แม้ที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณูปโภคอาจไม่ได้ระบุชัดว่านมเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรเทลงท่อ
แต่ศาสตราจารย์ข่านมองว่า การพูดถึง "นม" โดยตรง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการกระตุ้นความสนใจของสาธารณชน
“ข้อดีของการยกตัวอย่าง ‘นม’ คือมันทำให้คนฉุกคิดว่า ‘อ้อ ในนมก็มีไขมัน แล้วอะไรอีกล่ะที่อาจมีไขมันแต่เราไม่ทันคิด?’”
“มันช่วยให้เราคิดให้รอบด้านขึ้นว่า อะไรควรหรือไม่ควรถูกเทลงอ่างล้างจานหรือชักโครก”
Sydney Water เตรียมเปิดแคมเปญใหม่
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Sydney Water จะเปิดตัว แคมเปญรณรงค์เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องปัญหาจากไขมัน น้ำมัน และคราบมัน (FOGs) ที่ส่งผลต่อระบบท่อน้ำเสียของเมือง เพื่อให้ประชาชนช่วยกันลดการปล่อยของเสียที่ไม่เหมาะสมลงในท่อระบายน้ำในชีวิตประจำวัน
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram