ทุกครั้งที่มีการสิ้นสุดปีงบการเงินในออสเตรเลีย เป็นช่วงเวลาของปีที่หลายคนอาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ทั้งการปรับโครงสร้างภายในหรือการเปลี่ยนแนวทางการบริหารเพื่อให้เหมาะกับเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ และการเข้ามาของ AI มาเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่หลายคนเชื่อว่ามีส่วนในการเร่งความเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้น
นัท เกษสุรางค์ งามตระกูลชล UX/UI Designer ที่มีประสบการณ์ในสายงานนี้มาตั้งแต่ 2012 ทั้งในไทยและออสเตรเลียได้มาร่วมแชร์กับเราในการรับมือกับการถูกเลิกจ้างจากแผนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในองค์กร (redundancy) ซึ่งเธอเล่าว่าแม้ส่วนตัวจะเคยผ่านเหตุการณ์ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างมาแล้วหลายครั้งตลอดการทำงาน แต่ครั้งนี้สร้างผลกระทบมากที่สุด

นัท เกษสุรางค์ กับชีวิตในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สัญญาณอันตรายในการจ้างงาน
ในบางบริษัท อาจมีประกาศล่วงหน้าอย่างเป็นทางการจากองค์กรว่าจะมีแผนปรับโครงสร้างอย่างชัดเจน เช่น การถูกปฏิเสธการขอเบี้ยเลี้ยงพนักงาน การปฏิเสธงบประมาณเทรนนิง หรือความเงียบงันจากผู้บริหารเมื่อมีการเสนอโปรเจคใหม่นั้น ล้วนแต่เป็นสัญญาณที่อาจนำไปสู่การลดจำนวนพนักงานในอนาคตได้ทั้งนั้น
ด้วยอายุงานในบริษัทแค่หนึ่งปี เราคิดเสมอว่ามีโอกาสจะถูกเลิกจ้างได้ จึงพยายามเก็บข้อมูลและหาวิธีรับมือมาโดยตลอดนัทเล่า
เธอยังเสริมอีกว่า หากในทีมเริ่มสงสัยว่าจะมีการปรับองค์กรหรือมีการจ้างออก บรรยากาศการทำงานจะเงียบและช้าลง เพราะพนักงานไม่กล้าเสนอโปรเจคอะไรใหม่เพราะอาจจะหายไปทั้งหมดหากทีมนั้นโดนจ้างออก แต่ในทางกลับกัน ช่วงเวลานี้อาจถือเป็นโอกาสที่ดีให้เรามีเวลาในการเตรียมตัวล่วงหน้า เช่น ทำเรซูเม่หรืออัพเดทพอร์ทผลงานได้ในระหว่างนั้น

การเก็บเอกสารทุกอย่างไว้กับตัวเสมอ จะทำให้เรามีความพร้อมหากจำเป็นต้องหางานใหม่ในภายหลังนัทแนะนำ เพราะในกรณีเช่นนี้ อะไรก็เกิดขึ้นกระทันหันได้
การต่อรองค่าชดเชยการเลิกจ้าง
สัญญาจ้างงานในออสเตรเลียจะมีการระบุไว้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะในประเด็นการเลิกจ้าง เช่น ระยะเวลาแจ้งล่วงหน้าก่อนจ้างออก หรือจำนวนค่าใช้จ่ายชดเชยตามอายุงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับสัญญาจ้างของต่ละคน และกฎหมายแรงงานว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่
ดังนั้นการเช็คกับสิ่งที่ระบุไว้บนสัญญาที่เรามีอยู่ในมือจะช่วยให้เราเข้าใจว่าตรงกับข้อเสนอของบริษัทหรือไม่ หากไม่เช่นนั้น ก็สามารถใช้ในการปรึกษาทางด้านกฎหมายในการเจรจาค่าชดเชยได้เช่นกัน

นัท เกษสุรางค์ UX/UI Designer ในซิดนีย์กับประสบการณ์การรับมือการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทใหญ่ในออสเตรเลีย
โอกาสครั้งใหม่มีอยู่เสมอ
หลายคนที่ต้องเผชิญกับ redundancy อาจจะเสียกำลังใจหรือกลัวที่จะสมัครงานใหม่ เพราะอาจต้องเจอกับสภานการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต แต่เธอแนะนำว่า ไม่ว่าจะตัดสินใจจะทำอะไรต่อไป สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือปรับสภาพจิตใจของตัวเอง
การถูกจ้างออกเป็นสิ่งปกติที่เกิดได้ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ความผิดจากความสามารถของเรานัทกล่าวให้กำลังใจ
อย่างไรก็ตาม เธอแนะนำในฐานะคนในสายเทคฯ ว่า อุตสาหกรรมนี้แม้ว่าจะมีตัวแปรมากมาย แต่ก็ยังต้องการจะ ‘คน’ เข้ามาดูแลเทคโนโลยีที่องค์กรใช้อยู่ดี
ดังนั้น หากเราเข้าใจเทคโนโลยีและใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้เก่ง ก็มีโอกาสที่จะได้งานอีกแน่นอน แม้ว่าในหนึ่งตำแหน่งอาจมีคู่แข่งร่วมสมัครหลายร้อยคนก็ตาม