ประเด็นสำคัญ
- น้ำในออสเตรเลียได้รับการบำบัดและตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย
- แนวทางน้ำดื่มของออสเตรเลียเป็นมาตรฐานระดับชาติที่กำกับดูแลโดยสมาคมน้ำแห่งออสเตรเลีย
- น้ำประปานั้นปลอดภัยที่จะดื่มในออสเตรเลีย แต่ชุมชนในภูมิภาคและบริเวณห่างไกลบางแห่งอาจมีความท้าทายในการหาแหล่งน้ำบริสุทธิ์
การดื่มน้ำให้ความรู้สึกสดชื่นและช่วยเติมน้ำให้ร่างกาย ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายในแต่ละวัน
ในออสเตรเลีย แหล่งน้ำดื่มอาจมาจากน้ำทะเลกลั่น น้ำใต้ดิน หรือเขื่อนกักเก็บน้ำ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่อยู่อาศัยของคุณ
ตามเมืองใหญ่และเมืองหลักในแถบภูมิภาค น้ำดื่มจะถูกส่งผ่านเครือข่ายท่อน้ำใต้ดินเข้าสู่บ้านเรือน
แล้วเมื่อคุณเปิดก๊อกน้ำในครัว คุณจะมั่นใจได้หรือไม่ว่าน้ำนั้นปลอดภัย?
ดร.เอมิลี เควค หนึ่งในประธานของเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพน้ำ (Water Quality Specialist Network) จากสมาคมน้ำแห่งออสเตรเลีย (Australian Water Association) อธิบายว่า
"ใช่ แหล่งน้ำประปาเกือบทุกพื้นที่ของออสเตรเลียนั้นปลอดภัยสำหรับการดื่ม เพราะมีการบำบัดและตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานสุขภาพที่เข้มงวดตามแนวทางคุณภาพน้ำดื่มของออสเตรเลีย (Australian Drinking Water Guidelines) และหน่วยงานที่ให้บริการน้ำก็มีการทดสอบน้ำเป็นประจำเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เมลเบิร์นทำอย่างไรให้น้ำประปาไม่ใช่แค่ดื่มได้ แต่ยังดีที่สุดในโลก
ศาสตราจารย์สจวร์ต คาน นักวิจัยด้านคุณภาพน้ำจากคณะวิศวกรรมโยธา (School of Civil Engineering) แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์เห็นด้วยกับเรื่องนี้
"ส่วนใหญ่แล้ว ในเกือบทุกพื้นที่ของออสเตรเลีย คำตอบก็คือ 'ใช่' อย่างแน่นอน แต่ความปลอดภัยนั้นก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับบริบท มีแหล่งน้ำบางแห่งที่มีความปลอดภัยน้อยกว่า โดยเฉพาะในชุมชนขนาดเล็กหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งมักจะขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมในการควบคุมคุณภาพน้ำอย่างเหมาะสม"
ศาสตราจารย์สจวร์ตอธิบายเพิ่มเติมว่า แนวทางการรักษาคุณภาพน้ำดื่มของออสเตรเลียคือมาตรฐานระดับประเทศ ที่ใช้เป็นแนวทางให้ผู้จัดหาน้ำบริหารจัดการความเสี่ยงในการผลิตน้ำดื่มที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
"โดยทั่วไป แนวทางดังกล่าวไม่ได้กำหนดวิธีการบำบัดน้ำแบบตายตัว แต่ใช้แนวทางการประเมินความเสี่ยงเป็นหลัก เพราะแหล่งน้ำแต่ละแห่งมีระดับความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนที่ต่างกัน ดังนั้น วิธีและระดับการบำบัดที่จำเป็นจึงขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำแต่ละแห่ง"

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ดร. เอมิลี เควค และศาสตราจารย์สจวร์ต คาน Credit: Emily Quek/Image supplied; Stuart Khan/Iain Bond
การจับตะกอน (Coagulation) คือกระบวนการที่ใช้สารเคมีทำให้ตะกอนและสิ่งสกปรกจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ที่สามารถกรองออกได้ง่าย
น้ำประปาที่คุณดื่มจึงผ่านการกรองหลายขั้นตอน รวมถึงการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ แล้ว
น้ำดื่มส่วนใหญ่ในออสเตรเลียจะมีการเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค และในหลายพื้นที่ก็มีการเติมฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ ทั้งสองสารนี้ใช้ในระดับที่ปลอดภัยและอยู่ภายใต้ขอบเขตของแนวทางคุณภาพน้ำดื่มของออสเตรเลียศาสตราจารย์สจวร์ตอธิบาย
ศาสตราจารย์สจวร์ตเสริมว่า มาตรการเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
"แม้จะมีความกังวลจากบางกลุ่มในสังคม แต่การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยมาก คลอรีนที่ละลายในน้ำก็มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคที่อาจเป็นอันตรายกับเรา น้ำดื่มที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนช่วยชีวิตผู้คนมานับล้านตลอดศตวรรษที่ผ่านมา"

