ประเด็นสำคัญ
- การเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลสามารถทำได้กับสำนักงานทะเบียนราษฎรในรัฐหรือมณฑลที่คุณอาศัยอยู่
- ในบางกรณี การเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรส ไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องกับสำนักงานทะเบียนราษฎร
- หลังเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลแล้ว คุณยังต้องแจ้งต่อหน่วยงานอื่นด้วย เช่น กระทรวงกิจการภายใน
ชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายคือชื่อที่ปรากฏบนเอกสารยืนยันตัวตน เช่น สูติบัตร หนังสือเดินทาง หรือวีซ่า
หากคุณเป็นพลเมืองออสเตรเลียหรือผู้พำนักถาวร คุณสามารถเปลี่ยนชื่อได้ผ่านสำนักงานทะเบียนราษฎร (Registry of Births, Deaths & Marriages หรือ BDM)
เดอรีส คิวบิน โฆษกของสำนักงานทะเบียนราษฎร ที่ Access Canberra กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อและนามสกุลขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล
“เหตุผลอาจรวมถึงการเปลี่ยนชื่อเล่นให้ถูกต้องตามกฎหมาย การเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรสในต่างประเทศ หรือการเลือกชื่อใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับอัตลักษณ์ทางเพศ หลายคนติดต่อมายังสำนักงานทะเบียนราษฎรในมณฑลนครหลวงแคนเบอร์รา เพื่อขอเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของตน ซึ่งเป็นคำร้องที่พบมากขึ้นเรื่อย ๆ”

แบบฟอร์มการยื่นขอใบสูติบัตรในออสเตรเลีย Source: AAP / PAUL BRAVEN/AAPIMAGE
เช่น เอลเลียต ฟ็อกซ์ ศิลปินทัศนศิลป์ ผู้อพยพมากับครอบครัวจากเชโกสโลวะเกียตั้งแต่ยังเด็ก
“ตอนที่เรามาถึง ชื่อของเราถูกลงทะเบียนโดยฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย เครื่องหมายกำกับเสียงเหนืออักษรถูกลบออก เพราะในอักษรภาษาอังกฤษไม่มีเครื่องหมายเหล่านี้ นั่นทำให้ชื่อของเราถูกอ่านต่างออกไปจากเดิม การเติบโตในออสเตรเลียทำให้ผมรู้สึกยากที่จะเชื่อมโยงกับชื่อของตัวเอง และมันไม่ทำให้ผมมีความมั่นใจ”
หลายปีต่อมา ฟ็อกซ์ได้ยื่นขอเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่เขาชอบ ช่วยสร้างความมั่นใจ และสอดคล้องกับอัตลักษณ์ในฐานะศิลปินทัศนศิลป์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คุณอาจรู้สึกจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อความชัดเจนในทางธุรการ
เมฮรานกีซ ตาบาโตบาอี ผู้จัดการฝ่ายดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานที่ศูนย์ข้อมูลช่วยเหลือผู้อพยพแห่งรัฐแทสเมเนีย (Migrant Resource Centre Tasmania) เคยช่วยผู้อพยพหลายรายสำหรับกระบวนการนี้
“หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยคือคนจากเมียนมาที่มาตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลีย มักเป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักการตั้งชื่อ ความผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นคือการสันนิษฐานว่าส่วนท้ายของชื่อคือ ‘นามสกุล’ ทั้งที่จริงแล้วคนเมียนมาโดยปกติไม่ได้ใช้นามสกุลเลย”

ใบสูติบัตรของออสเตรเลีย Source: iStockphoto / Yau Ming Low/Getty Images
แต่โรงเรียนของเธอบันทึกส่วนที่สองของชื่อเป็นนามสกุล ซึ่งก่อให้เกิดความสับสน
“เมื่อเธอยื่นขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเปิดบัญชีธนาคาร แต่ละหน่วยงานตีความชื่อเธอต่างกัน บางแห่งใช้พยางค์แรกเป็นนามสกุล บางแห่งใช้พยางค์ที่สอง และบางแห่งรวมทั้งสองพยางค์เป็นนามสกุลเดียว สุดท้ายเธอต้องยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อกับสำนักงานทะเบียนราษฎร เพื่อสร้างรูปแบบชื่อและนามสกุลที่สอดคล้องกันให้ทุกระบบยอมรับได้”
อย่างไรก็ตาม กระบวนการเปลี่ยนชื่อจะแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น ขั้นตอนแรกคือเข้าไปดูในเว็บไซต์ของสำนักงานทะเบียนราษฎรของรัฐหรือมณฑลที่คุณอาศัยอยู่
หากคุณเกิดในออสเตรเลีย วิธีที่ง่ายที่สุดคือยื่นขอเปลี่ยนชื่อกับสำนักงานที่บันทึกการเกิดของคุณ แม้ว่าจะสามารถยื่นนอกเขตได้ก็ตาม
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเปลี่ยนชื่อในมณฑลนครหลวงแคนเบอร์รา คุณต้องเกิดในที่นั่น หรือแสดงหลักฐานการพำนักที่นั่น
นอกจากนี้ข้อกำหนดยังแตกต่างกันไปตามอายุด้วย
หากคุณมีอายุมากกว่า 18 ปี คุณสามารถยื่นขอเปลี่ยนชื่อได้โดยตามสะดวก แต่หากคุณอายุต่ำกว่า 18 ปี ปกติแล้วผู้ปกครองต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่เยาวชนอาจขอเปลี่ยนชื่อโดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ปกครอง เช่น การเปลี่ยนชื่อเพื่อให้เหมาะสมกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเองคิวบินอธิบาย

ควรพิจารณาชื่อใหม่ให้รอบคอบ เพราะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ Credit: Zero Creatives/Getty Images/Image Source
คุณอาจต้องให้เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อ ว่าคุณเคยเปลี่ยนชื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่ หรือเคยมีประวัติความผิดทางอาญาหรือไม่
สำหรับผู้ใหญ่ คุณสามารถเปลี่ยนชื่อได้สูงสุด 3 ครั้ง โดยไม่นับกรณีหลังสมรสหรือหย่า หรือกรณีความรุนแรงในครอบครัว
คิวบินแนะนำว่า ควรพิจารณาชื่อใหม่ให้รอบคอบ เพราะนี่คือการตัดสินใจที่สำคัญ และมีข้อจำกัดในการเปลี่ยนชื่อ เช่น การเปลี่ยนชื่อเป็นตำแหน่งทางการ หรือชื่อที่ไม่เหมาะสม
และกระบวนการนี้อาจทำให้คุณเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดด้วย
ฟ็อกซ์เล่าประสบการณ์ของเขาหลังได้รับใบรับรองการเปลี่ยนชื่อ
“สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ได้นึกถึงเลยตอนไปยื่นใบสมัคร คือผมต้องมีลายเซ็นใหม่ ผมเลยรีบฝึกลายเซ็นใหม่ตรงนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่รออยู่ มันตลกดี”
ทั้งนี้ ระยะเวลาในการดำเนินการแตกต่างกันไปเช่นกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณยื่น ดังนั้นควรเผื่อเวลาไว้หลายสัปดาห์ และค่าธรรมเนียมอยู่ระหว่าง 200–300 ดอลลาร์
หากคุณเปลี่ยนชื่อหลังการสมรส โดยทั่วไปจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
ในออสเตรเลีย ไม่มีข้อกำหนดหรือความคาดหวังว่าคุณต้องเปลี่ยนนามสกุลเมื่อแต่งงาน แม้ว่าบางคนจะเลือกใช้นามสกุลของคู่สมรสก็ตาม คู่บางคู่ยังรวมและใช้เครื่องหมายยัติภังค์เชื่อมระหว่างนามสกุลด้วย
และในกรณีนี้กระบวนการมักจะค่อนข้างตรงไปตรงมา
หากคุณต้องการใช้นามสกุลของคู่สมรสหลังผ่านพิธีสมรสในออสเตรเลีย โดยปกติแล้วคุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเปลี่ยนชื่อ เพียงใช้ใบทะเบียนสมรสมาตรฐานที่ออกโดยสำนักงานทะเบียนราษฎรของออสเตรเลีย เพื่อใช้ยืนยันการเปลี่ยนชื่อบนเอกสารยืนยันตัวตนสำคัญ เช่น ใบขับขี่และหนังสือเดินทาง”ฟ็อกซ์กล่าว

การเปลี่ยนชื่อและนามสกุลสามารถทำได้กับสำนักงานทะเบียนราษฎรในท้องที่ของคุณ Credit: Unspalsh - Chuttersnap
ในกรณีที่คุณแต่งงานในต่างประเทศ หรือเกิดในต่างประเทศ แต่แต่งงานในออสเตรเลียอาจต่างออกไป เนื่องจากเอกสารบางอย่างอาจไม่ได้รับการรับรองในออสเตรเลีย คุณอาจต้องยื่นผ่านสำนักทะเบียนราษฎร
เมื่อการยื่นขอเสร็จสิ้นแล้ว คุณอาจต้องแจ้งการเปลี่ยนชื่อกับหลายหน่วยงาน รวมถึงเปลี่ยนอีเมลใหม่ด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาพอสมควร
“ผมเริ่มจากการเปลี่ยนชื่อในใบขับขี่และหนังสือเดินทางก่อน ซึ่งถือว่าเป็นสองเอกสารยืนยันตัวตนหลักและสำคัญ จากนั้นจึงค่อย ๆ เปลี่ยนชื่อกับหน่วยงานและธุรกิจอื่น ๆ ส่วนใหญ่มักจะง่าย แม้ว่าธนาคารบางแห่งจะยุ่งยากและซับซ้อน และผมพบว่าการปิดบัญชีเดิมแล้วเปิดบัญชีใหม่ด้วยชื่อใหม่ไปเลยจะง่ายกว่า”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

การขอสัญชาติของเด็กที่เกิดในออสเตรเลีย โดยผู้ปกครองที่ถือวีซ่าชั่วคราว
รายชื่อหน่วยงานที่คุณต้องแจ้งยังรวมถึงเมดิแคร์ (Medicare) กรมสรรพากรออสเตรเลีย (ATO) เซ็นเตอร์ลิงก์ (Centrelink) คณะกรรมการการเลือกตั้งออสเตรเลีย (Australian Electoral Commission) บริษัทประกันภัย กองทุนบำนาญ (Superannuation) รวมถึงการแก้พินัยกรรมทางกฎหมายด้วย
คุณยังต้องยื่นขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และหากคุณมีวีซ่า หรือกำลังยื่นขอวีซ่า อย่าลืมแจ้งกรมกิจการภายใน (Department of Home Affairs) เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อของคุณ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานทะเบียนราษฎรในพื้นที่ของคุณจะเป็นผู้แนะนำขั้นตอนทั้งหมดให้คุณได้
Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย