SBS Examines: ชาวแอฟริกันพลัดถิ่นรุ่นใหม่เปลี่ยนมารับมือการเหยียดเชื้อชาติอย่างไร

African generations Header.png

ชุมชนชาวแอฟริกันในออสเตรเลียประสบปัญหาเหยียดเชื้อชาติในแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน Credit: AAP, SBS

คนเชื้อสายแอฟริกันมีประสบการณ์โดนเหยียดเชื้อชาติและเลือกปฏิบัติแตกต่างกันไป แล้วคนเชื้อสายแอฟริกันรุ่นใหม่จะร่วมมือทำความเข้าใจและแก้ปัญหานี้อย่างไร


นอร์ ชานีโน เติบโตในออสเตรเลียและถูกเหยียดเชื้อชาติมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขามีเชื้อสายแอฟริกัน

เขาเปิดใจกับ SBS Examines ว่ามุมมองของชุมชนแอฟริกันในออสเตรเลียมองปัญหาการเหยียดเชื้อชาติเปลี่ยนไปอย่างมาก

“คนรุ่นพ่อแม่เขามองว่าตัวเองเป็นคนนอกที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่คนอายุน้อยเขารู้สึกว่าพวกเขาก็เป็นคนออสเตรเลียไม่ต่างกัน เราเกิดและเติบโตที่นี่ ดังนั้นการเหยียดเชื้อชาติพวกเราจึงไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้องเลย” นอร์กล่าว

“พอคนรุ่นผมเข้าไปปรึกษาองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย พวกพ่อแม่เขาก็จะถามว่า ‘นี่พวกเธอจะฟ้องร้องตำรวจหรือไง’ คนรุ่นพ่อแม่เขากลัวว่าตำรวจจะสู้กลับ กลัวว่าตำรวจจะทรมานพวกเขา เพราะประสบการณ์ที่พวกเขาเคยเจอในประเทศที่พวกเขาจากมา”

ไทจิส เคบีดี ทำงานเป็นนักจิตวิทยาที่ให้คำปรึกษาด้านทรอมา หรือบาดแผลทางใจที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เธอให้คำปรึกษากับเยาวชนที่มีเชื้อสายแอฟริกันในออสเตรเลีย

ไทจิสกล่าวว่าคนรุ่นใหม่มักจะโดนเหยียดเชื้อชาติจากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน แต่คนรุ่นก่อนหน้ามักจะประสบการเหยียดเชื้อชาติอย่างเปิดเผยที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคม เช่น กฎหมายที่เลือกปฏิบัติ หรือความประพฤติในที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม พอกระแสต่อต้านผู้อพยพและสื่อที่ปลุกความเกลียดชังต่อชาวแอฟริกันเริ่มกลับมาให้เห็น ทั้งคนคนวัยเยาว์และวัยสูงอายุจึงประสบการเหยียดเชื้อชาติอย่างเปิดเผยมากขึ้น
ปัจจัยอย่างเช่นเพศ ชนชั้น ศาสนา สถานะผู้อพยพ ประเภทวีซ่า สีผิว สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลต่อการเหยียดเชื้อชาติทั้งสิ้น
ไทจิสอธิบาย
โรเบล อับราฮัม ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ชื่อว่า ASPYA ที่เน้นทำงานร่วมกับเยาวชน กล่าวว่าคนในชุมชนไม่ว่าเยาวชนหรือผู้สูงอายุต่างก็พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและช่วยเหลือกันและกัน

“หากคุณรู้จักตัวตนของตัวเอง ว่าคุณมาจากไหน รู้จักรากเหง้าและเรื่องราวของครอบครัวตัวเอง คนอื่นก็พูดจาทำร้ายจิตใจคุณไม่ได้ หากมีคนบอกคุณว่า ‘แกมันไร้ค่า’ แล้วคุณตระหนักว่าครอบครัวของคุณบากบั่นและสู้ฝาชนหลังเพื่อมาสร้างชีวิตใหม่ คำว่าไร้ค่าจากคนอื่นก็ทำอะไรคุณไม่ได้”

เด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน เติบโตมากับความคิดและวัฒนธรรมที่อยู่บนโลกออนไลน์ แตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้า นอร์ ชานีโน ทิ้งท้ายว่า

“คนรุ่นใหม่โตมากับแนวคิดที่ว่าพวกเขาเป็นพลเมืองโลก เขามองว่าโลกใบนี้คือชุมชนเดียวกัน อย่าเอาแต่ชี้นิ้วบอกว่าพวกเขาคิดผิดตรงไหน คุณต้องรู้จักฟังเวลาที่พวกเขาเปล่งเสียง ให้พวกเขารู้ว่าคุณกำลังรับฟังพวกเขาอยู่ แล้วเด็กเหล่านี้ก็พร้อมจะแลกเปลี่ยนและพูดคุยต่อไป”

โรเบล ชี้ว่าหากชุมชนแอฟริกันร่วมมือกับชุมชนแอฟริกันอื่นๆ ในต่างประเทศ คนเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความหวัง

“หากได้เชื่อมต่อกับชาวแอฟริกันพลัดถิ่นทั่วโลก ได้รับฟังประสบการณ์ของผู้อพยพอื่นๆ และต่อยอดการรับมือปัญหาการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หรือประเทศอื่นๆ เราจะได้เห็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าหาญ และเข้มแข็งอย่างแท้จริง”

SBS Examines บทนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Understanding Hate ที่เราจะมาสำรวจว่าคนในชุมชนแอฟริกันมองปัญหาการเหยียดเชื้อชาติแตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้าอย่างไร

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram


Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
SBS Examines: ชาวแอฟริกันพลัดถิ่นรุ่นใหม่เปลี่ยนมารับมือการเหยียดเชื้อชาติอย่างไร | SBS Thai