เขื่อนวาร์รากัมบาเป็นแหล่งน้ำดื่มในซิดนีย์ Credit: Deeva Sood/Unsplash
"สาเหตุแรกคือแหล่งน้ำมีความหลากหลาย บางเมืองใช้น้ำใต้ดิน ซึ่งมีแร่ธาตุและเกลือในระดับต่างกัน บางแห่งใช้น้ำจากทะเลสาบหรือเขื่อน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเจริญเติบโตของสาหร่าย หลายเมืองก็นำน้ำทะเลกลั่นมาผสมในระบบ ซึ่งแม้จะสะอาดมาก แต่ก็เพิ่มความแปรปรวนด้านรสชาติ"
ดร.เอมิลีชี้ว่าในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ปัจจัยหลายอย่างอาจมีผลต่อคุณภาพน้ำ
"ในเขตชนบทหรือห่างไกล แหล่งน้ำอาจมาจากบ่อบาดาล แม่น้ำ หรือน้ำฝนในถังเก็บน้ำ ระดับการบำบัดและความมั่นคงของระบบก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนด้านปฏิบัติการ และสภาพแวดล้อมในพื้นที่"

อุทกภัยอาจกระทบแหล่งน้ำดื่มในท้องถิ่นได้ Credit: Wes Warren/Unsplash
"หลายชุมชนในพื้นที่ห่างไกลใช้น้ำใต้ดิน ซึ่งอาจมีแร่ธาตุตามธรรมชาติ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม หรือในบางกรณี อาจมีสารหนูและยูเรเนียมปนอยู่ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบระดับเหล่านี้เพื่อประเมินความเสี่ยง ส่วนอีกบางชุมชนใช้น้ำผิวดินจากลำธารหรือแม่น้ำ ซึ่งคุณภาพจะเปลี่ยนแปลงได้หลังฝนตกหรือเหตุการณ์สภาพอากาศในพื้นที่"
เมื่อเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่กระทบแหล่งน้ำดื่ม ดร.เอมิลีกล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขและการประปาท้องถิ่นจะออกคำแนะนำให้ประชาชนทราบ
"เมื่อมีความเสี่ยง หรือคาดว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะส่งผลต่อคุณภาพน้ำ การต้มหรือติดตั้งตัวกรองน้ำอาจเป็นมาตรการที่จะแนะนำให้ปฏิบัติชั่วคราว เช่น หลังจากเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หรือเมื่อระบบบำบัดอาจทำงานได้ไม่เต็มที่"
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

น้ำดื่มรีไซเคิล หนทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มในอนาคต
ย้อนไปสมัยก่อนทศวรรษ 1980 บ้านหลายหลังในออสเตรเลียใช้ท่อน้ำหรือวัสดุเชื่อมต่อที่มีสารตะกั่ว
ในบ้านเก่าเหล่านี้ สารตะกั่วจะละลายลงสู่น้ำอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะเมื่อน้ำในท่อหยุดนิ่งเป็นเวลานาน
หากคุณกังวลว่าน้ำจากท่ออาจมีสารตะกั่ว ควรเปิดน้ำทิ้งไว้สักครู่ก่อนใช้งาน โดยเฉพาะในตอนเช้า
แต่หากคุณสังเกตเห็นคุณภาพน้ำเปลี่ยนไป ศาสตราจารย์สจวร์ตแนะนำว่า ควรแจ้งหน่วยงานที่ดูแลน้ำทันที
"ผู้ใช้น้ำสามารถติดต่อผู้ให้บริการน้ำในพื้นที่และแจ้งเรื่องที่กังวลได้ คุณควรระบุปัญหาด้วย เช่น น้ำมีรส กลิ่น หรือสีผิดปกติ หรือมีคนในบ้านป่วยจากการดื่มน้ำ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการวิเคราะห์ปัญหาได้ตรงจุด"
คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำ ผลการทดสอบ และรายงานต่าง ๆ ได้ทางออนไลน์ ผ่านทางหน่วยงานน้ำในพื้นที่
เพื่อที่ครั้งต่อไปที่คุณรินน้ำดื่มจากก๊อก คุณสามารถมั่นใจได้ว่าน้ำที่คุณดื่มนั้นปลอดภัย เพราะมีมาตรฐานและกระบวนการรองรับไว้แล้วอย่างครบถ้วน
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำดื่มในออสเตรเลียได้ที่:
Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย