สนธิสัญญาคืออะไร? และเหตุใดจึงสำคัญต่อออสเตรเลีย?

First Peoples Assembly Gather In Gardens Of Parliament In Victoria

สมัชชาชนพื้นเมืองรวมตัวกันในสวนของอาคารรัฐสภา ในรัฐวิกตอเรีย Credit: Tamati Smith/Getty Images

เป็นที่ทราบกันดีว่า เดิมออสเตรเลียคือถิ่นฐานของชนพื้นเมืองอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส ผู้สืบทอดวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่ต่างจากหลายประเทศ ออสเตรเลียยังไม่มี ‘สนธิสัญญา’ ระดับชาติที่รับรองสิทธิของชนพื้นเมืองอย่างเป็นทางการ ทำความเข้าใจว่าสนธิสัญญาคืออะไร? สำคัญอย่างไร? และกระบวนการเจรจาทำสนธิสัญญาคืบหน้าแค่ไหน?


ประเด็นสำคัญ
  • สนธิสัญญาคือข้อตกลงอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียกับชนพื้นเมืองออสเตรเลีย
  • สำหรับชนพื้นเมือง สนธิสัญญาถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความยุติธรรม ความเคารพ และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
  • สนธิสัญญาระดับชาติจะเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรับรองสิทธิของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสทั่วออสเตรเลีย
‘สนธิสัญญา’ หรือ treaty คือข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ซึ่งเกิดจากการเจรจาระหว่างกลุ่มหรือฝ่ายต่าง ๆ ในกรณีนี้คือระหว่างชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส กับรัฐบาลออสเตรเลีย

เมื่อครั้งที่อังกฤษเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนของชนพื้นเมือง พวกเขาประกาศว่าดินแดนนี้เป็น “แผ่นดินรกร้างที่ไม่มีผู้ครอบครอง” หรือ “เทอร์รา นูลลิอุส (terra nullius)” ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เห็นความจำเป็นในการเจรจากับชนเผ่าพื้นเมือง และนี่เหตุผลที่หลายคนเรียกสิ่งนี้ว่า “ภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น”

โดยปกติแล้ว สนธิสัญญาถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการยอมรับอำนาจอธิปไตย รูปแบบของสนธิสัญญาอาจแตกต่างกันไป และครอบคลุมหลายประเด็น เช่น การแบ่งปันที่ดิน ทรัพยากร และการปกครองร่วมกัน

ต่างจากประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา และนิวซีแลนด์ ออสเตรเลียไม่เคยมีสนธิสัญญากับชนพื้นเมืองของตนมาก่อน

สำหรับชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส สนธิสัญญาหมายถึงการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต การคุ้มครองสิทธิ และการสร้างพื้นที่ให้ชุมชนของตนมีสิทธิ์และเสียงในการตัดสินใจกับเรื่องที่กระทบต่อชีวิตพวกเขา

ดร.แฮร์รี ฮอบส์ นักกฎหมายอธิบายเรื่องนี้ว่า

“โดยอุดมคติแล้ว สนธิสัญญาควรเป็นการเจรจาระหว่างชุมชนอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส กับรัฐบาลทั้งระดับมลรัฐและรัฐบาลสหพันธรัฐ (รัฐบาลกลาง) เพราะรัฐธรรมนูญออสเตรเลียได้แบ่งอำนาจระหว่างรัฐบาลทั้งสองระดับไว้แล้ว”
Australians Observe Australia Day Holiday
ผู้ประท้วงเดินขบวนจากอาคารรัฐสภาไปยังสถานีรถไฟฟลินเดอร์ส สตรีต ระหว่างการประท้วง “Treaty Before Voice – Invasion Day” เมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2023 ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย Credit: Getty Images/Alexi J. Rosenfeld
เนื่องจากออสเตรเลียมีชนพื้นเมืองนับร้อยกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีภาษาและดินแดนของตนเอง การเจรจาจึงซับซ้อน รวมถึงยังมีมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับลำดับความสำคัญในกระบวนการนี้ด้วย

แล้วทำไมสนธิสัญญาจึงมีความสำคัญ?

สำหรับชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส สนธิสัญญาคือก้าวสำคัญสู่ความยุติธรรมและความเคารพ

รูเบน เบิร์ก ชายชาวกันดิจ์มารา (Gunditjmara) และผู้นำในการเจรจาสู่สนธิสัญญา กล่าวว่า
ผมคิดว่าสนธิสัญญามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือการปรับความสัมพันธ์ระหว่างชนพื้นเมืองกับรัฐบาล ไม่ว่าจะในระดับรัฐหรือระดับเครือจักรภพ
เบิร์กกล่าว
ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้เชื่อว่า สนธิสัญญาจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้จริง

พวกเขามองว่า สนธิสัญญาสามารถรับรองสถานะของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสในฐานะชนพื้นเมืองดั้งเดิมของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ และเปิดพื้นที่ให้เกิด ‘การบอกเล่าความจริง (truth-telling)’ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการล่าอาณานิคมของประเทศ

สนธิสัญญายังสามารถวางรากฐานของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับชุมชน ในประเด็นสำคัญต่างๆ อย่างเท่าเทียม เช่น ที่ดิน น้ำ สุขภาพ การศึกษา ที่อยู่อาศัย การจ้างงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจ

สนธิสัญญายังหมายถึงการคุ้มครองและฟื้นฟูภาษา วัฒนธรรม และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อส่งต่อมรดกเหล่านี้ให้คนรุ่นต่อไปด้วย

โทนี แมกอะวอย ชายชาวเวียร์ดี (Wirdi) และทนายความให้ความเห็นว่า

“เมื่อเราสามารถควบคุมชีวิตของตัวเอง ตัดสินใจด้วยตนเอง และจัดสรรการบริการของพวกเราเอง เราจะมีความแข็งแรงและแข็งแกร่งทั้งทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรม ถ้าคุณยอมรับว่านี่คือหนึ่งในผลลัพธ์ของสนธิสัญญา ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศทั้งหมด”
A man and two women standing near each other and smiling, in front of a wall that has a mural of people marching with signs displaying First Nations messages.
(จากซ้ายไปขวา) โจชัว ครีเมอร์ อดีตประธานคณะกรรมการสอบสวนด้านการบอกความจริงและการเยียวยาแห่งรัฐควีนส์แลนด์, นาโอมิ มอแรน กรรมาธิการสนธิสัญญาแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ และงาร์รา เมอร์เรย์ หนึ่งในประธานของสมัชชาชนพื้นเมืองแห่งรัฐวิกตอเรีย Credit: NITV / The Point
วุฒิสมาชิก ลิเดีย ธอร์ป หญิงชาวกันไน (Gunnai) กันดิจ์มารา (Gunditjmara) และจาบวูรอง (Djab Wurrung) เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการทำสนธิสัญญาอย่างเปิดเผย

และเธอเชื่อว่าชุมชนท้องถิ่นควรเป็นผู้นำในกระบวนการนี้

“ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องให้แต่ละเผ่าและแต่ละชาติพันธุ์มีตัวแทนในระดับรัฐบาลท้องถิ่น เพราะชุมชนเหล่านั้นจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง”

แล้วกระบวนการเจรจาเพื่อทำสนธิสัญญาในออสเตรเลียคืบหน้าถึงไหน ในขณะนี้?

ในรัฐวิกตอเรีย กระบวนการจัดทำสนธิสัญญากำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีข้อตกลงระดับรัฐฉบับแรกในปี 2025

ผ่านองค์กรที่มาจากการเลือกตั้งชื่อว่า สมัชชาชนพื้นเมืองแห่งรัฐวิกตอเรีย (First Peoples’ Assembly of Victoria) โดยชนพื้นเมืองออสเตรเลียจะมีสิทธิ์และเสียงโดยถาวร ในการกำหนดกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรง

ขณะเดียวกัน ในรัฐควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์ เซาท์ ออสเตรเลีย และมณฑลนอร์เทิร์น เทร์ริทอรี กระบวนการยังอยู่ในขั้นตอนที่แตกต่างกันไป

บางรัฐบาลจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากชุมชน ขณะที่บางแห่งยังอยู่ระหว่างการวางแผน
SENATE QUESTION TIME
วุฒิสมาชิกอิสระ ลิเดีย ธอร์ป ขณะอภิปราย ในห้องประชุมวุฒิสภา ที่อาคารรัฐสภา กรุงแคนเบอร์รา Source: AAP / AAPIMAGE/MICK TSIKAS
โดยในที่สุด สนธิสัญญาระดับชาติจะหมายถึงข้อตกลงหนึ่งเดียวที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะที่สนธิสัญญาระดับรัฐและมณฑลจะมุ่งเน้นประเด็นเฉพาะของแต่ละพื้นที่และความต้องการของแต่ละชุมชน

อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนหลายคนเชื่อว่า ออสเตรเลียจำเป็นต้องมีทั้งสนธิสัญญาระดับชาติและระดับรัฐ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นธรรมอย่างแท้จริง

เพราะแต่ละชุมชนมีประวัติศาสตร์และบริบทเฉพาะของตน ดังนั้นสนธิสัญญาแต่ละฉบับจึงย่อมมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป

โดยสรุป สนธิสัญญามีความหมายในเชิง กฎหมายและความสัมพันธ์ ในการเอื้อให้คนออสเตรเลียทั้งหมดเลือกอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกัน ทั้งผู้ที่เป็นชนพื้นเมืองและผู้ที่ไม่ใช่ชนพื้นเมือง

สำหรับหลายคน มันคือก้าวสู่ประเทศที่เท่าเทียมและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้น เป็นประเทศซึ่งทุกเรื่องราวและทุกชุมชนมีที่ยืนของตนเอง

 
AE ตอนนี้มีเสียงจากรายการโทรศัพท์ Living Black – The Case for a Treaty ซึ่งออกอากาศเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2025

สามารถรับชมได้ทาง SBS On Demand

Stream free On Demand

Thumbnail of The Case For A Treaty

The Case For A Treaty

episode Living Black • 
News And Current Affairs • 
34m
episode Living Black • 
News And Current Affairs • 
34m

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย

คุณสามารถส่งคำถามหรือไอเดียหัวข้อที่น่าสนใจมาได้ที่ australiaexplained@sbs.com.au

ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

Share

Recommended for you

Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand