ฮวา เหงียน อายุ 31 ปี ทำงานเป็นพยาบาลดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในเมลเบิร์น เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้ทำงานแนวหน้าเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย
แต่เส้นทางสู่การทำงานของเขาไม่ได้ราบรื่น เขาเคยไปทำงานที่ฟาร์มในรัฐเซาท์ออสเตรเลียระหว่างปิดเทอม เพื่อหาค่าเล่าเรียน
“เราจะตื่นตอนตีสี่ เตรียมตัวและไปถึงฟาร์มประมาณตีห้า หรือตีห้าครึ่ง บางครั้งฝนตก และบางครั้งก็ร้อนมาก แต่ผมไม่อยากหยุดพัก ผมต้องทำต่อไปเพราะไม่อย่างนั้นวันนั้นจะไม่ได้ค่าจ้าง”
เหงียนอาศัยอยู่ในรถพ่วงร่วมกับคนอื่น ทำงานหลายชั่วโมงเพื่อรับเงินเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ต่อวัน
แม้กระนั้น นายจ้างของเขาก็หักค่าจ้างบางส่วน โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
พวกเขาบอกว่า พวกเขาได้จัดหาอุปกรณ์ทั้งหมด อุปกรณ์ความปลอดภัย ที่พักให้แล้ว และนั่นจะถูกหักจากเงินเดือนของผม ที่พักกับอุปกรณ์ไม่น่าจะแพงขนาดนั้น แต่ตอนนั้นผมไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากไหนเลยยอมรับไปเหงียนเล่า
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แคมเปญใหม่ป้องกันนศ.ต่างชาติถูกโกงค่าจ้าง
ที่แย่ไปกว่านั้นคือเมื่อคนงานขอรับค่าจ้างเต็มจำนวน ผู้รับเหมากลับจ่ายให้เพียงบางส่วน
“เขาบอกว่าจะเก็บเงินไว้ เผื่อคุณทำอุปกรณ์เสียหายหรือทำอะไรกับที่พัก รวมถึงเงินมัดจำด้วย และเขาบอกว่าหลังหมดฤดูกาลจะจ่ายคืนให้ หลังหมดฤดูกาล เราขอเงินคืน เขาบอก ‘โอเค จะคืนให้ในอีกสองวัน’ แล้วเขาก็หนีไป”
เหงียนกล่าวว่ากลุ่มของเขาแทบไม่มีเงินเหลือสำหรับค่าเดินทางกลับหรือซื้ออาหาร
“เราดื่มน้ำเยอะมากเพื่อให้รู้สึกอิ่มและมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเราไม่มีใครให้ติดต่อ ไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือที่ไหน ผมติดอยู่ที่นั่นสองเดือนครึ่ง สองเดือนครึ่งที่ผมต้องอยู่ในรถพ่วง”

เหงียนเคยไปทำงานฟาร์ม เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาต่างชาติ วันนี้เขาทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลที่เมืองเมลเบิร์น Source: SBS / Scott Cardwell
รองศาสตราจารย์บาสซินา ฟาร์เบินบลูม จากคณะนิติศาสตร์และความยุติธรรมแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ และหนึ่งในผู้อำนวยการของสถาบันเพื่อความยุติธรรมของผู้ย้ายถิ่น (Migrant Justice Institute) กล่าวว่า ปัญหานี้พบได้บ่อย
เรามีปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงานที่เป็นนักเรียนต่างชาติและแรงงานที่ถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลีย ผู้อพยพมักมีความเปราะบางเป็นพิเศษ สำหรับนักเรียนต่างชาติ พวกเขาต้องการอยู่ต่อเพื่อจบการศึกษา นายจ้างจึงรู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพาวีซ่าและต้องการงานอย่างมากรศ.ฟาร์เบินบลูมกล่าว
ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นระบุว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของแรงงานที่มีอายุน้อยมีแนวโน้มได้รับค่าจ้างต่ำกว่ามาตรฐาน และอีกหลายคนต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ หรือไม่ได้รับเงินซูเปอร์
“เว็บไซต์ของ Fair Work Ombudsman มีข้อมูลที่ดีมาก รวมถึงการคำนวณอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง ถ้าคุณไม่ได้รับสิทธิการลาหยุด เช่น ลาป่วยหรือวันหยุด คุณน่าจะเป็นลูกจ้างแบบ casual ซึ่งหมายความว่าคุณมีสิทธิได้รับเงินเพิ่ม 25% และถ้าคุณทำงานช่วงกลางคืนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณอาจมีสิทธิได้รับค่าจ้างพิเศษ เก็บบันทึกชั่วโมงทำงานทั้งหมด ส่งข้อความยืนยันเวลางานกับนายจ้าง เช่น ยืนยันว่าทำงานวันอาทิตย์กี่ชั่วโมง ถ้าคุณไม่ได้รับสลิปเงินเดือน อย่างน้อยคุณมีบันทึกชั่วโมงทำงานและจำนวนเงินที่ได้รับ ยิ่งเก็บหลักฐานได้มากเท่าไร ยิ่งดี”

การจงใจไม่จ่ายค่าจ้างหรือเงินสวัสดิการแก่พนักงานถือเป็นความผิดทางอาญาในออสเตรเลีย Source: AAP
โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์
“ยังมีความผิดที่กำหนดขึ้นใหม่หลายกระทงในพระราชบัญญัติการย้ายถิ่น (Migration Act) ซึ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ถือวีซ่า และนายจ้างที่ใช้สถานะวีซ่าของบุคคลมากดดันให้ยอมรับเงื่อนไขการทำงาน แม้แต่เรื่องที่อยู่อาศัย แต่ยังมีสิ่งที่เราต้องทำอีกมาก เพื่อให้แรงงานผู้อพยพเข้าถึงการคุ้มครองเหล่านี้และระบบศาลได้ง่ายขึ้น เพราะตอนนี้แม้จะเริ่มเห็นผลในบางกรณีที่ร้ายแรง แต่หนทางยังอีกไกล”
สุดท้าย เหงียนหนีออกจากฟาร์มและกลับมายังเมลเบิร์น โดยพ่อแม่ของเขาช่วยออกค่าเรียนให้ในช่วงแรก โดยพวกเขาต้องกู้ยืมเงินมาจากหลายที่
ต่อมาเหงียนต้องทำงานอีกหลายอย่าง เพื่อให้จบการศึกษา
“ผมกลัวทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เพราะพวกเขาเสียสละชีวิตเพื่อผม พวกเขาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ผมและพี่น้องมาถึงทุกวันนี้”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เปิดโปงวัฏจักรโกงค่าจ้างนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย
ฟิล ฮันนีวูด ผู้บริหารสมาคมเพื่อการศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลียคาดว่าช่วงปิดเทอม 3 เดือนนี้จะมีรายงานการเอารัดเอาเปรียบเพิ่มขึ้น
“ออสเตรเลียมีกรอบกฎหมายและกลไกการอุทธรณ์เกี่ยวกับการจ้างงานที่ถือว่าอยู่ระดับแนวหน้าของโลก แต่ยังคงมีผู้ประกอบการไม่สุจริตที่ฉวยโอกาสจากความไร้ประสบการณ์ของเยาวชน สิ่งที่เราอยากให้ทำคือ ก่อนลงนามในสัญญา ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ เช่น สถาบันการศึกษา ผู้ให้บริการจัดหางาน หรือที่ปรึกษากฎหมาย ตรวจสอบว่าค่าจ้างงวดแรกเข้าบัญชีภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือสองสัปดาห์ หากเงินไม่เข้า ควรสอบถามทันที แจ้งให้ครอบครัวและเพื่อนทราบว่าคุณอยู่ที่ไหนและติดต่ออย่างไร เพราะในพื้นที่ชนบทอาจมีไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ช่วงฤดูร้อนนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าโครงสร้างทางกฎหมายที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ และมีการให้ข้อมูลมากพอหรือไม่”
สำหรับเหงียน แม้เขาจะพูดภาษาอังกฤษได้เพียงสามคำ เมื่อเดินทางมาถึงในปี 2012 ปัจจุบันเขาจบปริญญาโทใบที่สองด้านการพยาบาลขั้นสูง แต่งงานกับคนรักตั้งแต่วัยเด็ก มีลูกสาวหนึ่งคน และรู้สึกภูมิใจที่บรรลุเป้าหมาย
“มันเหมือนความฝันเป็นจริง ช่วงเวลาที่ยากลำบากทำให้ผมโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความท้าทาย สถานการณ์ไม่คาดคิด หรือช่วงเวลายากลำบากใด ๆ ที่เข้ามา ผมพร้อมต่อสู้เสมอ” เหงียนกล่าว
และเขาฝากคำแนะนำสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องทำงานเพื่อจ่ายค่าเรียน
“สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้สิทธิของตัวเอง รู้ประเภทวีซ่าที่คุณถือ และอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ หากพบการเอารัดเอาเปรียบหรือมีสัญญาณเตือน” เหงียนกล่าว









