ออสเตรเลียได้ยกเลิกข้อจำกัดจำนวนนักศึกษาต่างชาติแล้ว

ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาหวังว่าออสเตรเลียจะสามารถใช้ประโยชน์จากความไม่แน่นอนของโลกและเพิ่มจำนวนนักศึกษาได้อีก 25,000 คน หลังจากที่ได้ความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการกระจายนักเรียน

Group of young students communicating and exchange ideas while walking in the university campus

มหาวิทยาลัยจะต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเพิ่มจำนวนหอพักนักศึกษาและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียเพื่อที่จะสมัครขอเพิ่มการจัดสรรจำนวนนักศึกษา Source: Getty / goc

การเพิ่มจำนวนนักศึกษา 25,000 คนในปีหน้าได้รับการตอบรับจากภาคมหาวิทยาลัย แม้จะมีข้อกังขาเกี่ยวกับวิธีการปลดล็อกหลายประเด็น

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจสัน แคลร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ (National Planning Level) สำหรับการเพิ่มจำนวนนักศึกษา 295,000 ที่นั่งในปี 2026 เพื่อบริหารจัดการการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง "ยั่งยืน"

รัฐบาลเล็งออกคำสั่งใหม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ แทนที่คำสั่งรัฐมนตรีที่ 111 ซึ่งทำหน้าที่เป็นกฎโดยพฤตินัยและมีผลบังคับใช้ในการลดจำนวนนักศึกษาโดยการชะลอการดำเนินการขอวีซ่าและกำหนดโควตาสำหรับนักศึกษาต่างชาติให้กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง

แคลร์ประกาศข้อควรระวังสองประการสำหรับมหาวิทยาลัยในการรับนักศึกษาเพิ่มเติม ได้แก่ ที่พักนักศึกษา และการมุ่งเน้นไปที่ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
A man wearing a suit and tie speaking.
เจสัน แคลร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าจำนวนมหาวิทยาลัยนานาชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ภายในปี 2026. Source: AAP / Lukas Coch
ฟิล ฮันนี่วูด ผู้อำนวยการของสมาคมการศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลีย (IEAA) แสดงความยินดีกับการเพิ่มจำนวนนักศึกษาขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ แต่เน้นย้ำว่าระดับดังกล่าวยังคงต่ำกว่าช่วงการระบาดใหญ่

“การเพิ่มขึ้นใดๆ ของจำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนจากรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง... อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่แน่นอน” เขากล่าวกับ SBS News

“วิทยาลัยสอนภาษาอังกฤษของพวกเรากำลังพังลง เนื่องจากค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนที่สูง และความกังวลว่าอนาคตการศึกษาของนักเรียนนานาชาติของออสเตรเลียจะไม่สดใส”
อเล็ก เว็บบ์ ซีอีโอของ Regional Universities Australia แสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้ด้วย "แง่บวก" พร้อมย้ำข้อเท็จจริงที่ว่า "ไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่จะทดถอยในปี 2026"

"นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าออสเตรเลียยังคงทำการอยู่ และออสเตรเลียควรยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักศึกษาต่างชาติที่สนใจจะศึกษาต่อ" เว็บบ์กล่าวกับ SBS News

ที่อยู่อาศัยใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

มหาวิทยาลัยต่างๆ จะต้องแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความก้าวหน้าในการจัดหาที่พักนักศึกษาที่ปลอดภัยสำหรับนักศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อที่จะยื่นขอเพิ่มการจัดสรรจำนวนนักศึกษา

ฮันนี่วูดสนับสนุนให้เปลี่ยนมาโพกัสประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกว่า เช่น ไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น "ตลาดแหล่งนักศึกษาที่ยอดเยี่ยม" แต่เขากลับแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่อยู่อาศัย

“บริษัทที่จัดหาและสร้างที่พักเพื่อนักศึกษาเฉพาะต้องใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะโครงการจะได้รับการอนุมัติและเริ่มก่อสร้างได้ ซึ่งแน่นอนว่าถือเป็นเรื่องที่ยาวนานมาก” เขากล่าว
เวบบ์ก็แสดงความกังวลเช่นกัน โดยหวังว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ จะได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังเกี่ยวกับที่พักอาศัยในเร็วๆ นี้ รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแบ่งจำนวนที่พักอาศัย 25,000 แห่งระหว่างมหาวิทยาลัยในเขตเมืองและมหาวิทยาลัยในภูมิภาค

"แน่นอนว่านั่นไม่ใช่การสร้างพื้นที่ใหม่ เพราะมีความล่าช้าอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในการขออนุญาตก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการก่อสร้างจริงด้วย" เขากล่าว

"ดังนั้นเราจึงกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับกระทรวงและรัฐบาลเพื่อทำความเข้าใจความคาดหวังเกี่ยวกับการจัดหาที่พักอาศัยให้ดียิ่งขึ้น"

SBS News ได้ติดต่อแคลร์เพื่อขอความคิดเห็น
การให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยสะท้อนให้เห็นถึงจุดบรรจบระหว่างการศึกษาและการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นประเด็นที่ถกเถียงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งระดับสหพันธรัฐ

ปีเตอร์ ดัตตัน อดีตผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่าวิกฤตการณ์ที่อยู่อาศัยทวีความรุนแรงขึ้นจากจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสูงถึง 536,000 คนในปีงบประมาณ 2022-23 และนำประเด็นนี้มาใช้เป็นข้ออ้างในการลดจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน

เมห์รีน ฟารูกี วุฒิสมาชิกพรรคกรีน คัดค้านกฎหมายจำกัดจำนวนนักศึกษาของพรรคแรงงานเมื่อปีที่แล้ว โดยโต้แย้งว่านักศึกษาต่างชาติกำลังถูกใช้เป็น "แพะรับบาป" สำหรับ "วิกฤตการณ์ที่อยู่อาศัยที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้น"

ออสเตรเลียเป็นตัวเลือกที่ 'แย่น้อยที่สุด'

ภาคส่วนนี้ได้แสดงความกังวลว่าการถกเถียงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับจำนวนนักศึกษาต่างชาติกำลังเป็นอุปสรรคต่อนักศึกษาที่กำลังจะเลือกออสเตรเลีย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่มีมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ฮันนี่วูดกล่าวว่าออสเตรเลียสามารถใช้ประโยชน์จากผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดโลกเมื่อเร็วๆ นี้ อันเนื่องมาจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ในสหรัฐอเมริกา

“ออสเตรเลียโชคดีมากที่ประเทศอื่นๆ ที่เราแข่งขันด้วย โดยเฉพาะแคนาดา สหรัฐอเมริกาของโดนัลด์ ทรัมป์ในขณะนี้ และสหราชอาณาจักร กำลังลดจำนวนนักศึกษาต่างชาติลงเช่นกัน” เขากล่าว

“ดังนั้น เมื่อนักศึกษากำลังคิดว่าจะไปเรียนที่ประเทศใด พวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในหลายๆ กรณี ออสเตรเลียเป็นประเทศที่แย่น้อยที่สุดในแง่ของความสามารถในการเข้าถึงการศึกษา”
Donald Trump
ตั้งแต่ภาษีศุลกากรไปจนถึงการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญมองว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความไม่แน่นอนระดับโลกที่ออสเตรเลียสามารถใช้ประโยชน์ได้ Source: AP / Evan Vucci
ประกาศประจำสัปดาห์นี้ระบุถึงขีดความสามารถสำหรับปี 2026 ก่อนที่จะมีกฎหมายใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่านความเห็นชอบ ซึ่งจะจัดตั้งคณะกรรมการการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งออสเตรเลีย (Australian Tertiary Education Commission)

คณะกรรมการนี้จะกำกับดูแลจำนวนนักศึกษาและการจัดสรรงบประมาณสำหรับมหาวิทยาลัย โดยพิจารณาหลักสูตรและทักษะที่จำเป็นให้สมดุล และหวังว่าจะสร้างเสถียรภาพให้กับภาคส่วนนี้ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป


ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share

Published

By Ewa Staszewska
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand