วัยรุ่นออสซี่เกือบครึ่งมีโรคเรื้อรังหรือปัญหาพัฒนาการ นักวิจัยชี้พฤติกรรมกินส่งผลสุขภาพจิต

Twins Harry and Matthew were born with severe eczema (image supplied).jpg

แมทิว และแฮร์รี เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังหรือเอ็กซิมา (Eczema)

จากการศึกษาจากกลุ่มวัยรุ่นชาวออสเตรเลียจำนวน 5,000 คน พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งมีภาวะโรคเรื้อรังหรือเงื่อนไขพัฒนาการบางอย่าง ผลการวิจัยยังพบความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมการบริโภคกับสุขภาพและปัญหาสุขภาพจิต อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอิสระเตือนว่า การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสังเกต จึงไม่ควรสรุปว่าสาเหตุของโรคมาจากปัจจัยเหล่านี้โดยตรง แต่ควรมองว่าเป็นสิ่งที่อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น


แมทิว และแฮร์รี เป็น ลูกชายฝาแฝดของคุณ เมลานี ฟังค์ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังหรือเอ็กซิมา (Eczema) ประเภทรุนแรง

คุณแม่จากเมืองโกลด์โคสต์คนนี้บอกว่า โรคนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา

“ลูกๆ ของฉันต้องเผชิญกับผิวหนังที่อักเสบรุนแรง เจ็บปวด นอนไม่หลับ เหนื่อยล้าจนไม่มีสมาธิกับการเรียน และไม่ส่ามารถเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางสังคม เพราะพวกเขากลัวจะถูกคนมองและรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง”

คุณ เมลานี เล่าว่าในช่วงที่ลูกชายฝาแฝดของเธอยังเล็ก เธอพบว่าพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ในเรื่องของผู้ที่ป่วยโรคเอ็กซิมา

และนี่เป็นจุดที่ทำให้เธอก่อตั้งองค์กร Eczema Support Australia ซึ่งเป็นองค์กรการกุศกระดับประเทศที่เข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้

ปัจจุบัน ลูกฝาแฝดวัย 15 ปีของเธอ สามารถจัดการกับอาการป่วยได้ดีขึ้นด้วยการรักษาทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่คุณ เมลานี บอกว่า ช่วงวัยรุ่นยังคงเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย และมีหลายปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้

 “ความเครียดและความวิตกกังวล โดยเฉพาะช่วงสอบ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญ รวมถึงอากาศร้อน เหงื่อ สารก่อภูมิแพ้ อาหารบางชนิด การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือแม้แต่การใช้หน้าจอเป็นเวลานาน ล้วนมีผลกระตุ้นให้อาการกำเริบได้”


ขณะนี้มีงานวิจัยใหม่ที่เปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีวัยรุ่นจำนวนมากเพียงใดที่ใช้ชีวิตอยู่กับโรคเรื้อรัง เช่นเดียวกับลูกชายฝาแฝดของ เมลานี

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Australian and New Zealand Journal of Public Health พบว่าเกือบครึ่ง หรือราวร้อยละ 46 ของวัยรุ่นจำนวน 5,000 คนที่เข้าร่วมการสำรวจใช้ชีวิตอยู่กับโรคเรื้อรัง

เช่น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (เอ็กซิมา) หอบหืด ไข้ละอองฟาง ภูมิแพ้อาหาร หรือภาวะพัฒนาการล่าช้า เช่น ออทิสติกและโรคสมาธิสั้น (ADHD) ผลวิจัยยังพบความเชื่อมโยงระหว่างโรคเหล่านี้กับปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้รวมถึงการใช้หน้าจอมากเกินไป การบริโภคอาหารแปรรูปสูง การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การนอนหลับไม่เพียงพอ

คุณ บรีดี ออสแมน หัวหน้าทีมวิจัยจากศูนย์วิจัย Matilda Centre for Research in Mental Health and Substance Use แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ระบุว่า แม้ความเชื่อมโยงเหล่านี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่สิ่งที่น่ากังวลคือพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในวงกว้าง

“ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมาก และค่อนข้างน่าตกใจ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาขนาดใหญ่ที่ออสเตรเลียกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งอาจเกิดจากการที่คนออสเตรเลียบริโภคอาหารแปรรูปในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และยังมีอัตราการป่วยด้วยโรคทางสุขภาพจิตที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน”

คุณ ออสแมน ระบุว่า โรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดในกลุ่มวัยรุ่น ได้แก่ หอบหืด ไข้ละอองฟาง และโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (เอ็กซิมา) ขณะที่ภาวะพัฒนาการที่พบมากที่สุดคือสมาธิสั้น หรือ ADHD

“โรคเหล่านี้มีลักษณะแตกต่างกันไป บางรายอาจเกิดจากพันธุกรรม ขณะที่บางรายอาจเป็นผลจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทำให้ยากที่จะระบุชัดเจนว่าอะไรมาก่อนกัน แต่สิ่งที่เรารู้แน่ชัดคือ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด หากมีปัญหาสุขภาพจิตหรือพฤติกรรมเสี่ยงร่วมด้วย ก็สามารถทำให้อาการแย่ลงได้”

ทีมนักวิจัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้ ต่างย้ำว่า พฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของภาวะเหล่านี้

ศาสตราจารย์ ซูซาน ซอร์เยอร์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพวัยรุ่นแห่งสถาบันวิจัย Murdoch Children’s Research Institute กล่าวว่า ความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างโรคเหล่านี้กับพฤติกรรมเสี่ยง สะท้อนถึงความจำเป็นในการวิจัยเพิ่มเติม

ออสเตรเลียมีประวัติมานานว่าเป็นประเทศที่มีภาระโรคภูมิแพ้สูง ทั้งโรคหอบหืด ไข้ละอองฟาง โดยเฉพาะภูมิแพ้อาหาร จนออสเตรเลียถูกเรียกว่าเป็น ‘เมืองหลวงของภูมิแพ้อาหาร’
ศาสตราจารย์ ซูซาน ซอร์เยอร์

"แม้อาจมีปัจจัยทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้เชี่ยวชาญมองว่า สิ่งแวดล้อมทางกายภาพของเราก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน”

ศาสตราจารย์ ซอร์เยอร์ ยังระบุด้วยว่า ควรมีการให้ความสำคัญกับการมีแนวทางป้องกันโรคเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

“เราทราบดีว่าสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพ ความเสี่ยง และผลลัพธ์ด้านสุขภาพของเด็กและเยาวชน ไม่ได้ถูกกำหนดจากชีวภาพหรือพันธุกรรมเท่านั้น แต่ยังได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมทางกายภาพ สังคม และแม้กระทั่งโลกออนไลน์ด้วย"

"เพราะฉะนั้นนอกจากการสนับสนุนครอบครัวให้สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและโภชนาการสำหรับเยาวชนแล้ว แต่จากสถิติเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการป้องกันมากยิ่งขึ้น”

ขณะเดียวกัน ดร. ออสแมน ชี้ว่า ปัญหาโรคเรื้อรังในเยาวชนยังคงถูกมองข้าม และไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่จริงจัง

เธอกล่าวว่าการศึกษาครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการหันมาให้ความสนใจมากกว่าที่เคย

“งบประมาณวิจัยและแคมเปญด้านสาธารณสุขส่วนใหญ่มักถูกจัดสรรให้กับกลุ่มผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ ซึ่งมักพบโรคเรื้อรังที่รุนแรงกว่า เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือมะเร็ง เนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลร้ายแรงและทำให้เสียชีวิตได้รวดเร็วกว่า แต่ผลที่ตามมาคือ เรากลับมีงบวิจัยและการสนับสนุนด้านสุขภาพสำหรับวัยรุ่นน้อยลง”

ดร. ออสแมน อธิบายว่า การเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วัยรุ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้สามารถติดตัวไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และกระบวนการอักเสบเรื้อรังที่เกิดขึ้นในร่างกายอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในระยะยาวได้

หากคุณหรือคนในครอบครัวต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (eczema) สามารถหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ eczemasupport.org.au

หากต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต สามารถติดต่อสายด่วน Beyond Blue ได้ที่เบอร์ 1300 22 4636

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram  

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand