สิทธิในที่ดินของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย: เสียงเรียกร้องและความหมายต่อ First Nations

WAVE HILL WALK OFF 50TH ANNIVERSARY

ผู้เดินขบวนหลายพันคนร่วมเฉลิมฉลองวันครบรอบ 50 ปีการเดินขบวน Wave Hill Walk-off ที่กัลคารินจิ ในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2016 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน ซึ่งกินเวลานานถึงเก้าปีจึงจะสำเร็จ Credit: AAP Image/Neda Vanovac

ดินแดนหรือ “Country” คือหัวใจของอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส มีความหมายครอบคลุมทั้งผืนดิน แหล่งน้ำ ท้องฟ้า และสรรพสิ่งที่มีชีวิต สิทธิในที่ดินดั้งเดิมของชนพื้นเมืองมีความหมายอย่างไร ครอบคลุมพื้นที่ใด ใครสามารถยื่นขอได้ และมีผลกระทบต่อชุมชนพื้นเมืองอย่างไร เรามีข้อมูล


ประเด็นสำคัญ
  • สิทธิในที่ดินจะคืนพื้นที่บางส่วนของที่ดินของรัฐ (ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนบุคคล) ให้แก่ชุมชนชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส เพื่อผลประโยชน์ทางวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ
  • สิทธิในที่ดิน กรรมสิทธิ์พื้นเมือง และสนธิสัญญา เป็นกระบวนการทางกฎหมายและการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดมุ่งหวังที่จะตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างชนพื้นเมืองกับประเทศชาติ และสนับสนุนการตัดสินใจด้วยตนเอง
  • การเคลื่อนไหวนี้เริ่มต้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเดินขบวนประท้วงที่เวฟฮิลล์ในปี ซึ่งนำไปสู่กฎหมายสำคัญๆ เช่น พระราชบัญญัติสิทธิในที่ดินของชาวอะบอริจิน (เขตปกครองนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี)
เป็นเวลายาวนานที่ความผูกพันระหว่างชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสกับดินแดนของพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับ กฎหมายสิทธิในที่ดินดั้งเดิมจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พวกเขามีสิทธิทางกฎหมาย ในการครอบครองและจัดการที่ดินดั้งเดิม

นับเป็นเวลาหมื่นปี ที่ชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสดูแลผืนดินนี้

แต่การล่าอาณานิคมได้ยึดที่ดินนั้นไป โดยไม่มีข้อตกลง ด้วยการอิงแนวคิด ‘terra nullius’ ซึ่งแปลว่า “แผ่นดินที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ”

ขบวนการเรียกร้องสิทธิในที่ดินดั้งเดิมเริ่มเป็นที่จับตามองเมื่อปี 1966 จากการประท้วง Wave Hill Walk-Off ส่งผลให้มีการทำประชามติระดับชาติเปิดทางให้รัฐบาลสามารถออกกฎหมายสำหรับชนพื้นเมืองได้ในปี 1967 และในปี 1976 พระราชบัญญัติสิทธิในที่ดินของชาวอะบอริจิน (เขตปกครองนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี) (Aboriginal Land Rights (Northern Territory) Act) ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกที่รับรองการอ้างสิทธิในที่ดินดั้งเดิม
Gough Whitlam, Wave Hill Walk Off, Vincent Lingiari
นายกรัฐมนตรี กัฟ วิทแลม ส่งคืนผืนดินเชิงสัญลักษณ์ให้แก่ชาวกูรินจิเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1975 โดยอดีตนายกรัฐมนตรีวิทแลมเททรายลงบนมือของวินเซนต์ ลิงเกียรี Source: AAP
ในปัจจุบัน แม้บางรัฐจะมีกฎหมายสิทธิในที่ดินดั้งเดิมของตนเอง แต่จนถึงวันนี้ ออสเตรเลียยังไม่มีกฎหมายระดับชาติ (สหพันธรัฐ)

ส่งผลให้มีการก่อตั้งสภาที่ดิน (land councils) เพื่อเป็นตัวแทนของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส รวมถึงช่วยจัดการที่ดินที่ได้กลับคืนมา

อย่างไรก็ตาม สิทธิในที่ดินดั้งเดิมใช้ได้เฉพาะที่ดินของรัฐ (Crown land) ไม่ใช่ที่ดินเอกชน และไม่สามารถขายหรือจำนองได้ โดยที่ดินจะถูกถือไว้ในรูปแบบทรัสต์ เพื่อให้ชนพื้นเมืองดูแลดินแดนของพวกเขา และมีสิทธิในการตัดสินใจ

ดร. เวอร์จิเนีย มาร์แชลล์ สตรีเชื้อสายวิรัดจูรี นเยมบา และผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิในแหล่งน้ำ อธิบายถึงความหมายลึกซึ้งของความสัมพันธ์ระหว่างชนพื้นเมือง กับผืนดินและแหล่งน้ำ

“น้ำพูดกับเรา ต้นไม้พูดกับเรา เราไม่จำเป็นต้องนำเอาอุดมการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมแบบตะวันตกมาใช้ ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนความเข้าใจ กฎหมาย และเรื่องราวการกำเนิดของเราที่สืบทอดมา”
เพื่อให้เข้าใจได้ถ่องแท้ คำว่า land rights, native title และ treaty สามคำนี้มักถูกพูดถึงร่วมกัน แต่แต่ละคำมีความหมายต่างกัน

Land rights หรือสิทธิในที่ดินดั้งเดิม คือกฎหมายที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเพื่อคืนที่ดินบางส่วนให้แก่ชุมชนชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส โดยทั่วไปจะมีสภาที่ดิน (land councils) ดูแลและเป็นตัวแทนจัดการ

Native title หรือกรรมสิทธิ์ดั้งเดิม คือการรับรองตามกฎหมายว่าชนพื้นเมืองบางกลุ่มยังคงมีสิทธิในที่ดินและแหล่งน้ำของตน โดยอิงตามกฎหมายและจารีตดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมาหลายพันปี

Treaty หรือสนธิสัญญา คือข้อตกลงอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลกับชนพื้นเมือง ซึ่งประเทศอย่างนิวซีแลนด์และแคนาดามีแล้ว แต่ออสเตรเลียยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และยังไม่เคยมีสนธิสัญญาระดับชาติ

สามแนวทางนี้ล้วนมีเป้าหมายเพื่อสร้างความยุติธรรม การยอมรับ และการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง การฟื้นฟูที่ดินทำให้ชุมชนได้กลับมาเชื่อมโยงกับภาษา วัฒนธรรม และดินแดน และยังส่งเสริมด้านที่อยู่อาศัย สุขภาพ และความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ

ดร. มาร์แชลล์ อธิบายถึงความสำคัญของเรื่องนี้

“เราต้องมีสิทธิในการกำหนดอนาคตเอง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการ การทำวิจัย การคิดค้นไอเดียใหม่ การสร้างโอกาสและความร่วมมือในเทคโนโลยี รวมถึงด้านสุขภาพด้วย”
wave hill sign.png
การเดินขบวนประท้วงที่เวฟฮิลล์ นำโดยวินเซนต์ ลินเจียรี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์สิทธิในที่ดินของชาวอะบอริจินออสเตรเลีย ในปี 1966 โดยคนงานเลี้ยงสัตว์ชาวกูรินจิ คนงานบ้าน และครอบครัวของพวกเขาได้เดินขบวนประท้วงที่สถานีเวฟฮิลล์ เพื่อประท้วงสภาพการทำงานที่ย่ำแย่และการขาดสิทธิในที่ดิน Credit: National Museum Australia
ผลลัพธ์ของสิทธิในที่ดินดั้งเดิมที่เกิดขึ้นนั้นลึกซึ้ง ตัวอย่างเช่น สภาที่ดินพื้นเมืองของชนชาติดาร์คินจัง (Darkinjung Local Aboriginal Land Council) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสิทธิในที่ดินของชาวอะบอริจินแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Aboriginal Land Rights Act) ได้กลายเป็นตัวอย่างสำคัญของพลังจากการมีสิทธิในที่ดิน

ลุงแบร์รี ดันแคน ชายเชื้อสายโกเมรอย (Gomeroi) เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งดั้งเดิมของชนชาติดาร์คินจัง ตั้งแต่ปี 1983
สำหรับผม มันหมายถึงการรวมชุมชนเข้าด้วยกัน และเป็นหนทางให้ที่ดินได้กลับคืนสู่ความเป็นเจ้าของของชาวอะบอริจินอีกครั้ง
ลุงแบร์รี ดันแคน กล่าว
MA25133794-Vincent-Lingiari-1200w.jpg
วินเซนต์ ลินเจียรี ข้างแผ่นป้ายประกาศการมอบสัญญาเช่าใน วัตที ครีก ปี 1975 Credit: National Museum Australia
ตลอดชีวิตของลุงแบร์รี เขาได้เห็นว่าสิทธิในที่ดินดั้งเดิมเปิดโอกาสให้ชุมชนมีพลังทางเศรษฐกิจและสิทธิในการกำหนดอนาคตด้วยตัวเองอย่างไร

“ในตอนแรกที่ประกาศสิทธิในที่ดินดั้งเดิมออกมา คนที่ไม่ใช่ชนพื้นเมืองพูดกันว่าเราจะมายึดบ้านของเขา จะมาแย่งที่ดิน ความเชื่อผิดๆ เหล่านี้สร้างความเสียหายอย่างมาก แต่ตอนนี้ คนรุ่นใหม่เข้าใจแล้วว่า เราจัดการที่ดินได้อย่างชาญฉลาดและรอบคอบ”

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ การให้สิทธิในที่ดินแก่ชนพื้นเมือง ไม่ได้หมายถึงการเอาบ้านหรือ “สวนหลังบ้าน” ของใครไป

สิทธิในที่ดินครอบคลุมเฉพาะที่ดินของรัฐบาล (Crown land) ไม่ใช่ที่ดินเอกชน และเป็นการคืนที่ดินให้กับชุมชนพื้นเมืองที่มีความสัมพันธ์ดั้งเดิมกับพื้นที่ ผ่านการอยู่อาศัยในอดีตหรือความสำคัญทางวัฒนธรรม

อย่างไรก็ตาม กระบวนการเรื่องนี้ยังคงซับซ้อนและดำเนินไปอย่างเชื่องช้า อีกทั้งพื้นที่ที่สามารถคืนได้ก็มีจำกัด สิทธิในที่ดินยังเชื่อมโยงกับการเรียกร้องความยุติธรรม การปรองดอง และการยอมรับอธิปไตยของชนพื้นเมือง

สำหรับผู้ที่เพิ่งมาอาศัยในออสเตรเลีย การเข้าใจเรื่องสิทธิในที่ดินดั้งเดิมคือก้าวสำคัญที่จะเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่ลึกซึ้งของประเทศนี้ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเสียที่ดิน แต่คือการยอมรับและการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่มีมากว่า 60,000 ปี ระหว่างชนพื้นเมืองและดินแดน

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่

Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย

คุณสามารถส่งคำถามหรือไอเดียหัวข้อที่น่าสนใจมาได้ที่ australiaexplained@sbs.com.au

Share

Recommended for you

Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand