Thai voice: ทำงานวันหยุดต้องได้เท่าไหร่? เปิดสิทธิ penalty rate ที่แรงงานไทยควรรู้

waiter working during holiday season-pexels-theodore nguyen.jpg

"Penalty rate คืออัตราค่าจ้างที่นายจ้างต้องจ่ายในอัตราที่สูงกว่าปกติ" แมทธิว แร็กแกตต์ โฆษกจากหน่วยงานกำกับดูแลสิทธิแรงงานของออสเตรเลีย Credit: Theodore Nguyen/Pexels

ในช่วงวันหยุดปลายปี แรงงานไทยจำนวนมากต้องทำงานในอุตสาหกรรมงานบริการ การทำงานในช่วงวันหยุดในออสเตรเลียจะได้รับค่าแรง penalty rate ซึ่งเป็นอัตราค่าจ้างที่สูงกว่าปกติ ฟังประสบการณ์ตรงของเชฟคนไทย และคำอธิบายจากโฆษกแฟร์ เวิร์ก เพื่อคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิแรงงานที่คุณอาจยังไม่รู้ว่าควรได้รับ


ประเด็นสำคัญ
  • Penalty rate เป็นอัตราค่าจ้างตามกฎหมาย สำหรับแรงงานที่ทำงานในวันหยุด
  • ผู้ถือวีซ่าทุกประเภทมีสิทธิได้รับค่าจ้างและการคุ้มครองเทียบเท่าแรงงานท้องถิ่น
  • ปัญหาที่พบบ่อยในการทำงานช่วงเทศกาล เช่น จ่ายไม่ครบ หรือไม่รวม penalty rate เป็นต้น
ในช่วงเทศกาลปลายปี ธุรกิจบริการในออสเตรเลียต่างต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะวันเสาร์–อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

อย่างไรก็ตาม พนักงานที่ทำงานในวันหยุดต้องได้รับอัตราค่าจ้างพิเศษที่เรียกว่า penalty rate ตามที่ระบุในกฎหมายของออสเตรเลีย

บาส เชฟชาวไทยในเมลเบิร์นเล่าว่า งานของเขามีทั้งค่าแรงวันหยุดและค่าล่วงเวลา เพราะต้องเริ่มงานตั้งแต่ตีสี่ แต่ปัญหาที่พบทั่วไปคือหลายร้านไม่อธิบายเรทการจ่ายให้ชัดเจน ทำให้หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งมาใหม่หรือผู้ที่ยังไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ไม่เข้าใจสิทธิของตัวเอง
Photo-Bass 2.jfif
บาส เชฟคนไทยในเมลเบิร์น Credit: Bass
เพื่อให้เข้าใจสิทธิแรงงานในช่วงเทศกาลอย่างถูกต้อง เอสบีเอส ไทย พูดคุยกับแมทธิว แร็กแกตต์ โฆษกจากแฟร์ เวิร์ก เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจ่าย Penalty Rate และขั้นตอนที่ลูกจ้างควรรับรู้

Penalty Rate: ค่าจ้างพิเศษ สำหรับการทำงานนอกเวลาปกติ

Penalty Rate เป็นกลไกทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อให้ค่าตอบแทนสูงขึ้นในเวลาที่ลูกจ้างต้องทำงานนอกเหนือจากช่วงปกติ เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งถือเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่หยุดพักผ่อน รัฐบาลจึงกำหนดค่าแรงที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยภาระดังกล่าว

การรู้เรทที่ถูกต้องจึงสำคัญมาก เพราะ Penalty Rate อาจเพิ่มค่าจ้างตั้งแต่ 25–150% ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างเห็นได้ชัด

“ลูกจ้างควรรู้ว่าสิทธิของตนเองคืออะไร เพราะมันมีผลต่อรายได้อย่างมาก” แมทธิว โฆษกจากแฟร์ เวิร์ก กล่าว
Photo-Matthew Raggatt 2.png
แมทธิว แร็กแกตต์ โฆษกจาก Fair Work Ombudsman Credit: Fair Work Ombudsman
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำและ Penalty Rate จะถูกกำหนดไว้ในอวอร์ด (Award) ซึ่งเป็นกฎหมายแรงงานเฉพาะอุตสาหกรรม เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ค้าปลีก หรือทำความสะอาด

โดยอวอร์ดจะระบุอย่างละเอียดว่าลูกจ้างแต่ละระดับควรได้ค่าแรงเท่าไหร่ในวันธรรมดา วันเสาร์–อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึงกะดึกและโอที

การรู้ว่าเราทำงานภายใต้อวอร์ดฉบับใดจึงสำคัญมาก เพราะเป็นตัวกำหนดสิทธิค่าจ้างตามกฎหมายทั้งหมดที่ลูกจ้างควรได้รับจริง ๆ และเป็นหลักฐานอ้างอิงเมื่อเกิดข้อพิพาทเรื่องค่าแรงด้วย

ผู้ถือวีซ่าทุกประเภทมีสิทธิได้รับค่าจ้างเท่าคนท้องถิ่น

สำหรับแรงงานไทยจำนวนมากที่ถือวีซ่าชั่วคราว มักกังวลว่าตนไม่มีสิทธิแรงงานเท่ากับพนักงานท้องถิ่น แต่กฎหมายออสเตรเลียระบุชัดเจนว่า ประเภทวีซ่าไม่มีผลต่ออัตราค่าจ้างหรือการคุ้มครองใด ๆ

โฆษกจากแฟร์ เวิร์กให้ความชัดเจนว่า
ผู้ถือวีซ่ามีสิทธิแรงงานและการคุ้มครองเหมือนกับลูกจ้างคนอื่นในออสเตรเลียทุกประการ
แมทธิวกล่าว
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ผู้ถือวีซ่า Work and holiday หรือวีซ่าบริดจิง หากทำงานตำแหน่งเดียวกัน ระดับเดียวกัน ก็ต้องได้รับค่าแรงขั้นต่ำและ Penalty Rate เท่ากันทุกประการ

เว็บไซต์ของแฟร์ เวิร์กมีแหล่งข้อมูลในการตรวจสอบอัตราค่าแรงที่ถูกต้องได้ด้วยตนเองที่เครื่องมือคำณวนอัตราค่าจ้าง

ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธงานวันหยุดได้ หากมีเหตุผลเหมาะสม

กฎหมายออสเตรเลียระบุว่า ลูกจ้างสามารถปฏิเสธคำขอให้ทำงานในวันหยุดได้ หากมีเหตุผลที่เหมาะสม และควรมีความเข้าใจถึงลักษณะของงานที่อาจต้องทำงานในวันหยุด เช่น พนักงานที่ทำงานในร้านอาหาร หรือร้านค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างของเหตุผลที่ถือว่าสมเหตุสมผลในการปฏิเสธได้แก่
  • ภาระครอบครัว
  • สุขภาพ
  • การแจ้งงานกะกระชั้นชิด
  • ลักษณะงานที่ไม่จำเป็นต้องทำในวันนั้น
หลักเกณฑ์นี้ช่วยให้ลูกจ้างสามารถบริหารภาระงานของตนเองได้โดยไม่รู้สึกถูกบังคับ

การร้องเรียนไม่กระทบวีซ่า และสามารถแจ้งแบบนิรนามได้

ความกังวลที่พบบ่อยคือ การร้องเรียนอาจกระทบสถานะวีซ่า แต่กฎหมายแรงงานออสเตรเลียกำหนดกลไกปกป้องไว้อย่างชัดเจน

“หากลูกจ้างร้องเรียน จะไม่ส่งผลกระทบต่อวีซ่าของพวกเขา เพราะมีกลไกคุ้มครองผู้ถือวีซ่าอยู่แล้ว รัฐบาลออสเตรเลียและกระทรวงมหาดไทยมีมาตรการปกป้องผู้ถือวีซ่าที่แจ้งปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบในที่ทำงาน เราอยากให้แรงงานทุกคน รวมถึงผู้ถือวีซ่า ติดต่อเรา เมื่อสงสัยว่ากำลังได้รับค่าจ้างไม่ครบหรือถูกเอาเปรียบในที่ทำงาน”

นอกจากนี้ การรายงานโดยไม่เปิดเผยชื่อสามารถทำได้ในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย กระบวนการนี้ช่วยให้แรงงานสามารถทวงสิทธิได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน

ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดช่วงเทศกาล และเหตุผลที่แรงงานควรตรวจสอบสิทธิของตนเอง

มีการรายงานเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานสูงในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ร้านกาแฟ และฟาสต์ฟูด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดที่มีชั่วโมงงานเพิ่มขึ้น ทั้งการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำไม่ครบ ไม่รวม casual loading 25% ไม่จ่ายค่าล่วงเวลาหรือ Penalty Rate การไม่ลงบันทึกเวลา และการออกสลิปเงินเดือนที่ไม่ถูกต้อง

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับสิ่งที่บาส เชฟคนไทยพบในแวดวงการทำงานของตนเอง เขาเล่าว่าเพื่อนร่วมงานหลายคนไม่รู้สิทธิ ทำให้ได้รับค่าแรงไม่ถูกต้อง และต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้ที่เข้าใจกฎหมายมากกว่า
นอกจากนี้ คุณบาสยังเตือนแรงงานไทยว่า
Fair Work Ombudsman เนี่ยครับ มีประโยชน์ต่อลูกจ้างในทุกแบบเลยครับ เรื่องสิทธิการแรงงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ
ติดต่อ Fair Work Ombudsman ได้ที่หมายเลข 131 394

ติดต่อล่าม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่หมายเลข 131 450

หรือที่เว็บไซต์ fairwork.gov.au

ฟังรายละเอียดเรื่องสิทธิแรงงานและค่าจ้าง penalty rate ได้ในพอดคาสต์
ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand