ออสเตรเลียแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจำเป็นด้วยโครงการ Welcome Experience

Woman in Medical Frontliner Uniform-pexels-laura-james.jpg

ฟาเตเมห์และซาอีด อพยพจากอิหร่านมาทำงานในแถบภูมิภาคออสเตรเลีย

หลายเมืองในแถบภูมิภาคออสเตรเลียเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานจำเป็นอย่างหนัก รัฐ NSW พยายามแก้ไขเรื่องนี้ด้วยโครงการ Welcome Experience ให้ความช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย โรงเรียน และการใช้บริการชุมชน หวังจูงใจให้มีแรงงานแถบภูมิภาคมากขึ้น


ฟาเตเมห์ โมเฮบปูร์ แพทย์ทั่วไป (General practitioner หรือ GP ) ที่เมืองมัสเวลล์บรูค ในภูมิภาคฮันเตอร์ ซึ่งห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือ 248 กิโลเมตร

เมื่อปีที่แล้ว เธอตัดสินใจย้ายจากชีราซ ประเทศอิหร่าน มายังเมืองเล็กที่มีประชากรราว 16,000 คน

“สีตาของฉัน สีผมของฉัน แตกต่างจากพวกเขาทั้งหมด แต่พวกเขากลับยอมรับฉันเป็นหนึ่งในสมาชิก ซึ่งทำให้ฉันทึ่งมาก และมันทำให้ฉันรู้สึกว่า ‘นี่คือบ้านของฉัน’”
Fatemeh and Saeed Mohebpour (SBS).jpg
ฟาเตเมห์และซาอีด โมเฮบปูร์ อพยพจากอิหร่านมาทำงานแถบภูมิภาครัฐนิวเซาท์เวลส์ Source: SBS
สำหรับเมืองในภูมิภาคหลายแห่ง การดึงดูดและรักษาแรงงานจำเป็น (essential worker) เช่นฟาเตเมห์ ยังคงเป็นเรื่องท้าทายและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชุมชน

“คุณไม่สามารถคลอดลูกที่มัสเวลล์บรูคได้ เพราะที่นี่ไม่มีผดุงครรภ์ ชุมชนที่นี่อบอุ่นมาก เราต้องหาทางดึงแรงงานมา และนั่นคือปัญหา”

“ความจริงที่ว่าเรายังอยู่ในปี 2025 แต่ผู้หญิงไม่สามารถคลอดลูกในเมืองที่อยู่ได้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก”

“ฉันทำงานในเรือนจำท้องถิ่น ทำให้ฉันคิดว่าบริการสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่เมืองเล็ก ๆ ต้องการเสมอ รวมถึงบริการช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์ด้วย”

เจฟฟ์ เดรย์ตัน นายกเทศมนตรีเทศบาลมัสเวลล์บรูค กล่าวถึงสถานการณ์นี้ว่า
เราประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจำเป็นมาพักใหญ่แล้ว ทั้งหมอ พยาบาล หรือแม้แต่สัตวแพทย์ และมันไม่ใช่ปัญหาเฉพาะที่มัสเวลล์บรูค แต่คือปัญหาในบริเวณภูมิภาครัฐ นิวเซาท์เวลส์ และภูมิภาคออสเตรเลียโดยรวม
นายกเทศมนตรีเดรย์ตันกล่าว
รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์จึงเริ่มโครงการที่ชื่อว่า “Welcome Experience” เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยให้การสนับสนุนแก่แรงงานจำเป็น

โครงการนี้ครอบคลุม 15 ภูมิภาค และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดึงดูดแรงงานจำเป็น (Essential Worker Attraction Program) มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์

โดยผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับการดูแลจาก “Local Connector” ที่สามารถให้การช่วยเหลือ ตั้งแต่หาที่อยู่อาศัย บริการดูแลบุตร การหางานให้คู่สมรส ไปจนถึงการแนะนำให้รู้จักเพื่อนบ้าน

คาทรีนา ไคลี ผู้ประสานงานชุมชนของโครงการกล่าวว่า

“บางคนต้องการความช่วยเหลือเรื่องการเช่าบ้าน หรือกำลังมองหาซื้อบ้าน อาจจะมีสมาชิกครอบครัวที่มีความต้องการพิเศษ ที่ต้องการความช่วยเหลือจาก NDIS ด้วย พวกเขาคือผู้ที่อพยพมาตั้งรกราก ออกจากชีวิตเดิม ไม่ว่าจะจากต่างประเทศ จากรัฐอื่น หรือแม้แต่จากเมืองใหญ่ และโครงการนี้คือการสร้างหลักยึดและเครือข่ายสนับสนุนสำหรับพวกเขา”

ปัจจุบัน ฟาเตเมห์และสามีของเธอ ซาอีด โมเฮบปูร์ คือหนึ่งในชาวต่างถิ่นราว 200 คนในภูมิภาคอัปเปอร์ ฮันเตอร์ที่ตั้งรกรากได้สำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากโครงการนี้

“พวกเขาพาเราไปแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในเมือง เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ยิม ทุกอย่าง สำหรับคนที่มาใหม่ทั้งหมด มันเป็นสิ่งที่ดีมาก เราคิดถึงครอบครัว คิดถึงบ้านเกิด แต่พวกเขาช่วยให้เราไม่ต้องทุกข์มากจากสิ่งนั้น”
Support program helps ease housing struggles for regional workers
เมืองมัสเวลล์บรูค ในเขตฮันเตอร์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ Source: SBS
อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของโครงการ “Welcome Experience” คือการช่วยให้แรงงานจำเป็นสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม เช่น การเข้าร่วมชมรมกีฬา กลุ่มชุมชน และกิจกรรมต่าง ๆ

ฟาเตเมห์และซาอีดเพิ่งไปเข้าร่วมคืนแข่งขันตอบคำถามที่ผับท้องถิ่น

“เราได้พบกับเพื่อนใหม่ ๆ และคนใหม่ ๆ ที่นี่” ซาอีดกล่าว

“มันเปิดโอกาสให้เราได้เจอคนในชุมชน ที่ปกติเราอาจจะไม่เจอในที่ทำงานหรือแม้แต่ในยิม มันช่วยในการทำความรู้จักกับเพื่อนได้ดีมาก” ฟาเตเมห์กล่าว

คาทรีนา ไคลี ผู้ประสานงานชุมชนของโครงการเสริมว่า

“ความสำเร็จของบริการนี้ก็คือ ‘การสานความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์’ ซึ่งไม่มีอะไรทดแทนได้ หากใครสักคนย้ายมาอยู่เมืองใหม่ แน่นอนว่าเขาอาจจะหาข้อมูลจากกูเกิล หรือ ChatGPT เกี่ยวกับโรงเรียนหรือบริการต่าง ๆ ได้ แต่การได้ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์จริง ๆ ที่เข้าใจและมีความเห็นอกเห็นใจ มันไม่มีอะไรมาแทนได้เลย”
Jamberoo Pub
ผู้คนในผับกำลังเชียร์กีฬา Source: SBS / SBS News
โครงการนี้เกิดขึ้นหลังมีการลงทุนขนาดใหญ่ในภูมิภาค เพื่อเปลี่ยนผ่านจากการทำเหมืองไปสู่พลังงานหมุนเวียน

โดยขณะนี้มีการพัฒนาฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ที่คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 60,000 ครัวเรือน

เจฟฟ์ เดรย์ตัน นายกเทศมนตรีมัสเวลล์บรูค กล่าวว่า

“ในอีก 4 ปีครึ่ง เราจะสูญเสียเหมืองถึง 60% และเราต้องหาอุตสาหกรรมใหม่และงานอีกมากมายมาทดแทน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลต้องสนับสนุนเรา และสนับสนุนโครงการนี้”

ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของมัสเวลล์บรูค 26 กิโลเมตร คือเมืองเดนแมน ซึ่งอาชา โธมัส ทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลท้องถิ่น

เธอเป็นชาวอินเดีย และย้ายมาอยู่ออสเตรเลียเมื่อเดือนมีนาคม 2024 หลังจากทำงานเป็นพยาบาลในสหราชอาณาจักรมานาน 3 ปี

“มันเป็นความฝันของฉันที่จะได้มาออสเตรเลีย ฉันรักที่นี่จริง ๆ เพราะฉันชอบบรรยากาศที่สงบ และมันเป็นชุมชนเล็ก ๆ เลยตัดสินใจลองมาอยู่ที่นี่”
ภายใต้โครงการ Welcome Experience เทศบาลท้องถิ่นได้ขอความช่วยเหลือจากกลุ่ม Men’s Shed ในพื้นที่ เพื่อช่วยประกอบเฟอร์นิเจอร์ในบ้านใหม่ของอาชา สามี และลูกชาย

รอด จอห์นสัน และโทนี ฟอร์ร์ จากกลุ่ม Men’s Shed กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“เราแกะกล่องเฟอร์นิเจอร์ออกมา ดูคู่มือ แล้วก็นั่งเกาหัวกันอยู่ครึ่งชั่วโมง ลองประกอบอยู่สามรอบกว่าจะถูกต้อง แต่สุดท้ายก็สำเร็จ” ฟอร์ร์กล่าว

“ถ้าคุณสามารถช่วยใครได้ ทำไมจะไม่ทำล่ะ” จอห์นสันกล่าว

อาชากล่าวว่า เธอประทับใจมากกับความช่วยเหลือที่เธอได้รับ

“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครช่วยฉันทุกอย่างแบบนี้ และฉันรู้สึกปลอดภัยมากที่นี่ มันเป็นวิถีชีวิตที่ไม่รีบเร่ง มีคุณภาพชีวิตดี ฉันเห็นตัวเองอยู่ที่เดนแมนได้อีกหลายปี”


Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
ออสเตรเลียแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจำเป็นด้วยโครงการ Welcome Experience | SBS Thai