เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ จัดงาน 'Lanna Legacy' ที่ Watersedge at Campbell's Stores เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมล้านนา และโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือของไทยสู่ตลาดออสเตรเลีย
โดยผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยสามกลุ่มหลัก ได้แก่ ทัวร์โอเปอเรเตอร์ สื่อ และสายการบิน มีเป้าหมายขยายมุมมองการท่องเที่ยวไทยให้กว้างไกลกว่าจุดหมายยอดนิยมอย่างภูเก็ต และต่อยอดความร่วมมือเชิงรูปธรรมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวออสเตรเลีย

สินค้าพื้นเมืองจากภาคเหนือของไทยไทย จัดวางโชว์ในงาน Lanna Legacy Credit: SBS Thai
บทบาทของกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
นฤชัย นินนาท กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับออสเตรเลียว่า นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางไปประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเดินทางไปประเทศไทยจำนวนเกือบแปดแสนคน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าไทย

นฤชัย นินนาท กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวเปิดงาน Credit: SBS Thai
“นักท่องเที่ยวออสเตรเลียนิยมไปแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของไทย เช่น ชอบอาหาร ชอบดูมวยไทย เป็นสิ่งที่เราพยายามที่จะสนับสนุน รวมถึงการไปดูสถานที่สำคัญ เช่น วัดไทย หรือสัมผัสธรรมชาติ”
มุมมอง ททท. ซิดนีย์: ตลาดโต แต่ต้องกระจายการท่องเที่ยวสู่ภาคเหนือ
พิชญา สายแสงจันทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ สะท้อนภาพรวมการท่องเที่ยวว่า ตลาดออสเตรเลียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยครึ่งปีแรกจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นราว 10% จากปีก่อน แต่ความนิยมกลับกระจุกตัวอยู่ที่เส้นทางเดิม เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย และพังงา ทำให้พื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะภาคเหนือยังไม่ถูกค้นพบมากนัก

พิชญา สายแสงจันทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ Credit: SBS Thai
อยากให้นักท่องเที่ยวออสเตรเลียมีโอกาสได้เดินทางไปยังภูมิภาคอื่นของประเทศด้วย เราเห็นว่าเชียงใหม่มีศักยภาพสูงมาก มีโรงแรมดีๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ เราอยากให้เชียงใหม่หรือว่าจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือเป็นที่รู้จักของตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียมากขึ้นพิชญา สายแสงจันทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานซิดนีย์ กล่าว
กลุ่มเป้าหมาย และกลยุทธ์ ‘อยู่นานขึ้น’
หนึ่งในเป้าหมายหลักของการโปรโมตครั้งนี้คือการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ซึ่ง ททท. มองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการขยายตลาดภาคเหนือของไทย
กลุ่มแรกคือ ‘ครอบครัว’ ที่มองหาประสบการณ์การเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเชียงใหม่และเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือมีความพร้อม ทั้งด้านประเพณี ศิลปะ และกิจกรรมที่เหมาะกับทุกวัย
อีกกลุ่มคือกลุ่ม ‘มิลเลนเนียล’ หรือคนรุ่นใหม่ที่ชอบการเดินทางเชิงผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การปีนเขา หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่น

การแสดงฟ้อนรำภาคเหนือ Credit: SBS Thai
เป้าหมายร่วม: ใช้ “อาหาร–วัฒนธรรม–กิจกรรมชุมชน” ดันภาพรวมการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ของสองประเทศ
ทั้งกงสุลใหญ่ฯ และ ททท. ซิดนีย์ ต่างมองเห็นพลังของ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ไทย โดยเฉพาะอาหาร ศิลปะ และกิจกรรมชุมชน ซึ่งสามารถใช้เป็นประตูเชื่อมนักท่องเที่ยวเข้าถึงประสบการณ์ไทยที่ลึกกว่าแค่ภาพจำชายหาดและทะเล

ผู้ร่วมงานชิมอาหารและสัมผัสสินค้าพื้นเมืองทางภาคเหนือของไทย Credit: SBS Thai
“อาหารไทยเก็เป็นหนึ่งใน soft power นําไปสู่วัฒนธรรม ประเพณี หัตถกรรม พื้นเมือง และช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพัฒนาขึ้นไปอีก”

กิจกรรมเขียนชื่อภาษาไทยบนร่ม ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมทางภาคเหนือของไทย Credit: SBS Thai

กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์และคณะกงสุลไทยพูดคุยกับผู้เข้าร่วมงาน Credit: SBS Thai

ผู้อำนวยการ ททท. ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน Credit: SBS Thai